เหรียญหล่อพระพุทธปางพุทธกวัก เจ้าคุณศรีฯ (สนธ์) วัดสุทัศน์ปี 2493-2494 เนื้อโลหะผสม (พิเศษ ทำเป็นแหวนขนาดเล็ก หายากสุดๆ)
จัดสร้างพร้อมเหรียญหล่อพระพุทธรูปปางต่างๆ ของเจ้าคุณศรีฯ ท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์) ผู้เป็นศิษย์เอกของสมเด็จพระสังฆราช (แพ) แห่งวัดสุทัศน์ โดยท่านเป็นผู้สืบทอดสรรพวิทยาการในการหล่อโลหะทั้งพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ ตลอดจนเหรียญหล่อต่างๆ โดยใช้สูตรการผสมโลหะที่ครบถ้วนถูกต้องตามตำรับตำรา ซึ่งในปัจจุบันพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ของทั้งอาจารย์และลูกศิษย์ ถือว่าได้รับความนิยมสูง
ในสมัยก่อนเหรียญหล่อในภาพข้างต้นถือว่าเป็นของดีราคาถูกที่เทหล่อด้วยเนื้อโลหะของสายวัดสุทัศน์ ปัจจุบันพระชุดนี้ค่อนข้างหายาก โดยเฉพาะบางพิมพ์เช่น พิมพ์พุทธกวัก พิมพ์ป่าเลไลย์ และ พิมพ์นาคปรก
โดยเฉพาะพิมพ์พุทธกวัก ที่ผู้คนในปัจจุบันมีความเชื่อในพุทธานุภาพที่ส่งผลถึง "ความเจริญก้าวหน้าในเชิงธุรกิจการค้า" กันมากขึ้น ฉะนั้นวัตถุมงคลที่เกี่ยวเนื่องในทางเมตตา วาสนา บารมี จึงได้รับความนิยมสูงขึ้นเป็นลำดับ
ในการจัดสร้างแต่ละครั้งนั้น เจ้าคุณศรี (สนธิ์) จะเป็นผู้คำนวณฤกษ์ยามอันเป็นมงคล พร้อมทั้งผสมส่วนผสมของโลหะตามตำรับของวัดสุทัศน์ทุกประการ อีกทั้งไม่ลืมที่จะผสานชนวนมวลสารที่เป็นช่อชนวนของพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ในยุคเก่าที่ทั้งท่านและสังฆราช (แพ) ผู้เป็นอาจารย์ได้จัดสร้างไว้ก่อนหน้านี้
นิมนต์พระเกจิฯ ผู้เชี่ยวชาญเวทย์วิทยาคมในสมัยนั้นให้เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชุดที่เข้าร่วมในพิธีใหญ่ๆ ทั้งวัดราชบพิตร และวัดสุทัศน์เอง เท่าที่มีหลักฐานยืนยันได้ อาทิ เช่น สมเด็จพระสังฆราช (อยู่) วัดสระเกศ , สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงคาราม , หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา , หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ , หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก , หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง , หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ฯลฯ
พระชุดนี้บางส่วนไปออกให้บูชาที่วัดกลางบางแก้ว ฉะนั้นมีความเป็นไปได้ที่ "หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว" ผู้สร้างเหรียญเจ้าสัวรุ่นแรก จะได้มาปลุกเสกให้ด้วย เพราะโดยปกติพระเกจิอาจารย์ที่มาปลุกเสกนั้น มักได้รับพระที่อยู่ในพิธีไปตามสมควร อีกทั้งหลวงปู่บุญเคยมาพำนักที่วัดสุทัศน์บ่อยๆ และมีความสนิทสนมเป็นสหธรรมิกกับท่านเจ้าคุณศรีฯ (สนิทเคารพนับถือกันแบบอาจารย์กับศิษย์ เพราะหลวงปู่บุญแก่พรรษามากกว่าเจ้าคุณศรีฯ) เป็นอย่างดี
ที่มาของพระปางนี้...
หลังจากที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์แล้ว ได้เสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นเวลา ๓ เดือน เพื่อแสดงพระธรรมเทศนาโปรดพุทธมารดาซึ่งไปบังเกิดเป็นเทพบุตร ณ สวรรค์ชั้นดุสิต เพื่อตอบแทนพระคุณ ท้าวสักกเทวราชมีความปิติยินดี จึงรีบป่าวประกาศแก่เทวดาทั้งหลายให้มาฟังพระธรรมเทศนา
"ทรงกวักพระหัตถ์" ตรัสเรียกพระมารดาให้เข้ามานั่งใกล้เพื่อรับพระธรรมเทศนาที่ตั้งพระทัยเสด็จมาโปรด
จนในที่สุดพุทธมารดาได้ดวงตาเห็นธรรม เป็นพระโสดาบัน
|