ตะกรุดยันต์หนีบ ครูบาวัง ยุคต้น
รายละเอียด
ได้มาจาก จังหวัดเชียงใหม่ จะมียันต์อยู่ด้านใน เอาไว้แหนบใบพลู
ที่จะนำมาเขียน ชื่อวัน/เดือน/ปีเกิด ไว้ด้านใน ของแผ่นยันต์
ตะกรุดพับยันต์หนีบครูบาวังเชือกเดิมๆ เก่าครับเป็นเครื่องรางอีกหนึ่ง
ชิ้นของหลวงพ่อครูบาวังที่น่าใช้ครับ อุปเท่ห์วิธีการใช้มีดังนี้ หากปารถนาให้บุคคลที่เราชอบศัตรู เจ้านาย มีเมตตาและด้านมหาอำนาจ ให้เขียนชื่อวันเดือนปีเกิดของบุคลผู้นั้นใส่ลงในใบพลูแล้วสอดเข้าไปแผ่นยันต์อฐิษฐานและภาวนา่ด้ายคาถา'อะหิหัสสะ'แล้วนำมาวางไว้ ใต้หมอนตอน
เราจะนอน ท่านว่าเป็นเมตตามหาอำนาจมหานิยมดีนักแล ยันต์หนีบของทางล้านนา อาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละตำรา แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีลักษณะเป็นแผ่นโลหะ ที่พบเห็นมีทั้งที่เป็นทองแดง ทองเหลือง เนื้อเงินมีพบบ้างแต่ไม่มาก แผ่นโลหะที่ใช้ทำยันต์หนีบเหล่านี้คล้ายๆ
กับแผ่นโลหะที่ใช้ทำตะกรุดทั่วไป ต่างกันที่หลังจากลงอักขระเลขยันต์แล้ว จะไม่ม้วนเป็นแท่งกลมๆ เหมือนตะกรุด แต่จะพับทบเป็นแผ่นสองด้านประกบกัน ปลายด้านหนึ่งอาจจะม้วนเพียงเล็กน้อย แค่พอที่จะสอดสายตะกรุด คำว่าหนีบ ในที่นี้หมายถึง ประกบการบีบรัด การกดทับ โดยวิธีทำนั้นจะกระทำโดย การนำแผ่นเงิน แผ่นคำหรือแผ่นทองแดงโดยเอาทั้ง 2 ด้านของแผ่นยันต์มาประกบเข้าสิ่งของที่อยู่ข้างใน ทำให้บุคคลที่ถูกทำด้วยการทำยันต์หนีบตกอยู่ในอาการลุ่มหลงผู้ที่ทำ เกิดความสิเน่หา เกิดความรักใคร่ ลุ่มหลงซึ่งถือว่าเป็นศาสตร์แห่งวิชาทางไสยศาสตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และนิยมกันมากในสายล้านนาตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน เมื่อต้องการจะทำพิธีหนีบจิตของคนรักให้เกิดความรักและเกิดความลุ่มหลงในตัวเรานั้น เขาให้ผู้ที่จะกระทำไปยืนที่ใต้ร่มโพธิ์ทางทิศใต้ คอยจนมีใบโพธิ์ร่วงจากกิ่งด้านทิศใต้ หากพบว่าเป็นใบโพธิ์คว่ำให้เก็บมาใช้เป็นตัวแทนของผู้ชายหากพบว่าใบโพธิ์หงายก็ให้เป็นตัวแทนของผู้หญิง ให้จำไว้ให้ดี อย่าทำสลับกันเด็ดขาดเพราะแทนที่จะทำให้เขาเกิดความลุ่มหลงในตัวเรา อาจกลับเป็นเราที่ไปลุ่มหลงเขาแทนมากกว่าแล้วจึงนำมาตัดเป็นแผ่นขนาดเท่ากับแผ่นยันต์หนีบจากนั้นเขียนชื่อ วันเดือนปี เกิดของเราและบุคคลนั้นลงไปในใบโพธิ์ แล้วเสียบลงไปที่ช่องอักขระยันต์ แล้วให้นำติดตัวพกใส่กระเป๋าเสื้อหรือห้อยคอไว้เสมอ หรือบางคนอาจจะสอดยันต์หนีบไว้ใต้หมอน หรือใต้เตียงให้ตรงบริเวณกึ่งกลางลำตัวของเราก็ได้ให้สังเกตุดูว่าภายใน 3 วัน 7 วัน จะสังเกตว่าพฤติกรรม ของเขาเปลี่ยนไป จากที่เคยพูดไม่ไพเราะ
ก็จะพูดจาหวานหู กิริยาที่เคยแข็งกระด้างก็จะอ่อนนุ่ม กิริยาที่เคยเฉยเมยกับเรา ก็จะกลับเป็นคนอกเอาใจราวกับเป็นคนละคนควรใช้ใบพลูที่มีส่วนปลายแยกออกเป็นสองแฉกโดยธรรมชาติที่เรียกว่า “พลูสองหาง” เป็นเครื่องรางพกติดตัวไปทำมาค้าขาย ด้วยเชื่อว่าจะช่วยให้ทำมาค้าขึ้น
อีกอย่างหนึ่งมักใช้ใบพลูให้เกิดประโยชน์เชิงคุณไสยให้หญิงชายรักใคร่ชอบพอกันโดยเขียนชื่อคนที่ต้องการให้รักกันลงบนพลูสองหาง แล้วพับใส่ใน “ยันต์หนีบ” สอดไว้ใต้หมอนหรือใต้ที่นอนของฝ่ายใด
ฝ่ายหนึ่งสำหรับยันต์หนีบนิยมทำจากแผ่นโลหะ โดยลงอักขระบนแผ่นโลหะ แล้วพับตรงจุดกึ่งกลางให้แผ่นยันต์พับเข้าหากัน เพื่อให้ด้านในนั้นเป็นที่สำหรับใส่ใบพลูสองหางที่จัดเตรียมไว้
อ้างถึง http://mahawed63.com/product/detail-13955.html
|