ที่ทำจากข้าวที่เหลือจากก้นบาตร นำมาผสมกับ ยางว่านมงคล ๑๐๘ กดเป็นพิมพ์รูปเหมือนครูบาอินสม สุมโน
ทำไมถึงเรียกว่า ? ข้าวเย็น หลายคนอาจสงสัย จะเข้าใจว่า พระกินข้าวมื้อเย็นด้วยหรือ เปล่าเลย ผู้เขียนขออธิบายดังนี้
ข้าวเย็นใน ณ. ที่นี้หมายถึง ข้าวที่ครูบาอินสม สุมโน ได้ฉันท์ เหลือจากมื้อเพล ที่เหลือจากก้นบาตร เหลือเท่าไรก็เก็บ สะสมไว้ ดีกว่าเอาไปทิ้งให้เรี่ยราด ข้าวทุกเม็ด "ญาติโยมต้องเหน็ดเหนื่อย หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน ทำนาเหน็ดเหนื่อย กว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ด" คือเจตนาของครูบาฯ หลังจากฉันต์เสร็จ เหลือ 1เม็ด ก็เก็บ 1เม็ด เหลือ 2เม็ด ก็เก็บ 2เม็ด เก็บไว้เรื่อยๆ จนเต็มบาตรเก่า ก็นำมา ผสมกับ ยางว่านมงคล ๑๐๘ กดเป็นพิมพ์รูปเหมือน ครูบาอินสม สุมโน
ก็ได้นำแจกจ่าย "คืนข้าว" ให้กับ ชาวบ้าน ชาวไร่ชาวนา ญาติโยม ผู้มาทำบุญ ได้ไว้เป็นพุทธบูชา รักษาเนื้อรักษาตัว จากภัยอันตราย ทั้งเหมือนกับได้บูชา พระแม่โพสก ผู้รักษาข้าว เป็นที่เคารพบูชา ของคนไทย มาแต่โบราณ
*** ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ ของข้าว ครูบาอินสม สุมโน ***
นาน มาแล้ว ผู้เขียนได้ฟังจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าคนหนึ่ง "เล่าว่า ครั้งนึง ครูบาอินสมได้ ได้ โปรยข้าวก้นบาตร ที่ครูบาฯฉันต์เหลือ ให้กับนก ที่มารอรับอาหารเป็นประจำ บริเวณหน้าพระวิหาร หลังจากนกน้อย อิ่มจากข้าวก้นบาตรแล้ว ก็บินสู่ท้องฟ้า ออกนอกวัดไปตามทางของ นกน้อย แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิด เกิดขึ้นกับนกน้อย!!! วัยรุ่น วัยคึกคนองกับปืนยาวคู่กาย ได้เล็งปากกระบอก ไปที่นกน้อย ที่บินไปเกาะกิ่งไม้ ข้างวัด เปรี้ยง!!!! ฟุ๊บ!!!!!! นกน้อยตก จากต้นไม้ ด้านล่างมีเพียงใบไม้แห้ง คอยช่วยรองรับ แรงกระแทก เสียง ไชโย ร้องดัง ออกจากปากวัยรุ่น ใจบาป พร้อมกับวิ่งมาดู ผลงานของตัวเอง แต่ก็ไม่ทันจะถึง เป้าหมาย ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ นกน้อย ก็ได้กระพรือปีกลุกขึ้น พร้อมกับบินหนีไปด้วยความตกใจ เหมือนกับไม่ได้ ถูกปืนยิง เลย.... วัยรุ่น ผู้นั้นก็ถึงกับตลึง และยังสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น