พระรอดวัดพระสิงห์เชียงใหม่ ที่สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๖ ซึ่งเป็นพระที่ทีมีพุทธคุณใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด เซียนพระหลายท่านยืนยันว่า พระรอดวัดพระสิงห์ เชียงใหม่ บูชาได้ดีไม่แพ้พระรอดอายุพันกว่าปีของลำพูน พระชุดนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์ ในการสร้างพุทธสถานเชียงใหม่ ซึ่งได้กระทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่๒๘ พค ๒๔๙๖ เวลา ๑๑.๔๕ น. และในเดือนเดียวกันนั้นเอง ตรงกับวันขึ้น๑๐ค่ำ เดือน๗ ปีมะเส็ง จัตวาศก จุลศักราช ๑๓๑๕ เริ่มพิธี๙นาฬิกา ๒๑นาที ๔๑ วินาที และเริ่มจุดเทียนชัยเวลา ๑๙.๒๐ น. โดยมี พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ เป็นประธาน ประกอบพิธีมหามงคล พระรอดชุดนี้สร้างจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ เพื่อนำรายได้สมทบทุนสร้างพุทธสถานเชียงใหม่
วัสดุในการสร้างใช้ดิน บริเวณทิศเหนือของวัดพระคง จังหวัดลำพูน ซึ่งเชื่อกันว่าพระรอดมหาวันในสมัย จามเทวีวงศ์ก็ใช้ดินบริเวณนี้สร้าง จึงทำพิธีตั้งศาลเพียงตาอารธนาขอจากพระพุทธรูปและอารักษ์ที่รักษา ดินแดนแห่งนั้น จากนั้นขุดลงไปเพียง๓ศอกก็พบดินขวยปูตามที่ต้องการ ลักษณะดินละเอียดเหนียว เมื่อนำมาสร้างพระแล้วแกร่งและสวยงามมาก เมื่อได้ดินที่ต้องการแล้วก็ให้อ.ผู้ทรงคุณวุฒิละลายดินด้วยน้ำพระพุทธมนต์ แล้วนำมากรองด้วยผ้าขาว เก็บผงดินที่ละเอียดเหมือนแป้งมาผสมกับผงพระธาตุ ผงพระเปิม ผงพระเลี่ยง ผงพระคง ผงพระรอด ผงสมเด็จบางขุนพรหม ผงตรีนิสิงเห ผงปัทมัง ผงพุทธคุณ และผงอิทธิเจของพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า เช่นหลวงปุ่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่อผสมจนเข้าเนื้อเดียวกันแล้วก็ปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดเท่าผลส้ม ส่งลงมากรุงเทพ ให้อ.ฉลอง เมืองแก้ว (อ.ขมังเวทย์) เป็นผู้ทำพิธีใส่ธาตุ แล้วนำกลับสู่เมืองลำพูน เพื่อให้ช่างพิมพ์องค์พระออกมาซึ่งมีทั้งหมด๑๑พิมพ์ เมื่อถึงเวลาฤกษ์ พระมหาราชครูวามมุณี กับท่านพราหมณ์พระครูศิวาจารย์แห่งกรุงเทพ เป็นประธานฝ่ายพราหมณ์ มหาปัญจพิธีโอมอ่านศิวะเวทย์อัญเชิญท้าวเทพยดาทั้งหลายที่สิงสถิตในแผ่นดิน ล้านนา อัญเชิญพระวิญญาณ เจ้าแม่จามเทวีและกษัตริย์ทุกพระองค์ เมื่อจุดเทียนชัย พระมหาราชครูอ่านโองการชุมนุมเทวดา เสร็จแล้วพราหมณ์เป่าสังข์ จบแล้วคณาจารย์ทั้งหมดนั่งปรกบริกรรม ปลุกเศกเป็นเวลา๓วัน๓คืน
คณาจารย์ที่ร่วมในพิธี ก็ล้วนแล้วแต่เป็นที่เคารพนับถือของประชาชน เช่น เจ้าคุณศรีสมโพธิ์ วัดสุทัศน์ , เจ้าคุณศรีสุวรรณวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดลำปาง , หลวงปุ่นาค วัดระฆัง , หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ , หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม , ครูบาวัง วัดบ้านเด่น , พระครูอาคมสุนทร วัดสุทัศน์ , หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ , หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ,หลวงพ่อภักดิ์ วัดบึงทองหลาง , หลวงพ่อทบ วัดเขาชนแดน , หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง , หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ , หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ , หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว , หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวัน , ฯลฯ
ในขณะทีทำพิธีบวงสรวงเจ้าแม่จามเทวี มีฝูงผีเสื้อเป็นจำนวนมากบินมาอยู่เหนือเครื่องสังเวย แล้วกระจายบินหายไป คืนที่กระทำพิธีฟ้าคะนองตลอด เกิดแสงแปลบปลาบทั่วท้องฟ้า อากาศเยือกเย็นผิดจากวันอื่นๆ ส่วนคณาจารย์ทั้งหลายต่างเกิดนิมิตรเป็นมงคลต่างๆกัน น่าอัศจรรย์ยิ่ง
ประสบการณ์ ของพระรอดวัดพระสิงห์ ก็เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน เช่นในคราวที่เกิดสงครามเวียดนาม ประเทศไทยได้ส่งทหารไปร่วมรบกับอเมริกา ส.อ.ธาริน แสงศิริ ได้ถูกส่งตัวไปร่วมรบด้วย ( กองพันเสือดำ ) ซึ่ง ส.อ.ธาริน ได้เล่าว่า ได้รับพระรอดรุ่น ๙๖ จากบิดา คล้องคอไปเพียงองค์เดียว เมื่อได้รับมอบหมายให้ออกลาดตระเวณ ขากลับขณะกำลังกลับเข้าข่าย ก็โดนระเบิด และ ถล่มยิงด้วยอาวุธหนักของเวียดกง ชนิดที่ว่าไม่ได้ตั้งตัว ส.อ.ธาริน บอกว่าขณะกำลังล้มตัวลงเพื่อยิงต่อสู้ ได้เห็นเพื่อนทหารร่วมกองลาดตระเวณโดนอาวุธของเวียดกง ล้มตายกันเกลื่อนกลาด มารู้ตัวอีกทีก็อยู่บนเตียงในโรงพยาบาลแล้ว ร่างกายไม่มีบาดแผล แต่ปรากฏรอยช้ำเป็นจุดๆ ทั่วร่างกาย นี่ล่ะครับ ประสบการณ์ที่ฟังแล้วขนลุกจริงๆ นี่ถ้า ส.อ.ธารินไม่ได้บูชาพระรอด วัดพระสิงห์แล้ว ป่านนี้จะเป็นอย่างไรผมไม่อยากคาดเดา