ผ้ายันต์เขียนมือม้าชมนาง(อิ่นม้าหรือม้าเสพนางที่มักเรียกกันในปัจจุบัน) สมัยก่อนคนเมืองน่านจะเรียกว่าม้าชมนางหรืออิ่นม้า ผืนนี้เป็นของครูบาปัญญา วัดสบก๋อน(หรือวัดศรีบุญเรืองปัจจุบัน) อ.เชียงกลาง จ.น่าน เขียนได้สวยงามและการวางยันต์ต่างๆได้ลงตัว ขนาดประมาณ 11x11 นิ้ว ใส่กรอบพร้อมแขวน
ครูบาท่านสร้างเหรียญและรูปหล่อรุ่นแรกเมื่อปี2536 ซึ่งในส่วนตัวผมแล้วรูปแบบของเหรียญที่น่าเกรงขาม นอกจากเหรียญ12มหาชัยครูบาสมแล้วเหรียญครูบาปัญญานี้แหละ ที่มองดูแล้วเลขยันต์ละเอียดดีครับ
ประวัติของท่านนั้น พระครูวิบูลนันทสรหรือครูบาปัญญา เดิมชื่อปัญญา ยาวิชัย เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2456 ที่บ้านเหล่า เมื่อท่านอายุได้14ปี ได้บวชเณร ต่อมาท่านมีอายุ18ปี ท่านมีความตั้งใจว่าจะไปกราบครูบาศรีวิชัย เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ ท่านจึงได้เดินทางจากจังหวัดน่าน ผ่านประเทศลาว วกเข้าจังหวัดพะเยา ผ่านเชียงรายจนถึงจังหวัดเชียงใหม่ และได้อยู่กับครูบาศรีวิชัยได้เพียง4เดือน ก็ต้องมีเหตุความจำเป็นเดินทางกลับจังหวัดน่าน ต่อมาท่านได้ศึกษาตำราอาคมต่างๆจากครูบาที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่านในยุคนั้น จนท่านอายุครบ80ปี เมื่อปี2536 จึงได้จัดให้มีการสร้างวัตถุมงคลเป็นเหรียญและรูปหล่อท่าน
วาระสุดท้ายของท่าน ครูบาปัญญาท่านมรณะภาพเมื่อวันที่16มิถุนาคม 2547 รวมอายุ91ปี 71 พรรษา โดยร่างท่านถูกเก็บรักษาที่วัดศรีบุญเรือง15ปี โดยร่างท่านไม่เนาเปลื่อย จนถึงปี2562 ได้มีการพระราชเพลิงศพท่าน
ช่วงที่ท่านมีชีวิตอยู่ได้มีการสร้างวัตถุมงคลเหมือนกับครูบาท่านอื่นๆ โดยมีเหรียญ รูปหล่อ ผ้ายันต์ ตะกรุด โดยผ้ายันต์ของท่านนั้น ที่เป็นผ้ายันต์ม้าชมนางนั้นมีทั้งแบบพิมพ์และเขียนมือ โดยแบบพิมพ์นั้นจะมีขนาดเป็น2เท่าของผ้ายันต์เขียนมือ โดยจะมียันต์เพิ่มขึ้นมาอีก ส่วนผืนที่เขียนมือจะเป็นยันต์ม้าชมนาง ผ้ายันต์ของท่านนั้นมีเอกลักษณ์ชัดเจน โดยตรงกลางเป็นยันต์ม้าชมนาง แล้วท่านยังได้นำยันต์มูตูทั้ง8(มูตูคือเมตตา)มาเขียนล้อมยันต์ม้าชมนาง ซึ่งหากดูฝีมือและความสวยผ้ายันต์ของท่านนั้น การวางสเกล การเขียน การวาดและลายมือค่อนข้างสวย ทำให้ผ้ายันตของท่านดูแล้วสบายตา มีความเเป็นระเบียนเรียบร้อยในการวางยันต์ ถือว่ามีฝีมือในการเขียน หากพูดถึงการนำใช้ผ้ายันต์ของท่าน ท่านเขียนติดไว้เลยว่า "ผ้ายันต์เมตตามหานิยมและมหาสิทธิโชค(โชคลาภ) " เรื่องความหายากนั้นไม่ต้องพูดถึง แค่ผ้ายันต์แบบพิมพ์ยังแทบไม่เจอ ถ้าเป็นผ้ายันต์แบบเขียนด้วยแล้ว ทางร้านเคยผ่านตาแค่3ผืน โดยผืนแรกทางร้านได้มาเมื่อปีวันที่1ตุลาคม2552(ก็คือผืนนี้ ที่ปัจจุบันเปลี่ยนมือกันไปกันมา) แล้วทิ้งห่าง10ปี กว่าจะเจอผืนที่2(ผืนที่สองจะอยู่ที่ร้านพุทธคุณเมืองน่าน2 ในรายการที่ 91 ) ส่วนอีกผืนหนึ่งทางร้านเห็นคนอื่นที่เป็นเจ้าของนำออกมาโชว์ ซึ่งถือว่าเจอน้อยมาก ผืนนี้ถือว่ายังสมบูรณ์ถึงจะผ่านการใช้งานมาบ้าง อายุผ้ายันต์ก็ไม่น้อย30-40กว่าปีครับ
|