หลวงปู่แผ้ว วัดประชาราษฎร์บำรุง(วัดรางหมัน)จ.นครปฐม
"หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน" กับ...คาถาเสกวัตถุมงคลให้เข้มขลัง
ในช่วงกระแสจตุคามรามเทพครองเมือง พื้นที่ริมสองข้างถนนเต็มไปด้วยป้ายโฆษณาจัดสร้างของวัดและสำนักต่างๆ และภาพของพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งมักปรากฏอยู่ในป้ายโฆณาวัตถุมงคล โดยเฉพาะป้ายโฆษณาใน จ.นครปฐม และจังหวัดใกล้เคียง คือ หลวงปู่แผ้ว ปวโร แห่งวัดกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จนมีคำกล่าวว่า "วัตถุมงคลรุ่นใด หรือวัดใดสร้างแล้วไม่นิมนต์หลวงปู่แผ้วไปนั่งปรกแล้วจะได้รับความนิยมน้อยกว่ารุ่นที่หลวงปู่แผ้วไปนั่งปรก"
ด้วยวัยที่ล่วงเลยถึง ๘๕ ปี และบวชมานานถึง ๖๕ พรรษา ประกอบกับสุขภาพที่ทรุดโทรมตามกาลเวลา แต่หลวงปู่ยังรับกิจนิมนต์นั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลอยู่ จากเดิมที่เคยนั่งปรกเป็นชั่วโมงๆ ปัจจุบันนี้หลวงปู่จะนั่งปรกได้อย่างเก่งไม่เกินครึ่งชั่วโมง จึงมีคำถามคาใจผู้เช่าวัตถุมงคลไม่น้อยว่า "นั่งปรกไม่กี่นาทีหรือจะเข้มขลังเท่ากับนั่งปรกเป็นชั่วโมง"
ทั้งนี้หลวงปู่แผ้วได้พูดไว้อย่างน่าคิด ว่า "เหตุที่เขานิมนต์ไปนั่งปรกเพราะคนเชื่อว่าเราไปนั่งปรกแล้ววัตถุมงคลจะเข้ม ขลัง ปีหน้าจะรับกิจนิมนต์ใกล้ๆ วัดเท่านั้นเพราะสุขภาพไม่ดี ความขลังของวัตถุมงคลไม่ได้อยู่ที่นั่งปรกนานหรือไม่นานหากอยู่ที่จิตของ พระรูปนั้นๆ ว่ามีจิตนิ่งเป็นสมาธิมากน้อยเพียงใด บางรูปนั่งเป็นชั่วโมงแต่จิตไม่นิ่งวัตถุมงคลก็ไม่เข้มขลัง"
เมื่อถามถึงคาถาที่ใช้บริกรรมระหว่างนั่งปรกปลุกเสก วัตถุมงคล หลวงปู่แผว บอกว่า เป็นคาถาของหลวงพ่อหว่าง อดีตเจ้าอาวาสซึ่งได้รับการถ่ายทอดจาก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตกอีกทอด ในช่วงที่หลวงปู่หว่างเป็นเจ้าอาวาสนั้นท่านเก่งเรื่องหมอยา วัตถุมงคลของท่านก็เข้มขลังเป็นที่นิยม ทั้งนี้ได้ศึกษาอยู่กับท่านจนกระทั่งมรณภาพ เมื่อได้รับกิจนิมนต์นั่งปรกจึงนำวิชาของหลวงพ่อหว่างใช้รวมกับวิชาวิปัสนา กรรมฐานที่ได้เรียนวัดมหาธาตุฯ สนามหลวง
ส่วนคาถาบริกรรมเพื่อให้เกิดความเข้มขลังนั้น หลวงปู่แผ้ว บอกว่า มีบทเดียวแต่สร้อยของคาถามีหลายแบบ เช่น อาจจะบริกรรมว่า "พุทธังหลีก ธัมมังหลีก สังฆังหลีก" บ้างก็บริกรรมว่า "พุทธังแหวก ธัมมังแหวก สังฆังแหวก" หรืออาจจะบริกรรมว่า "พุทธังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด" คาถาเหล่านี้พระรุ่นใหม่ๆ ที่มานั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลมักจะมาสอบถามเป็นประจำโดยได้บอกไปทุกครั้ง และก็พระบางรูปมีการไปแปลงเป็น "พุทธังลอด ธัมมังลอด สังฆังลอด" หรือ "พุทธังปลอดภัย ธัมมังปลอดภัย สังฆังปลอดภัย" ซึ่งสรุปแล้วคาถาเหล่านี้ คือ คุณพระรัตรไตรนั่นเอง
สำหรับทั้งพระและฆารวาสที่สนใจศึกษาเรื่องคาถานั้น หลวงปู่แผ้ว แนะนำว่า "ตำราคาถาของวัดและสำนักต่างๆ ในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่เป็นของเดิมที่สืบทอดจากครูบาอาจารย์ในอดีต หลายคนท่องคาถาถูกต้องตามอักขระชัดเจน แต่เหนือสิ่งอื่นใดจิตต้องนิ่งเป็นสมาธิคาถาจึงมีความเข้มขลัง ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆารวาสถ้าจิตนิ่งเป็นสมาธิบริกรรมคาถาบทใดก็เข้มขลัง ที่ขาดไม่ได้คือต้องตั่งอยู่ในศีลมั่นอยู่ในธรรม "
รุ่นนี้ออกปี2550 ที่วัดกำแพงแสน |