พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่าพิมพ์แขนกลมกรุเก่า2
เมืองพิจิตรได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งนักรบมาแต่โบราณ ด้วยชัยภูมิเป็นเมืองหน้าด่านที่ต้านรับศึกหลายด้าน ดังนั้นพระเครื่องของเมืองนี้จึงมีพุทธคุณด้าน เหนียวคงกระพันชาตรีเป็นหลัก ในสมัยก่อนเก่า นักรบเมืองพิจิตรทุกคนต่างหนังเหนียวและไม่กลัวตายเนื่องจากมีฝีมือและพกพระดีติดตัว จึงมักจะถูกเรียกใช้รับศึกแทบทุกครั้ง แม้แต่สองพระมหกษัตริย์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทยคือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระเจ้าตากสินมหาราช ก็ทรงนำพระเครื่องของเมืองพิจิตรติดตัวพระองค์ตลอดเวลายามออกศึก โดยทรงติดไว้ที่พระมาลา(หมวก)จนพระพิจิตรนั้นกลายเป็นพระตำนาน พระแห่งการกู้ชาติ ตามที่ประวัติศาตร์ได้บันทึกไว้ในบทประพันธ์ ลิลิตตะเลงพ่ายของท่านมหาเถรคันฉ่องซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพระนเรศร ประวัติของสองพระองค์ ทำให้เชื่อถือศัทธากันมาว่า พระเมืองพิจิตรจัดเป็นพระที่ดุจดั่งเพชรเม็ดงาม เป็นที่ต้องการของผู้คนมากมาย พระพิจิตรที่พบนั้นมีหลายแบบหลายพิมพ์สร้างจากเนื้อชินและเนื้อดิน มีพบหลายกรุแต่ที่โด่งดังคงหนีไม่พ้นพระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า ซึ่งสร้างในสมัยสุโขทัยจนมาถึงอยุธยา อายุสร้างราวๆประมาณ400-600ปี มีชื่อเสียงทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี จึงจัดได้ว่าเป็นพระแห่งตำนานตลอดกาล คนในสมัยก่อนเชื่อกันว่าเนื้อของพระพิจิตรมีส่วนผสมของเหล็กน้ำพีชั้นดีมีคุณวิเศษในตัว ส่วนเอกลักษณ์ของพระพิจิตรนั้นจะมีขนาดที่เล็กมากๆตั้งแต่5×8ม.ม.ไปจนถึง10×15ม.ม.เวลาพกคนสมัยก่อนนิยมอมไว้ในปากหรือเสียบไว้ที่ซอกฟัน เวลาหล่นหายมักจะหาไม่เจอส่วนพวกขุนโจรหรือเสือเก่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั้นมักจะฝังไว้ในร่างกายเมื่อทางการจับพวกนี้ได้ ต้องจับถ่วงน้ำหรือเผาไฟเท่านั้นเนื่องจากอาวุธอื่นทำอันตรายไม่ได้ ซึ่งขุนพันธุ์ได้เคยประจักเรื่องนี้มากับตนเองแล้ว และตัวท่านก็มีพระพิจิตรไว้ป้องกันตัวเหมือนกัน จนพระพิจิตรได้รับการขนานนามในวงการว่าเป็นพระชุด"จิ๋วแต่แจ๋ว"และมีราคาแพงหาของแท้ได้ยากมากๆเนื่องจากมีความนิยมและต้องการกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ จนคนเก่าแก่สมัยก่อนเคยพูดไว้ว่าขนาดเอาพระสมเด็จวัดระฆังมาแลกยังไม่ยอมแลกกันเลยที่เดียว เพราะเชื่อในพุทธคุณว่า"เล็กดีรสโต"ครับ ส่วนองค์นี้เป็นพิมพ์แขนกลม ผิวระเบิดเป็นธรรมชาติทั้งองค์แต่บิ่นบ้างเป็นธรรมดาตามกาลเวลามีความเก่ามากถึงยุคแน่นนอน แต่พุทธคุณนั้นมิได้สูญหายครับโทรเลยครับ 062-8914244 ,id line;0841768363
|