วิจญฺจโล) ท่านเป็นพระที่ประพฤติปฏิบัติเคร่งครัด ตามหลักพระธรรมวินัย ไม่ยอมก้าวล่วงแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เป็นพระสงฆ์ที่กราบไหว้ได้สนิทใจ ท่านพระอาจารย์บัวเกตุ หรือพระครูวิบูลธรรมกิจ ท่านเป็นพระสายวัดเทพศิรินทราวาส และเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฎิบัติชอบ ตามรอยท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( เจริญ ) ซึ่งเป็นพระบูรพาจารย์ของท่าน ซึ่งประชาชนในภาคตะวันออก และทางภาคเหนือ เคารพนับถือท่านเป็นอย่างมาก ปัจจุบันท่านจำพรรษาอยู่ ณ วัดแม่ปาง ต่อมาเมื่อหลวงพ่อมาจำพรรษาสักระยะหนึ่ง ท่านได้ทราบถึงความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ยังขาดแคลนเครื่องใช้ต่างๆที่จำเป็นเช่นเสื้อผ้า ผ้าห่ม และของใช้ในครัวเรือน ตลอดจนยาสามัญประจำบ้าน โดยจะเห็นได้จากเด็กๆ มีผิวหน้าแข็งและเป็นเม็ดผูพอง ศีรษะเป็นชันนะตุ ภาชนะบรรจุน้ำยังเป็นกระบอกไม้ไผ่ มุ้งไม่มี ต้องก่อไฟไล่ยุงและเมื่อไฟดับยุงที่มากัดได้แพร่เชื่อไข้มาลาเรีย เป็นต้น หลวงพ่อจึงได้ติดต่อประสานไปทางพัทยาเพื่อขอยาสามัญประจำบ้าน เครื่องนุ่งห่มและชุดนักเรียน โดยได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างดีในเรื่องยาประจำบ้าน เครื่องมือแพทย์และวิธีการใช้ยาจากคุณหมอสัญญา วีระไวทยะ และคุณวัฒนา ณัฐโสภณ ยิ่งไปกว่านั้นหลวงพ่อได้ให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษา โดยครั้งแรกท่านได้รับบุตรชาวบ้านมาอยู๋ที่วัดเพื่ออบรมสั่งสอนและช่วยส่งเรียนหนังสือ ต่อมากลุ่มอดีตกำนันเชาว์ ชุมเกษียร อาจารย์ธีระ ตรีณุมิตร และอาจารย์ภาณุวัตร(ธวัช) สวัสชุติตระกูลและสานุศิษย์จากพัทยา-นาเกลือร่วมกันเสนอหลวงพ่อเพื่อจัดตั้งกองทุนมูลนิธิเพื่อช่วยเด็กแม่ปางเหนือ-ใต้ ให้มีการศึกษาสูงขึ้นให้ได้เรียนในระดับมัธยมศึกษาและระดับปริญญาตรี จนถึงปัจจุบันนี้ กุลบุตรลูกชาวบ้านได้ศึกษาจบปริญญาตรีในสาขาต่างๆมากกว่า 30 คน และจบ ปวส. ปวช. ม.6 และม.3 อีกมากบางคนจบแล้วรับราชการหรือออกไปทำงานตามจังหวัดต่างๆ ผลที่ได้รับจากการศึกษาทำให้ความยากจนเบาบางลงและการตัดไม้ทำลายป่าลดลงอีกด้วย การศึกษาแต่ละปีมีค่าจ่ายไม่ต่ำกว่า 1.4 ล้านบาท ส่วนให่ได้ทุนจากผู้ศรัทธาหลวงพ่อบัวเกตุ โดยมีกองทุนเริ่มต้น 3.1 ล้านบ้าน