เมื่อสงคราวโลกครั้งที่ ๒ สงบลง ก็ถึงคราที่เกิดสงครามเวียดนามขึ้น ราวปี พ.ศ.๒๕๐๗ รัฐบาลเวียดนามใต้(โฮจิมินห์) ขอความช่วยเหลือทางการทหารและทางเศรษฐกิจจากฝ่ายประเทศเสรี ประเทศไทยให้ความช่วยเหลือแก่เวียดนามใต้สู้รบกับเวียดนามเหนือ(ฮานอย) เร่มตั้งแต่ปี ๒๕๐๗ โดยส่งกำลังพลไปเป็นช่วงๆ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๑๑ ได้ส่งกำลังเพิ่มเติมในรูปกองพลอาสาสมัคร ฉายานามว่า “กองพลเสือดำ” เข้าทำการสู้รบ จำนวน ๓ พลัดๆ ละ ๑ ปี เหล่าทหารกองพลเสือดำรุ่นที่ ๑ และ ๒ จำนวนหลายสิบนาย ได้มากราบนมัสการหลวงปู่ชุ่ม เพื่อขอวัตถุมงคลไว้เป็นสิริมงคล ปกป้องคุ้มภัย หลวงปู่ได้มอบ “ยันต์ตะกรุดเสื้อ”ให้ทหารทุกนาย ปรากฏว่า ทหารหน่วยกองพลเสือดำที่มียันต์ตะกรุดเสื้อต่างรอดพ้นจากภยันตรายกลับมาบ้านพร้อมกันทุกนาย หลังจากนั้นมา ทหารรุ่นต่อไปที่จะออกไปรบ หลวงปู่ชุ่มจะได้รับการนิมนต์ให้ไปเป็นประธานประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่บริเวณชานชาลาสถานีรถไฟเชียงใหม่ทุกครั้ง แล้วมีเรื่องเล่ากันว่ามีสามเณรองค์หนึ่งสนใจทางด้านคาถาอาคม รู้ว่าหลวงปู่ชุ่มเก่งกล้าทางด้านนี้ จึงได้เพียรพยายามมาให้ครูบาชุ่มทำตะกรุดให้ ครูบาชุ่มเห็นเณรยังเยาว์วัยจึงผัดผ่อนไปเรื่อยมา จนหลวงปู่ทนการรบเร้าอ้อนวอนหลายครั้งหลายหนไม่ได้ จึงได้จัดสร้างตะกรุดเสื้อให้ไปหนึ่งชุด ด้วยเหตุนี้จึงเกิดตำนานของ “เสือวงศ์” ผู้เป็นน้าชายของสามเณร ขึ้นในเวลาต่อมา ขอบคุณข้อมูลจากพี่เชน เชียงใหม่ ด้วยความเคารพอย่างสูง