ลูกอมรุ่นหนึ่ง    ที่จัดสร้างขึ้นในปี  2522  มีจำนวนทั้งสิ้น  ประมาณ สองพันกว่าลูก  ทุกๆหลักร้อยจะมีลูกอมคะแนน หนึ่งลูก  (ลูกอมจัมโบ้) ลักษณะของลูกอมจัมโบ้  ลักษณะจะสีเขียวมากๆ   แตกต่างกันอย่างชัดเจนกับลูกอมธรรมดา   คงเนื่องมาจากมวลสารที่ใช้ผสมจัดทำขึ้นเป็นพิเศษ กว่าปกติจากลูกอมรุ่นหนึ่งธรรมดา  ( ส่วนรุ่นสอง  รุ่นสาม   รุ่นสี่  ไม่มีลูกอมคะแนน )

 ลูกอมรุ่นสอง  จัดสร้างขึ้นในปี 2533 มีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ สามพันกว่าลูก แต่มีโอกาสเห็นน้อย และหายากมากๆ   เนื่องจากบางส่วน ถูกนำไปบดเป็นส่วนผสม ของลูกอม รุ่น สี่

 ลักษณะของส่วนผสมหลักจะมาจากผงพุทธคุณ ของหลวงพ่อสด  วัดปากน้ำภาษีเจริญ   จึงทำให้มีน้ำหนักเบามากๆอย่างไม่น่าเชื่อกว่าสามารถจะปั้นเป็นลูกกลมๆได้  และผิวสีจะออกสีเทานวลขาวสวยงามมาก ๆ

 ลูกอมรุ่นสาม  จัดสร้างขึ้นในปี 2535 จำนวนประมาณ 5000 กว่าลูก  

 ลักษณะสีผิวจะเข้มกว่า รุ่นหนึ่ง  และรุ่นสอง   ผิวจะมีลักษณะของการ ฝ่อหดตัวอย่างชัดเจน  พื้นผิวไม่เรียบ

 ลูกอมรุ่นสี่    จัดสร้างขึ้นในปี  2541   จำนวนประมาณ 10000 กว่าลูก โดยนำมวลสารหลักมาจากลูกอมรุ่นสอง (ที่มีผงพุทธคุณของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ) ผสมกับ อัฎฐิ ของหลวงพ่อเป็นหลัก 

 ลักษณะของผิวจะเรียบกว่ารุ่นสามเป็นอย่างมาก   และเนื่องจากมีอัฎฐิ ของท่านครูบาสิริ  ทุกๆลูกจึงทำให้เห็นอัฎฐิ เป็นสีขาว ลอยเด่นให้เห็นด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน

 เมื่อรุ่นสี่มีส่วนผสมหลักมาจากรุ่นสอง   ซึ่งท่านครูบาสิริได้ปลุกเสกไว้แล้ว  เพชร  อยู่ที่ใด  แห่งไหน  ก็ยังคงเป็นเพชร   ฉันใดฉันนั้น  แม้รุ่นสี่จะจัดสร้างขึ้นไม่ทันหลวงพ่อก็ตาม   แต่เป็นการจัดสร้างขึ้นตามคำสั่งเสียของท่านพระครูสิริฯ  และผสมกับมาลสารรุ่นสอง  ที่ได้ทำการปลุกเสกไว้แล้วโดยท่านครูบาสิริฯ รุ่นสี่นี้จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองไม่แพ้รุ่นอื่นๆเช่นกัน  แถมยังเก็บสะสมได้ในราคาที่ย่อมเยาว์  จึงควรรีบสะสมเป็นอย่างยิ่ง รุ่นสามเพิ่งหมดไปจากวัดได้ไม่นานครับ  ส่วนรุ่นสี่ไม่แน่ใจครับ

 เข้าเรื่อง  ที่จะนำมาแบ่งปันให้ผู้ที่ศรัทธาจริงๆนำไปเคารพบูชา ป้องกันตัวจากปีศาจร้ายทั้งหลาย คือลูกอมรุ่นสามครับ  เนื่องจากนับวันยิ่งหายาก  จึงจำหน่ายในราคาที่แรงหน่อยนะครับ  หวังว่าไม่ว่ากัน และคงได้ไปกับผู้ที่ศรัทธาอย่างจริงๆ จะดีกว่า เพราะพลังจิตของผู้ใช้ กับพลังแห่งวัตถุมงคล จะได้เสริมซึ่งกันและกันก่อเกิดเป็นพลังป้องกัน  อีกอย่างเมื่อแบ่งปันออกไปแล้ว คงจะหากลับเข้ามาได้ยากอย่างยิ่ง

 วิธีใช้

 การใช้ควรจะเน้นในทางป้องกันจะได้ผลดีกว่า  เช่นใช้ในการไปพักแรมต่างถิ่น ไปพักโรงแรมที่เฮี้ยนๆ ก็หลับได้สบาย หรือใช้ไปในงานศพต่างๆ หรือเข้าไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงกับวิญญาณต่างๆ เป็นต้น  เพราะหากจากใช้ในทางแก้ไข ต้องใช้วัตถุมงคลประเภท ตะกรุดเสือโคร่ง  หรือจำพวกตระกูลตะปูเสกต่างๆ ของท่านครูบาสิริฯ จะได้ผลที่ดีกว่า

 แต่หากเป็นปีศาจที่ไม่มีพลังอำนาจมากๆ แค่ตนเดียว ก็ยังพอใช้ได้ผลอยู่ โดยอาจใช้ทำน้ำมนต์ให้ดื่ม หรืออาราธนา ใส่คอผู้ประสบเหตุ โดยรำลึกถึงบารมีครูบาสิริธรรมโฆษิตให้ช่วยเหลือ(เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ)ผีก็น่าจะทนสิงอยู่ในร่างคนไม่ได้ครับ