พระล้านนาดอทคอม แหล่งรวมพระเครื่องเมืองเหนือ
พระเกจิอาจารย์ทั่วไป

เปิดกรุพระในบ้าน พระอุปคุต ลอยองค์ พร้อมกรอบ +++ วัดใจ 150 บาท +++

(ปิดการประมูลแล้ว)

เปิดกรุพระในบ้าน พระอุปคุต ลอยองค์ พร้อมกรอบ +++ วัดใจ 150 บาท +++


เปิดกรุพระในบ้าน พระอุปคุต ลอยองค์ พร้อมกรอบ +++ วัดใจ 150 บาท +++

ชื่อพระ :
 เปิดกรุพระในบ้าน พระอุปคุต ลอยองค์ พร้อมกรอบ +++ วัดใจ 150 บาท +++
รายละเอียด :
 

เปิดกรุพระในบ้าน พระอุปคุต ลอยองค์ พร้อมกรอบ

 

ตำนาน พระอุปคุต ( พระบัวเข็ม )



เชื่อกันตามประวัติกล่าวว่าท่านเป็นบุตรของเศรษฐีของเมืองมถุรา ริมฝั่งแม่น้ำยมนา เกิดหลังพระพุทธองค์ปรินิพานแล้ว ๒๐๐ ปีแต่เนื่องจากบิดาได้เคยสัญญาก่อนที่จะมีบุตรต่อพระสาณวารี ว่าหากมีบุตรชายจะให้ออกบวช จนกระทั้งได้บุตรชาย ( พระอุปคุต ) เมื่อถึงอายุบวชท่านก็ได้ออกบวชหลังจากออกบวชในบวรพระพุทธศาสนา พระอุปคุตได้บำเพ็ญธรรมตามรอยพระพุทธองค์และได้บำเพ็ญอยู่ใต้ท้องทะเล หรือสะดือทะเลจากนั้นไม่นาน ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ในครั้งนั้นพุทธศาสนาเสื่อมถอยลงเนื่องจาก มีกลุ่มชาวบ้านแฝงมาอาศัยผ้าเหลืองหากินทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่เสื่อมศรัทธาในพระศาสนา ในครั้งนั้นพระเจ้าอโศกมหาราช พระราชดำรัสที่จะชำระพระพุทธศาสนาให้บริสุทธิ์ ตามเจตนารมณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่วางการดำเนินแนวทางไว้ให้ จึงทรงสร้างพระสถูปเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 84,000 องค์ ครั้นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเรียบร้อยแล้ว ทรงมีพระราชประสงค์จะจัดการฉลองสมโภชองค์พระมหาเจดีย์ ให้สมพระราชศรัทธา โดยจะจัดฉลองเป็นเวลาถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน ทรงเห็นว่า งานสมโภชพระมหาธาตุนี้เป็นงานใหญ่ เกรงว่า จะมีอันตรายและมีปัญหาต่างๆพระองค์ทรงขอให้คณะสงฆ์หาทางช่วยป้องกันเหตุต่างๆโดยขอให้คัดเลือกพระเถระผู้สามารถมาช่วยป้องกันภัยอันตราย เมือพระเถระเข้าญาณพิจารณา ก็ทราบด้วยญาณของตนว่า เนื่องในงานสมโภชพระมหาเจดีย์ครั้งนี้ภัยจะเกิดขึ้น ต่างก็หาวิธีแก้ไขต่างๆ จึงได้ทำการปรึกษากับคณะสงฆ์ พระสงฆ์ทั้งปวงจึงกล่าวว่า “พระอุปคุตที่จำศีลอยู่กลางสะดือทะเล เป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธิ์มากสามารถเนรมิตครอบแก้วคลุมตนไว้ ควรที่มหาบพิตรจะไปอารธนามาดูแลละป้องกันภัยต่างๆที่จะเกิดขึ้น”พระองค์ทรงทราบความจึงขอให้คณะสงฆ์ ไปทำการอารธนา พระเถระทั้งหลายจึงให้พระภิกษุหนุ่ม 2 รูป ผู้ทรงอภิญญาสมาบัติไปอาราธนาพระอุปคุต ( ชื่อเต็มว่า พระกีสนาคอุปคุตมหาเถระ ) มาสู่ที่ประชุม พระภิกษุ 2 รูปนั้น จึงเข้าญานสมาบัติระเบิดน้ำลงไปหาท่านพระอุปคุตแล้วแจ้งให้ทราบว่า “บัดนี้คณะสงฆ์ทั้งหลายมีเถรบัญชาให้ข้าพเจ้าทั้งสองมาอาราธนาพระคุณท่านไปร่วมการประชุมเพื่อปรึกษางานพระพุทธศาสนา” พระอุปคุตเถระทราบสังฆบัญชาเช่นนั้น คิดว่าจะต้องไปร่วมการประชุมในครั้งนี้ จะขัดคณะสงฆ์ไม่ได้ ต้องเคารพอำนาจแห่งหมู่สงฆ์ และงานนี้ก็เป็นงานพระพุทธศาสนา จากนั้นพระอุปคุตเถระจึงบอกภิกษุ 2 รูปนั้นว่า  “ท่านจงกลับไปก่อนเถิด เราจะตามไปทีหลัง”  พระภิกษุหนุ่ม 2 รูปนั้นกราบลาเดินทางล่วงหน้ามาก่อน พระอุปคุตจึงเข้าญาณสมาบัติมาถึงสำนักพระเถรานุเถระทั้งหลาย ก่อนภิกษุหนุ่ม 2 รูป พระสังฆ์เถระประชุมสงฆ์ จึงกล่าวแก่พระอุปคุตว่า  “คณะสงฆ์จะลงทัณฑกรรมแก่ท่าน เพราะความผิดที่ท่านไม่มาร่วมสังฆ์ กรรม ทำอุโบสถ ฟังพระปาฏิโมกข์ร่วมกับคณะสงฆ์  “พระอุปคุตจึงกล่าวว่า ข้าพเจ้ายินดีรับทัณฑกรรมที่คณะสงฆ์จะลงโทษ” พระสังฆ์เถระในที่ประชุมสงฆ์แล้วว่า “บัดนี้พระยาศรีธรรมาโศกราช ทรงปรารถนาจะทำการสมโภชพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมธาตุ 84,000 องค์ ที่ทรงสร้างไว้ในชมพูทวีปทั้งหมด ต้องใช้เวลาถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน ให้สมพระราชศรัทธา แต่เกรงว่าการสมโภชนั้นจะไม่พ้นภัย เกรงพญามารจะขัดขวางทำลายไม่ให้พระราชพิธีสมโภชนั้นดำเนินไปด้วยดี พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ตรัสให้คณะสงฆ์ช่วยป้องกัน พระอุปคุต จึงถาม “พระคุณเจ้าทั้งหลายแจ้งมาว่า จะให้ข้าพเจ้าทำประการใด” พวกเราไม่มีใครสามารถจะช่วยได้ เห็นแต่ท่านผู้เดียวเท่า พระอุปคุตจึง ก้มลงกราบแล้วกล่าวว่า “ข้าพเจ้ายินดียอมรับทัณฑกรรม” เมื่อได้ผู้ป้องกันภัยอันตรายในการบำเพ็ญกุศลแล้ว คณะสงฆ์ โดยมี พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ เป็นประธาน จึงถวายพระพรให้ พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ๆ ทรงโสมนัสยิ่งนัก นั้นอีก แล้วมาเพื้อป้องกันภัยในครั้งนั้น จากนั้นข่าวการสมโภชพระมหาธาตุก็ได้กระจายไปทั้ว ครั้งต่อมาพระองค์ทอดพระเนตรเห็นองค์พระอุปคุตมหาเถระแล้วก็หนักพระทัย เพราะท่านมีร่างกายผ่ายผอมและทรงเล็กมาก พระองค์จึงทดสอบโดยเมื้อครั้นรุ่งเช้าทอดพระเนตรเห็นพระอุปคุตเดินไปบิณฑบาตทรงมีพระราชบัญชาสั่งให้พนักงานเลี้ยงช้าง ปล่อยช้างตกมันไล่พระอุปคุตเพื่อทดสอบ พระอุปคุตมหา เถระเห็นช้างวิ่งไล่มาข้างหลัง จึงเข้าญาณสมาบัติอธิษฐานจิตให้ช้างตัวนั้นแข็งประดุจหิน ไม่อาจขยับเขยื้อนได้  พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ทอดพระเนตรเห็นดังนั้น จึงทรงขอขมาและทรงพอพระทัยยิ่งนัก เกิดความเคารพนับถือพระมหาเถระอุปคุตเป็นอันมาก ครั้นได้มงคลฤกษ์จึงเริ่มบุญพิธีสมโภชพระมหาเจดีย์ตามพระราชประสงค์ ครั้งพญามารรู้ข่าวจึงคิดจะหยุดงานสมโภช ตำนานกล่าวว่า พญามาร หรือ พญาวัสวดีมาราธิราช ซึ่งเป็นตนเดียวกับที่ขัดขวางพระพุทธองค์ครั้งบำเพ็ญเพียรก่อนที่จะตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์  คิดจะทำลายพิธีนั้น จึงแสดงอิทธิฤทธิ์ให้บังเกิดมหาวาตพายุอย่างร้ายแรง มีกำลังพัดมาประหนึ่งจะถล่มแผ่นดินให้ทลาย พระอุปคุตเถระเห็นอากาศวิปริตอย่างนั้นทราบชัดด้วยญาณอันประเสริฐของท่าน ว่า บัดนี้พญามารมาทำลายแล้ว ท่านจึงเข้าญาณสมาบัติโดยพลัน อธิษฐานให้เกิดเป็นลมเหมือนกัน แต่ลมของพญามารก็พ่ายแพ้ พญามารก็แผลงฤทธิ์ใหม่ เป็นลมกรด เป็นเพลิง เป็นทรายเพลิง เร่าร้อนด้วยไฟ และประการอื่นอีกหลายอย่างเพื้อทำลายพิธีฉลองสมโภชองค์พระมหาเจดีย์ จนพญามารเกิดโทสะแรงกล้าพยายามจะทำลายล้างพระมหาเถระ จึงปรากฏตัวเป็นพญามารเข้าไปทำร้าย พระอุปคุตมหาเถระเห็นว่า พญามารตนนี้มีแต่ความดุร้ายคอยทำลายแต่บุญกุศลต่างๆในบวรพระพุทธศาสนา รวมทั้งไม่มีความสำนึกในบาปต่างๆ จนพระอุปคุตได้เนรมิตสุนัขตายเน่าตัวหนึ่งมีน้ำหนองและหนอนไชออกมาแขวนคอพญามารไว้แล้วอธิษฐานไม่ใครถอดออกได้ พญามารจึงซมซานไปหาท้าวโลกบาลทั้ง 4 ขอร้องให้ช่วยแก้สุนัขเน่าออกจากคอ ท้าวจตุมหาราชบอกว่า แก้ไม่ได้ พญามารจึงไปหาเทวดาองค์อื่น ๆ จนถึงท้าวมหาพรหม ๆ ก็ไม่สามารถจะช่วยแก้ได้ ท้าวมหาพรหมจึงพูดว่า “เราก็ช่วยท่านไม่ได้ ต้องลงไปขอขมาท่านพระอุปคุตมหาเถระ แล้วอ้อนวอนให้ท่านช่วยแก้” ดังนั้นพญามารจึงรำพันขึ้นว่า “พระรูปนี้เป็นเพียงสาวกของพระพุทธองค์เท่านั้นแต่ยังอวดดีมาทำร้ายเราได้ พระพุทธองค์ยังดีกว่าพระรูปนี้หลายเท่านัก ครั้งพระองค์ทรงตรัสรู้ ว่าเราจะทำร้ายเราก็สู้บรามีของท่านไม่ได้ต้องแพ้ภัยในครั้งนั้น แต่ถึงจะสาหัสเพียงใหน แต่ก็ไม่มีเลยที่พระองค์จะทรงกริ้วและประทุษร้ายตอบเรา” ด้วยเหตุนี้ พญามารจึงเลื่อมใสในพระบารมีของพระพุทธองค์ จึงได้อธิษฐาน ขอเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคตกาล ด้วยจิตหยังรู้ของพระอุปคุตจึงแจ้งแก่พญามารว่า เหตุนี้เป็นพุทธทำนายและให้พระอุปคุตมาทรมานท่านให้ละลดเลิกและระลึกถึงความดีของพระพุทธองค์และจะอธิษฐานจิตเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล..ท่านอย่าได้โกรธเรา เราทำด้วยปราณี พระอุปคุตจึงคลายพันธนาการออกจากคอพญาวัสวดีมาร...  

  

 เรื่องราวของท่านพระอุปคุต มีปรากฏอยู่ใน พระปฐมสมโพธิกถา พระนิพนธ์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ดังนั้นอาจมีการปรับปรุงแก้ไขข้อความเพื่อความเข้าใจบ้าง ด้วยเหตุดังกล่าว ชาวพม่ารามัญตลอดจนชาวไทยในภาคเหนือจึงพากันสร้างรูปพระมหาเถระอุปคุตไว้สักการบูชา แต่ด้วยยังไม่มีใครเคยเห็น รูปลักษณ์แห่งพระมหาเถระอุปคุตมาก่อน จึงไม่มีมาตรฐานอันใดในการที่จะจัดสร้างรูปพระมหาเถระอุปคุต ต่างคนจึงได้สร้างรูปของพระองค์นี้ขึ้นมาตามจินตนาการและตามความรู้ความสามารถในฝีมือการสร้างรูปพระมหาเถระอุปคุตของแต่ละคนขึ้นมา ดังนั้นเราจึงได้พบเห็นรูปของพระมหาเถระอุปคุตที่มีรูปลักษณะที่แตกต่างกันไปหลากหลายรูปแบบ แต่ก็มีสัญลักษณ์ของท่านอยู่ประการหนึ่ง นั่นก็คือ โดยที่ท่านจำพรรษาอยู่ ณ กลางสะดือทะเล จึงมักจะสร้างบนพระเศียรคลุมด้วยใบบัว โดยเฉพาะที่ฐานด้านหน้า ด้านหลัง และใต้ฐานจะทำเป็นรูป กุ้ง หอย ปู ปลา เป็นสัตว์อยู่เฉพาะในน้ำซึ่งเป็นบริวารและเป็นสิ่งบอกถึงว่า พระองค์นี้คือ พระมหาเถระอุปคุต อันมี วิหารแก้วประดิษฐานอยู่ ณ กลางเกษียรสมุทร หรือ สะดือทะเล นั่นเอง บางองค์ก็ทำเป็นปุ่มปม มีตุ่มนูนตามหน้าผาก หน้าอกและทั่วพระวรกาย นิยมเรียกว่า เข็ม มี 3 เข็ม 5 เข็ม 7 เข็ม และ 9 เข็ม เชื่อกันว่าแต่เดิมนั้น ตามตุ่มที่ฝังเข็มนั้นเป็นช่องที่บรรจุพระธาตุและพระบรมธาตุ กล่าวกันว่ายิ่งมากเข็มเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น คนส่วนมากจึงมักจะนิยมแสวงหาพระบัวเข็มที่มีหลาย ๆ เข็ม พระอุปคุตของเขมรนิยมสร้างด้วยเนื้อสัมฤทธิ์โดยสร้างเป็นรูป พระอุปคุตนั่งอยู่ในเปลือกหอยหรือกระดองเต่า เข้าใจได้ว่าคงจะอุปมาจากตำนานที่ว่าพระอุปคุตได้บำเพ็ญธรรมอยู่ ณ สะดือทะเล ส่วนพระบัวเข็มของพม่านิยมแกะด้วยไม้ ซึ่งความเชื่อในการสร้างบูชาพระอุปคุต ก็เพื่อให้บังเกิดโชคลาภ และบันดาลความร่ำรวย ร่มเย็นเป็นสุข แล้ว ก็ยังเชื่อว่ามีอานิสงส์ทางด้านแคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆทั้งปวง จึงมีการสร้างพระอุปคุตเพื่อบูชากันมาแต่ครั้งโบราณ


การตั้งบูชา นิยมการตั้งบูชาบนฐานรองรับ อยู่กลางภาชนะใส่น้ำ เป็นการจำลองคล้ายกับท่านจำพรรษาอยู่ในมหาสมุทร แล้วใช้ดอกมะลิลอยในน้ำบูชา และต้องตั้งต่ำกว่าพระพุทธ เนื่องจากเป็นพระอรหันต์ สาวกของพระพุทธเจ้า

 


คาถาพระมหาอุปคุตผูกมาร

ตั้งนโม ๓ จบ


มหาอุปคุตโต มหาอุปคุตตัง กายะพันทะนัง อมยิสะ พุทธังทะเถโร ธัมมังทะเถโร สังฆังทะเถโร ปะอัยยะสุตัง อุปัจสะอิ อิมังกายะพันทะนัง อะทิถามิ ฯ


(คาถาพระมหาอุปคุตผูกมาร มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์มาก เสกด้วยสายสิญจน์ทำเป็นมงคลสวมคอ หากปลุกเสกครบ ๑๐๘ ครั้งสามารถป้องกันภูตผีปีศาจทั้งปวง และป้องกันอุปัทวอันตรายต่างๆ ถ้าเสก ๓ - ๗ คาบ ผูกคอหรือคล้องคอคนถูกผีเจ้าเข้าสิง จะเจ็บปวดร้องครวญครางโหยหวยอย่างน่าเวทนา ถ้าจะให้ผีที่สิงอยู่ออกไป ให้ถอดหรือแก้ด้ายผูกคอออก แล้วเอาด้ายนี้ตีปัดตามตัวคนที่ถูกผีสิงอยู่ ผีจะอยู่ไม่ได้จะเผ่นออก และไม่กล้ากลับมารบกวนคนในบ้านอีก และยังมีการปลุกเสกในทางพิชิตโรคาพาธได้วิเศษนัก)
 

 

+++ วัดใจ 150 บาท +++

 
ราคาเปิดประมูล :
 100 บาท
ราคาสูงสุด ขณะนี้ :
 100 บาท
ราคาที่ต้องเพิ่มขึ้น ขั้นต่ำ :
 50 บาท

เงื่อนไขการรับประกัน :
 เเท้ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นพระในบ้านตัวเอง สวยเดิมๆเลย

ผู้ตั้งประมูล :
 สิริญชา เเก้วศรี
ที่อยู่ :
 193/147 ถ.ราษฏพัฒนา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240 ไทย

เบอร์โทรติดต่อ :
  0830843425, 0830843425
E-mail :
 koko_amp@hotmail.com

ชื่อบัญชี :
 สิริญชา เเก้วศรี
เลขที่ บัญชี :
 9710055291
ประเภท บัญชี :
 ออมทรัพย์
ธนาคาร :
 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
สาขา :
 กรุงไทย

วันที่ :
 Fri 9, Mar 2012 11:34:29
โดย : mark19    [Feedback +1 -1] [+0 -0]   Fri 9, Mar 2012 11:34:29
 




 
 
โดย : mark19    [Feedback +1 -1] [+0 -0]     [ 1 ] Fri 9, Mar 2012 11:35:51

 
ประมูล เปิดกรุพระในบ้าน พระอุปคุต ลอยองค์ พร้อมกรอบ +++ วัดใจ 150 บาท +++ : พระล้านนา.คอม เว็บ พระเครื่อง พระบูชา อันดับหนึ่ง ของภาคเหนือ ออกแบบเว็บไซต์โดย 2WinWeb design บริการรับทำเว็บไซต์
Copyright Pralanna.com All right reserved. © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายโดย บริษัท พระล้านนาดอทคอม จำกัด.