องค์หลวงปู่ครูบาบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ มหาเถร พระอริยะคณาจารย์แห่งวัดร้องขุ้ม แสนตองไจยจ๊ะนะบุญยืน เวียงแม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ในคราวครบรอบ 3 ปี การละสังขาร วันที่16 มกราคม 2548 เปลี่ยนผ้าครองก่อนที่จะอาราธนาขึ้นปราสาทนกหัสดีลิงค์ เพื่อถวายเพลิง งานพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 22 มกราคม 2548 ในปีนั้นเอง
โดยสรีระขององค์ท่านมิได้เน่าเปื่อยแต่อย่างใด ขาวใส ยิ่ง เกศาและเล็บงอกยาวออกอีกด้วย เป็นที่อัศจรรย์
ในระหว่างอาราธนาและแห่สรีระขึ้นปราสาทนกหัสดีลิงค์นั้นเกิดเหตุพระอาทิตย์ทรงกลด
วันถวายเพลิง ขณะที่หลวงปู่พระพุทธพจนวราภรณ์ หลวงปู่จันทร์ กุสโล วัดเจดีย์หลวง จุดไฟ ก็เกิดเหตุเมฆบังวัน (เมฆบังพระอาทิตย์) เวลาถวายเพลิง 16.29 น. พระเพลิงเผาปราสาทและอื่นจนหมด แต่สรีระร่างองค์ท่านกลับไม่ไหม้ พระสงฆ์และช่างต่างพากันเอาข้าวตอกดอกไม้ขอขมา.
ระหว่างคืนวันเผา วันที่ 22- วันที่ 24 มกราคม 2548 นั้นทุกๆคืน พระจันทร์ทรงกลดทุกๆคืนเป็นเวลา 3 คืนติดกัน วันที่ 25 มกราคม 2548 ทำการเก็บอัฐิ ก็ปรากฏว่า อัฐิขององค์ท่านเป็นพระธาตุ และส่วนอัฐิส่วนอื่นๆค่อยแปรตามสภาพเป็นพระธาตุเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ที่มีสักการะบูชาเป็นอย่างยิ่ง
นี่แหละคือธรรม ที่องค์หลวงปู่ครูบาท่าน ที่ได้ประพฤติปฏิบัติมาจนถึงที่สุดแห่งกองทุกข์ ดับทุกข์ในวัฏฏะ ทำพระนิพพานแจ้งแล้ว
ดังพุทธศาสนาสุภาษิต ที่ว่า
"ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารี ธมฺโมสุจิณฺโณ สุขมาวหาติ
เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ นทุคฺคติํ คจฺฉติ ธมฺมจารี" ธรรมแลย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ธรรมอันบุคคลประพฤติดีแล้วย่อมนำสุขมาให้ นี้เป็นอานิสงค์ในธรรมที่ประพฤติดีแล้ว ผู้ประพฤติธรรมย่อมไม่ไปสู่ทุคติ"
ข้าพเจ้า ขอน้อมกราบรำลึก ในพระคุณ และ บารมีธรรม
พ่อแม่ครูอาจารย์ องค์หลวงปู่ครูบาบุญปั๋น ธมฺมปญโญ มหาเถร ในวาระ ครบรอบ 18 ปี แห่งการละสังขารขององค์หลวงปู่ครูบาเจ้า