พระปิดตาเจริญลาภเป็นพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก รุ่นแรก ของ ครูบาผัด ผุสฺสธมฺโม ที่ท่านลงมือเขียนผงลบสูตรและกดแม่พิมพ์พระปิดตาด้วยตัวท่านเอง จัดสร้างขึ้น เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่มาร่วมทำบุญพัฒนาเขตสังฆาวาสใน วัดศรีดอนมูล เหตุที่ได้รับการขนานนามว่า "พระปิดตาเจริญลาภ" ก็เพราะว่าบรรดาลูกศิษย์ที่รับไปสักการะบูชาแล้ว มีลาภผลพูนทวีดีนักแล สร้างเมื่อ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๘ ข้อมูล ลานโพธิ์ ปีที่ ๑๗ ฉับบที่ ๕๗๐ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๓
เกิดมีปาฏิหาริย์ศพครูบาไม่ไหม้ ศรัทธานับหมื่นแห่ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพพระครูพิศิษฏ์สังฆการ หรือครูบาผัด เจ้าตำรับตะกรุดกาสะท้อน ฮือฮาขนาดไฟลุกโหมอย่างแรงต้องใช้รถดับเพลิงคอยควบคุมเพลิงไว้ไม่ให้ลุกลามไปที่อื่น ศพครูบาผัดกลับไม่เป็นอะไร ทั้งปราสาทนกหัสดีลิงค์และโลงแก้วถูกไฟไหม้จนหมด ประชาชนที่เฝ้าดูถึงกับพากันก้มกราบ สาธุ พร้อมกันด้วยฤทธิ์ตะกรุดและคาถาในตัวครูบาผัดเอง เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 30 มีค.51 ณ บริเวรเมรุชั่วคราวลานเอนกประสงค์เจดีย์ 9 คณาจารย์ วัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพพระครูพิศิษฏ์สังฆการหรือครูบาผัด ผุสฺสิตธมฺโม โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานฝ่ายฆาราวาสและ เป็นผู้อัญเชิญผ้าไตรพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 5 ผื่น พร้อมทั้งได้อัญเชิญไฟหลวงพระราชทานเข้าประกอบพิธี ฝ่ายคณะสงฆ์มีพระเทพวิสุทธิคุณ เจ้าคณะ จังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพครูบาผัด ในครั้งนี้มีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมพิธีจำนวนประมาณ 50,000 คน (ครึ่งแสน) ทำให้บริเวณลานเอนกประสงค์เจดีย์ 9 คณาจารย์ซึ่งใช้เป็นลานประกอบพิธีดังกล่าวจำนวนพื้นที่กว่า 30 ไร่แคบลงโดยประชาชนได้พากันกราบเคารพศพครูบาผัดเป็นครั้งสุดท้าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่กำลังทำพิธีเพื่ออัญเชิญผ้าไตรพระราชทานและไฟหลวงพระราชทานนั้นได้ เกิดลมพายุพัดตลอดเวลาและปรากฏว่ารอบ ๆ วัดศรีดอนมูลเกิดพายุและฝนตกอย่างหนัก แต่บริเวณที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพกลับไม่มีฝนมีแต่ลมพัดอย่างเดียว หลังเสร็จพิธีอัญเชิญผ้าไตรพระราชทาน และไฟหลวงพระราชทานแล้วพระสงฆ์ ,ประชาชนและข้าราชการทุกหมู่เหล่าได้ร่วมกันวางดอกไม้ จันทน์แล้วก็ได้มีการเผาศพครูบาผัดโดยใช้พลุและดอกไม้ไฟนานาชนิดตามประเพณีแบบโบราณเพื่อเผาทั้งปราสาทนกหัสดีลิงค์ โดยมีรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลชมภู คอยดูแลสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามจำนวน 5 คัน โดยที่ขณะไฟกำลังลุกไหม้ปราสาทนกหัสดีลิงค์และลามไหม้โลงศพแก้วที่บรรจุร่างครูบาผัดจนจุลไปในพริบตาปรากฏว่าสารีระของครูบาผัดที่นอนอยู่ในโลงแก้วกลับไม่ไหม้ไฟแต่อย่างใดทั้งที่ไฟได้ลุกโหมตลอดเวลาอย่างรุนแรง ประชาชนที่เฝ้าดูต่างฮือฮาและพากันก้มลงกราบและเอ่ยคำว่า สาธุ พร้อมกันตลอดเวลา โดยไฟได้ไหม้ปราสาทนกหัสดีลิงค์และโลงศพของครูบาผัดจนหมดแล้วแต่ กลับเหลือสารีระของครูบาผัดนอนยาวบนกองเพลิงชนิดไม่ไหม้ไฟแต่อย่างใด หลังจากที่ไฟได้ไหม้ปราสาทนกหัสดีลิงค์และโลงศพแล้วยังคงเหลือแต่สารีระของครูบาผัดทางคณะกรรมการวัดและศิษยานุศิษย์ของครูบาผัดจึงได้ร้องขอให้ทางพระครูสิริศีลสังวร หรือครูบาน้อย เตชปัญโญ นั่งอธิษฐานจิตเพื่อล้างอาคมในตัวของครูบาผัดให้หมดสิ้นไปเพื่อไฟพระราชทานจะได้ไหม้ส่งดวงวิณญาณของครูบาผัด ซึ่งครูบาน้อย เตชปัญโญ ศิษย์เอกของครูบาผัดก็ได้นั่งจิตอธิษฐานเพลิงได้ค่อย ๆ ไหม้สารีระของครูบาผัดไปเรื่อย ๆ จนหมดโดยมีคณะกรรมการและศิษยานุศิษย์คอยเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา`และนำเชื้อเพลิงเข้าไปผสมเพิ่มอีกจนสารีระของครูบาผัดไหม้จนหมด นายภัทร กองคำ คณะกรรมการวัดศรีดอนมูล ได้เปิดเผยว่า สาเหตุที่สารีระของครูบาผัดไม่ไหม้ไฟนั้นน่าเชื่อว่าอาจจะเป็นเพราะวิชาอาคมในตัวของครูบาผัดยังล้างออกไปไม่หมดทำให้เกิดสำแดงฤทธิ์เดชดังกล่าว ซึ่งตอนที่ครูบาผัดมรณภาพนั้นทางครูบาน้อย ศิษย์เอกก็ได้นำน้ำสมป่อยล้างวิชาอาคมออกจากตัวครูบาผัดแล้วครั้งหนึ่งคาดว่ายังคงมีวิชาอาคมบางส่วนที่ยังล้างไม่ออกโดยเฉพาะวิชาตะกรุดกาสะท้อนที่แรงกล้าของครูบาผัดที่ติดตัวท่านที่ครูบาน้อยล้างไม่ออกจึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางครูบาน้อย ได้แจ้งว่าให้ทำการเฝ้าดูและฌาปนกิจศพครูบาผัดไปเรื่อย ๆ โดยครูบาน้อยได้ทำพิธีนั่งจิตอธิษฐานขอเขมาต่อศพ และในที่สุดก็จะสามารถฌาปนกิจศพของครูบาผัดได้จนหมด โดยมีศิษยานุศิษย์และผู้ศรัทธานั่งเฝ้าดูการฌาปนกิจครั้งนี้ตลอดเวลา
หายากมากๆๆพระปิดตารุ่นนี้ ราคาเบาๆแบ่งปันสุดๆ
เข้าชมรายการพระร้านกร สารภี เพิ่มเติมได้..คลิก กร สารภี ด้านล่างครับ
|