#เม็ดกระดุมเมฆสิทธิ์หลวงพ่อทับ วัดอนงค์
เป็นเครื่องราง ที่หนุนชะตา เสริมดวง ดีที่สุดคือเมฆสิทธิ์
เมฆสิทธิ์ เป็นผลจากการผสมโลหะเล่นแร่แปรธาตุแบบหนึ่ง มีปรอทเป็นมวลสารหลักพร้อมการเสกซัดแร่ต่าง ๆ ที่กำกับด้วยคาถาอาคมให้แร่ทั้งหลายแปรสภาพและเปลี่ยนวรรณะ ตลอดจนทรงไว้ด้วยความศักดิ์สิทธิ์!!
โลหะที่ได้จะมีลักษณะแข็งแกร่ง แต่ไม่เหนียว เมื่อปอกผิวใหม่ ๆ จะออกวรรณะขาวอมม่วงหรือฟ้า เนื้อในขาว วาวอย่างเงินยวง หากแช่น้ำหรือปล่อยให้สัมผัสอากาศจะค่อยเปลี่ยนสีวรรณกระแส ผิวเป็นสีเขียว เมฆสิทธิ์มีหลายวรรณะแต่ที่นับถือว่าเลิศสุดคือ สีเขียวอมทอง แต่ไม่ค่อยรู้จักกันนัก ซึ่งเป็นลักษณะเด่นมาก
สรรพคุณของเมฆสิทธิ์นับถือว่าดีเด่นทางด้านค้ำหนุนดวงชะตา และสามารถนิมิตบอกอาเพทได้ หากสีวรรณะสดใสหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง
หากวรรณะหม่นหมองมีคราบ ก็บอกอาเพทว่ามีเคราะห์ให้เร่งระวังและนำเครื่องรางเมฆสิทธิ์นั้นมาทำความสะอาดด้วยน้ำฝน หรือน้ำสะอาด
จากนั้นแช่เนื้อเมฆสิทธิ์ไว้อธิษฐานขอน้ำมนต์แก้อวมงคล ต่าง ๆ ได้ดีเรียกว่า “น้ำมนต์กลับดวง” ดั่งเมฆสิทธิ์ที่แปรสีฉันนั้นแลมีฤทธิ์ในการค้ำชูดวงชะตาราศีให้ดีขึ้น เป็นเมตตามหานิยมแก่ผู้พบเห็น เจริญไว้ด้วยลาภและทรัพย์สมบัตินานัปการ อีกทั้งยังคุ้มครองป้องกันให้แคล้วคลาด กลับร้านกลายเป็นดี กันอุบาทว์จัญไรทั้งปวง
บางตำรามีความเชื่อว่า หากใช้เสริมดวง คู่กับกระลา หรือ ราหูอมจันทร์ ทำให้ มีอำนาจอีกทั้ง เป็นคู่หนุนค้ำจุนและเชิดชูให้ด้วงชะตาราศรีดีมิรู้ตกต่ำ...
หลวงพ่อทับ วัดอนงค์ เป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าที่เชี่ยวชาญในวิธีเล่นแร่แปรธาตุ เก่งทางคาถาอาคม ในสมัยนั้นวัดอนงคารามมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อทับเป็นพระลูกวัดแต่มีพรรษาสูงกว่า ท่านได้หลอมโลหะจนได้โลหะเมฆสิทธิ์ ที่มีวรรณะสีสันสวยงามแปลกตา มีคุณวิเศษศักดิ์สิทธิ์เอนกอนันต์แฝงอยู่ในตัว แม้แต่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ก็ได้มาศึกษาแลกเปลี่ยนวิชากับท่าน ลุกอมเนื้อเมฆสิทธิ์ของท่านกลายเป็นวัตถุมงคลที่หายาก
พุทธคุณก็โดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ทั้งเมตามหานิยมโช คล าภค้ๅขๅยร่ำรวย แคล้ วคลา ดปลอดภัย และมหาอุตม์ เรียกว่า “ครอบจักรวาล”เลยทีเดียว
ในคัมภีร์โบราณกล่าวว่า "พระเนื้อเมฆสิทธิ์นับว่าเป็นมงคลทั้งสิ้น ไม่ปลุกเสกก็มีคุณหนุนชะตามิให้ตกต่ำ พระเครื่องและอิทธิวัตถุซึ่งสร้างด้วยโลหะผสม สีเขียว เป็นประกายวาวงามดั่งปีกแมลงทับ พระเครื่องซึ่งมีบุคลาธิษฐาน แสดงออกมาถึงความคงกระพันชาตรีและนิรันตราย เนื้อโลหะผสมตามตำราโบราณยังมิมีอาจารย์ใดสร้างได้ถึงและเทียบเท่า แม้แต่เนื้อโลหะอย่างเดียวก็มีคุ้มชะตาผู้ที่มีอยู่มิให้ตกต่ำ เมฆสิทธิ์คือเนื้อของพระเครื่องและอิทธิวัตถุนั้นแล คนรุ่นเก่ากล่าวกันมา เวลาเดินเข้าป่า หากอมลูกอมหรือพระของท่านไว้ในปากแล้วจะไม่เป็นไข้ป่า และจะไม่ถูกสัตว์ป่าทำร้าย และเมื่อห้อยติดตัวแล้ว จะป้องกันคุณไสยหรือสามารถดูดพิษต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ในระยะหลังมีคนพูดกันมากว่า พระเนื้อเมฆสิทธิ์นี้หากนำบูชาติดตัวแล้วจะเสริมดวงชะตาของผู้นั้นให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการพกติดตัวคู่กับกะลาแกะ พระราหูอมจันทร์ของหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง การพิจารณาพระเนื้อเมฆสิทธิ์ ของหลวงปู่ทับ วัดอนงคาราม มีข้อสำคัญบางประการที่ควรยึดถือประกอบการพิจารณา คือ
1.ความเก่า เนื้อลูกอมหรือพระเมฆสิทธิ์วัดอนงคาราม มีอายุการสร้างนานกว่า 90 ปีแล้ว จึงมีคราบความเก่าให้เห็น โดยเฉพาะผิวพรรณ มีความแห้งเป็นธรรมชาติ บางองค์มีคราบดำบนผิวพรรณ พระที่ไม่ได้ถูกล้างผิวจะพิจารณาได้ง่ายกว่า
2.เนื้อลูกอม หรือพระจะมีสีเขียวเข้ม บางองค์เข้มจนดำ หรือเขียวอมเหลืองเล็กน้อย หลวงปู่ทับท่านเกิดประมาณ ปี พ.ศ.2389 มรณภาพ ปี พ.ศ.2480
เมฆสิทธิ์
เป็นการผสมโลหะเล่นแร่แปรธาตุแบบหนึ่ง โลหะที่ได้จะมีลักษณะแข็งแกร่ง แต่ไม่เหนียว เมื่อปอกผิวใหม่ ๆ จะออกวรรณะขาวอมม่วงหรือฟ้า หากแช่น้ำหรือปล่อยให้สัมผัสอากาศจะค่อยเปลี่ยนสีผิวเป็นเขียวเมฆสิทธิ์มี หลายวรรณะแต่ที่นับถือว่าเลิศคือสีเขียวอมทอง แต่ไม่ค่อยรู้จักนัก และยังมี...วรรณะขาว เขียวปีกแมลงทับ สรรพคุณของเมฆสิทธิ์นับถือว่าดีเด่นทางด้านค้ำหนุนดวงชะตา เช่น โลหะแปรธาตุชนิดอื่น ๆแต่สามารถนิมิตบอกอาเภทได้ หากสีวรรณะสดใสหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง หากวรรณะหม่นหมองมีคราบก็บอกอาเพทว่ามีเคราะห์ให้เร่งระวังและนำเครื่องรางเมฆสิทธิ์นั้นมาทำความ สะอาดด้วยน้ำฝน หรือน้ำสะอาด จากนั้นแช่เนื้อเมฆสิทธิ์ไว้อธิษฐานขอน้ำมนต์แก้อวมงคลต่าง ๆ ได้ดีเรียกว่า “น้ำมนต์กลับดวง” ดั่งเมฆสิทธิ์ที่แปรสีฉันนั้นแล
สนใจสอบถามได้ครับ
|