พระขุนแผนสากหัก ปี 2546 ผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม เนื้อชมพูอ่อน ฝังตะกรุดและพลอยเสก หายากมากๆ
#ประวัติในบทความนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและการตัดสินใจ
พระขุนแผนพรายกุมาร รุ่นสากหัก ที่ทำขึ้นครั้งนี้ ถ้าจะเรียกว่าเป็นการสร้างที่มีวัตถุมงคลมากที่สุดเท่าที่ได้เคยสร้างกันมาหลังจากหลวงปู่ทิม มรณะภาพแล้วก็เห็นจะไม่ผิด
ลุงแมง อัมฤทธิ์ บุตรบุญธรรมหลวงปู่ทิม ซึ่งท่านตั้งชื่อให้ว่า นายสิงหราช อัมฤทธิ์ และเป็นผู้ที่หลวงปู่ทิมมอบหมายให้สร้างพระขุนแผนพรายกุมารให้ท่านเป็นคนแรก (ขุนแผนลองพิมพ์) อีกทั้งเป็นผู้ที่หลวงปู่ทิมใช้ให้ไปขุดโคกดินใต้ถุนศาลาภาวนาภิรัต เพื่อเอาน้ำมันพระเจ้าตากมาสร้างพระขุนแผนนั้นคงเป็นเพราะลุงแมงมีชื่อเป็นมหาอำนาจ ลุงแมงย้ายจากระยองไปอยู่สุโขทัยแล้วลงทุนซื้อไร่ปลูกส้มเขียวหวานออกจำหน่าย แกเห็นศาลาเอนกประสงค์ของวัดพงเสลี่ยงซึ่งใช้เป็นที่ประชุมชาวบ้านอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม ก็เลยมาปรึกษากับผมเพื่อขอให้ผมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินในปีนี้ เพื่อนำปัจจัยที่จะได้มาสร้างศาลาให้วัดพงเสลี่ยง ผมก็รับปากและบอกว่าจะแจ้งข่าวบอกบุญไปยังบรรดาลูกศิษย์ของหลวงปู่ทิม ให้ช่วยกันเป็นเจ้าภาพเพื่อสร้างศาลา โดยให้ชื่อว่า “ศาลาศิษย์หลวงปู่ทิม ร่วมใจ”
เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจของผู้ร่วมงานจึงคิดสร้างพระขุนแผนพรายกุมารเอาไว้แจกผู้ร่วมทำบุญ ลุงแมงและพระทอง สุขวงศ์จันทร์ ซึ่งทั้งสองคนเคยรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่ทิม โดยทั้งสองคนได้มอบผงพรายกุมารชนิดบริสุทธิ์ (เพียวๆ) หรือชนิดเข้มข้นที่ทั้งคู่เก็บไว้ครั้งสร้างพระขุนแผนให้หลวงปู่ แก่ผมหนึ่งขวดเนสกาแฟขนาดเล็ก แกบบอกว่าเก็บไว้ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อ (หมายถึงหลวงปู่ทิม) ไม่กล้าเอาออกมาทำพระเพราะเกรงใจพระอาจารย์เชยเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ เลยตัดสินใจมอบให้ผมเพื่อให้เอามาทำพระขุนแผนแจกงานกฐินในครั้งนี้
นอกจากนั้นลุงแมงยังไปแสวงหาว่านมงคลต่างๆตามตำราสร้างพระผงของหลวงปู่ทิมมาให้ผมอีกหลายชนิด สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ลุงแมงไปเสาะแสวงหามาให้ผมก็คือ ไม้หลงลืม หรือเถาวัลย์หลง เมื่อผมไปเยียนลุงแมงที่บ้านห้วยโป้ ภรรยาลุงแมงบอกกับผมว่า “พี่แมงอุตสาห์ไปหาไม้หลงลืม เอามาให้ผมทำพระขุนแผน ไปหาอยู่นานโขจึงจะได้” นอกจากวัตถุมงคลต่างๆแล้ว ทิดเย็น คำมี หรืออดีตหลวงพี่เย็น ซึ่งเคยช่วยหลวงปู่ทิมสร้างพระเครื่อง, ลงเลขยันต์ ตลอดจนการทำสีผึ้งก็ได้บอกเคล็ดลับต่างๆในวิธีการสร้างพระเครื่องของหลวงปู่ทิมแก่ผมด้วย
บางคนก็นำผง และของอาถรรพ์ต่างๆมาให้ด้วย คุณอุกฤษ ดุลย์เกษม หัวหน้าไปรษณีย์ นำพระผงรูปหล่อขนาดใหญ่พิเศษหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ซึ่งสร้างขึ้นเพียง ๓ องค์ มาให้ผมตำผสมลงไปในเนื้อพระขุนแผน ลูกศิษย์สายตรงของหลวงพ่อพรหมเห็นพระผงรูปเหมือนองค์นี้แล้ว บอกให้ผมเก็บเอาไว้เพราะหายากมากทำจากผงล้วนๆของหลวงพ่อพรหม มีเพียง ๓ องค์เท่านั้น แต่ผมก็ได้นำไปป่นใส่ลงในเนื้อพระขุนแผนรุ่นสากหัก ทิดเย็น คำมีได้แนะนำให้ใส่วัสดุอาถรรพ์ต่างๆเหมือนครั้งที่หลวงปู่ทิมสร้างพระขุนแผน ซึ่งผมก็ทำตามทุกอย่าง
แทบจะกล่าวได้ว่าพระขุนแผนพรายกุมารรุ่นสากหักนี้ มีผงพรายกุมาร และผงวิเศษต่างๆ ของหลวงปู่ทิม บรรจุมากที่สุดเท่าที่เคยสร้างกันมาผมลงมือตำผง กดพิมพ์สร้างพระขุนแผนได้ประมาณพันกว่าองค์ก็ทำต่อไปไม่ไหว คุณชาลี เอี่ยมฉลวย ศิษย์เอกของหลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ ราชบุรี และหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม เลยรับอาสาเอาไปทำต่อให้เพราะจะทำเป็นพุทธบูชาถวายหลวงปู่ทิม ก่อนจะรับอาสาทำให้ คุณชาลีเล่าว่า ฝันเห็นหลวงปู่ทิมมาหาแล้วยื่นกระดาษสารพัดกันสีชมพูให้พร้อมกับแผ่นทองคำอีก ๑ แผ่น ทั้งสองสิ่งเข้าไปในตัวของคุณชาลี พอคุณชาลีเริ่มทำพระขุนแผนก็เกิดอาการเนื้อด้านหลังเต้นตุ๊บๆ จนเกิดความรำคาญ ไม่ว่าคุณชาลีจะเอาไม้เอามีดมาเกาหรือแม้แต่เอามีคมๆมาสับเนื้อด้านหลังก็ยังไม่หายเต้น คุณชาลีเลยไปเปิดเสื้อให้พระอาจารย์เปีย ศิษย์สายอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ผู้เป็นอาจารย์สักดูแผ่นหลัง ปรากฎว่า ด้านหลังนูนขึ้นมาเป็นรูปหงษ์ทองคู่ และรูปหนุมาน คุณชาลี เอี่ยมฉลวย ทนทุกข์เพราะหนังเต้นอยู่ได้ ๒ วัน พ่อแก่ครูฤาษีที่คุณชาลีนับถือบอกว่า ครูมาลง เพราะทำพระขุนแผนให้เอาหมากพลูมาเคี้ยวแล้วเอาน้ำหมากมาลูบหลัง อาการเนื้อเต้นก็จะค่อยๆหายไป คุณชาลีบอกว่ เหตุที่เป็นดังนี้เพราะหลวงปู่ทิมคงต้องการแสดงให้รู้ว่าพระขุนแผนชุดนี้ศักดิ์สิทธิ์แน่นอน
พระขุนแผนสากหักนี้ หลวงปู่ธรรมรังษี เมตตาปลุกเสกให้ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๔๖ และแจกเป็นของสมนาคุณแก่ผู้ร่วมงานกฐินวัดพงเสลี่ยง สุโขทัยไปบ้าง แล้วนำพระขุนแผนที่เหลือไปเข้าพิธีเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรมหาปราบ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๖ อีกครั้ง พระขุนแผนพรายกุมารรุ่นสากหักสร้างขึ้น ๒ พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่สร้างเพียง ๕, ๕๕๕ องค์, พิมพ์เล็กสร้างเพียง ๖, ๙๙๖ องค์ มี ๓ สีคือ สีดำ, แดง, และขาว พิมพ์ใหญ่มีชนิดฝั่งตะกรุดทองคำ ๙๖ องค์, ตะกรุดเงิน ๒๕๖ องค์, และตะกรุดทองแดง ๓๕๖ องค์, และพิเศษบรรจุขุนพลจิ๋วปี๒๕๔๔, หรือบรรจุปรกใบมะขามหลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่, บรรจุทับทิมเสก - พลอยเสก
ตะกรุดสาริกาทั้งทองคำ, เงิน, และทองแดง คุณชาลี เอี่ยมฉลวย เป็นผู้จารตามตำราและเคล็ดลับของหลวงปู่ทิม อิสริโก แล้วถวายให้หลวงพ่อผล ทายาทของหลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู ลพบุรี ปลุกเสก, ส่วนขุนพลจิ๋วปลุกเสกในน้ำมันเหล็กไหล-น้ำมันพราย พิธีที่วัดละหารไร่เมื่อปี๒๕๔๔ โดยหลวงพ่อสาคร
ขุนแผนสากหัก พิมพ์ใหญ่ เนื้อชมพูอ่อน ว่ากันว่าฝังตะกรุดสาริกาหลวงปู่ทิมและโรยพลอยแบบนี้เท่าที่สะสมมา ผ่านตาผมแค่ 1 องค์ หายากกว่าตะกรุดทองคำเสียอีก
|