ชื่อพระ :
พระบูชา พระอภัยสารทะ สังฆปาโมกข์(ครูบาฝายหิน)
รายละเอียด :
พระบูชา พระอภัยสารทะ สังฆปาโมกข์(ครูบาฝายหิน)พระบูชา พระอภัยสารทะ สังฆปาโมกข์(ครูบาฝายหิน)ปฐมสังฆนายะกะ “ โสภา ”เจ้าคุณพระอภัยสารทะ สังฆปาโมกข์ (อุ่นเรือน โสภโณ)
วัดฝายหินปฐมสังฆราชาแห่งมหานครเชียงใหม่ล้านนา แผ่นดินล้านนานอกจากมีชื่อเสียงในทางอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร อันเป็นหลักใหญ่ในทางเศรษฐกิจแล้ว ยังได้รับการต้อนรับจากอาคันตุกะ อย่างน่าปลื้มปีติอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทางศีลธรรมอันดีงามของประชาชน สิ่งสำคัญสองประการนี้ อย่างที่หนึ่งเป็นไปในทางด้านวัตถุ อย่างที่สองเป็นไปในทางจิตใจ บ้านเมืองจึงทรงไว้ซึ่งสันติสุข อันสิ่งทั้งสองนี้ จะขอกล่าวในทางศีลธรรมอันดีงามของประชาชนก่อน ว่ามีความรุ่งเรืองและเป็นมานานประการใด สิ่งสำคัญที่ช่วยประชาชนให้มีศีลธรรมอันดีได้นั้น ปราชญ์แยกไว้สามประการ คือ
๑.ความเป็นอยู่ของประชาชนดี เช่น การทำมาหากิน ที่อยู่อาศัย ไม่ลำบาก
๒.สิ่งแวดล้อมจูงใจได้ดีมากเช่น วัดวาอารามอันสง่างาม เป็นขวัญบ้านฯ
๓.ผู้ที่คอยชี้แจงใจใส่ในการทำดีมีความแข็งแรงในภาระ
สิ่งสามประการนี้นับว่าเป็นหลักสำคัญ ในอันที่จะทำให้ประชาชนมีศีลธรรมดีได้เป็นอย่างมาก ในที่นี้จะขอกล่าวถึงประวัติของบุคคลที่สำคัญในทางจูงใจ และทรงไว้ซึ่งระเบียบของศาสนา ในแผ่นดินลานนาไทยสมัยหลังก่อนนี้ว่า ใครเป็นผู้จัดการให้พระพุทธศาสนารุ่งเรือง อย่างเป็นที่น่าปีติเช่นทุกวันนี้ เมื่อกล่าวความมาถึงตอนนี้แล้ว ก็ขอกล่าวย้อนหลังไปถึงพระพุทธศาสนาในลานนาไทยแต่หนหลัง พอเป็นที่เข้าใจก่อน เมื่อพุทธศักราช ๒๐๙๔ ปี พม่าได้ยกกองทัพมาทำการรุกรานอาณาจักรลานนาไทยได้เข้ายึดนครต่างๆ ในภาคเหนือไว้ในอำนาจหมด แม้กระทั่งนครเชียงใหม่ ราชธานีของลานนาไทยในยุคนั้น ก็ได้กระจัดกระจายกัน ไพร่ฟ้าราษฎรต่างก็อพยพตัวเองไปอยู่ตามป่าตามเขาโดยมาก การพระศาสนาวัดวาอารามที่เคยรุ่งเรืองมาก็อับเฉาเศร้าหมองลง สังฆพระธรรมกระจัดกระจายไปคนละที่ละทาง เมื่อยึดเมืองได้แล้ว พม่าข้าศึกก็เข้ามานั่งเมืองด้วยการเป็นเหนือหัว ได้อยู่ถึง ๒๓๖ ปี ก็ได้มีคนลานนาไทยกลุ่มหนึ่ง อันมีพระยาสุลวฤาชัยสงคราม (เจ้าทิพย์ช้าง) เป็นหัวหน้า เล็งเห็นความเสื่อมโทรมของการพระศาสนา ก็มีความสังเวชสลดใจเป็นประมาณ จึงชักชวนบริวารมิตรสหายกลุ่มหนึ่ง ทำการกู้อิสระภาพของลานนาไทยกลับคืนมา โดยเข้ายึดเมืองลำปางคืนมาได้ก่อน อันพระยาทิพย์ช้างนี้ มีบุตรคนหนึ่งชื่อ “ เจ้าฟ้าชายแก้ว” ภายหลังเมื่อพม่าที่รักษาเมืองเชียงใหม่รู้ระแคะระคายการกู้แผ่นดิน จึงจับเจ้าฟ้าชายแก้วไว้ แล้วก็ได้นำคุมขังไว้ ณ เมืองเชียงใหม่ เจ้าฟ้าชายแก้วนี้มีบุตรหลายองค์ด้วยกัน ที่นับว่าเป็นยอดทหารหาญอยู่ ก็คือ เจ้ากาวิละ กับ พระเจ้าธรรมลังกา ราชบุตรทั้งสอง เมื่อได้นำไพร่พลหักด่านเข้าเมืองเชียงใหม่ เพื่อแหกเอาเจ้าฟ้าชายแก้วผู้เป็นบิดา ได้มาแล้วก็ได้ทำการขับไล่พม่าออกเมืองไป เจ้ากาวิละผู้เป็นพี่ใหญ่ก็ได้เข้านั่งเมืองเชียงใหม่ เป็นปฐมกษัตริย์ต่อมา เมื่อจัดบ้านเมืองและการพระพุทธศาสนา ให้เป็นไปด้วยความรุ่งเรืองบ้างแล้ว ภาระใดที่เป็นของแผ่นดินลานนาไทย พระเจ้ากาวิละก็ได้รีบจัดการอีก เช่น หัวเมืองฝ่ายเหนือที่ใดยังไม่เป็นสุข ด้วยทุกขภัยเบียดเบียน จากการกดขี่ข่มเหงของพม่าผู้ครอบครองอยู่ เจ้ากาวิละก็ได้ระดมกำลังไปตีเพื่อขับไล่พม่าเสีย มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่พระเจ้ากาวิละ กับพระเจ้าธรรมลังการ์ผู้น้อง ได้ยกกำลังไปตีเชียงแสน เมื่อขับพม่าแตกถอยไปแล้ว สองพี่น้องก็ได้ประชิดติดตามตีจนสุดเขตแดนลานนาไทย แล้วก็ได้กวาดผู้คนมาเป็นจำนวนมาก พวกที่พระเจ้ากาวิละนำมาครั้งนั้น มีพวกไตยวน และพวกลื้อเขิน อันเป็นชาวลานนาไทยเผ่าเดียวกัน พระองค์ได้นำมาด้วย เมื่อมาถึงบ้านเมืองเชียงใหม่แล้ว พระเจ้ากาวิละก็ได้จัดให้อยู่ในคามเขตของบ้านเมืองต่อไป เช่น พวกลื้อ ก็ให้ไว้ตะวันออกของเวียง พวกเขิน ก็ไว้ทางใต้เวียงประตูเชียงใหม่ อันพวกเขินนี้มีศิลปวิทยาการในทางหัตถกิจ และศิลปกรรมต่างๆ มาก ที่เหลือก็ให้ขยายไปอยู่ตามที่ต่างๆ เช่น ในท้องที่อำเภอสันทราย สันกำแพง ดอยสะเก็ดบ้าง ดังนี้ ในบรรดาหมู่ชาวเขิน ที่พระเจ้ากาวิละพามาทางเหนือ เมื่อมาตั้งรกรากเป็นปึกแผ่นแล้ว ก็ได้ช่วยกันทำนุบำรุงบ้านเมืองและการศาสนาให้รุ่งเรืองสืบกันมา
ลุถึงปีเต่าสี (มะโรง-จัตวาศก) พ.ศ. ๒๓๗๔ มีสามีภรรยาชาวเขิน ด้านตะวันตกเวียงคู่หนึ่ง ชื่อหนานอินต๊ะ นางซอน ได้กำเนิดลูกชายในวันอังคารขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๘ นั้นด้วยเหตุอัศจรรย์อยู่ว่าเวลาใกล้รุ่งที่ลูกชายกำเนิดนั้น ควายที่ชาวบ้านปล่อยให้ไปกินหญ้าตามลำพังในป่าทั้งหมดได้หวลกลับเข้ามาบ้านหมดทุกตัว โดยไม่มีใครต้อนกลับมา ด้วยนิมิตอันเป็นมงคลเหตุนั้นลูกชายที่เกิดมานั้นจึงได้ชื่อตามนั้นว่า “ควาย” เมื่อผ่านอายุในปฐมวัยมาด้วยความสมบูรณ์ปราศจากโรคภัยต่างๆ “ควาย” เมื่อเติบโตขึ้นพอช่วยบิดามารดาทำกิจกรรมต่างๆ ได้ ผ่านอายุในปฐมวัยมาด้วยความสมบูรณ์ ปราศจากโรคภัยต่างๆ ควายเมื่อเติบโตขึ้น พอช่วยมารดาบิดาทำกิจการต่างๆ บางครั้งก็ไปเลี้ยงควาย เป็นการช่วยพ่อแม่ตามวัย เมื่อเด็กชายควายอายุได้ ๑๑ ปี ก็ได้มีสาธุเจ้าครูบามารวิชัยผู้มาเจริญบิณฑบาตทุกๆวัน ที่บ้านพบเห็นเข้า ครูบามารวิชัยจึงได้ขออนุญาตจาก หนานอินต๊ะให้ไปอยู่วัดด้วย ควายจึงมาเป็นลูกศิษย์วัดฝายหินกับครูบามารวิชัย เข้าบรรพชาเมื่ออายุ ๑๑ ปี เมื่อมาอยู่วัดช่วยปรนนิบัติครูบาอาจารย์ และวัดวาอารามแล้วก็ศึกษาอักขระสมัยประเพณีจนเข้าใจอย่างรวดเร็วจวบจนอายุได้ ๑๕ ปี ครูบามารวิชัยผู้เป็นอาจารย์ได้ทำการบรรพชา ให้เป็นสามเณรในปีนั้น สามเณรควายเมื่อได้น้อมตัวสู่เงาของพระบวรพุทธศาสนาแล้วก็ได้อุตส่าห์วิริยะทำการศึกษาอักขระสมัยและพระไตรปิฎกในสำนักของอาจารย์จนเข้าใจอักษรศาสตร์ และพระธรรมวินัยจนเชี่ยวชาญ เป็นที่ร่ำลือกันในสมัยนั้น ว่าสามเณรควายผู้นี้รู้ภาษาบาลี มูลกัจจายท- สัททศาสตร์จนหาผู้ใดเสมอไม่ได้ สามเณรควาย เมื่อได้น้อมตัวลงมาสู่ร่มเงาของพระบวรพุทธศาสนาแล้ว ก็ได้อุตส่าห์ วิริยะ ทำการศึกษาอักขระสมัยและไตรปิฎก ในสำนักของอาจารย์จนเข้าใจในอักษรศาสตร์และพระธรรมวินัยเชี่ยวชาญได้เป็นอย่ างดี เป็นที่ร่ำลือกันในสมัยนั้นว่า สามเณรควายผู้นี้ รู้บาลี มูลกัจจาย์ สัททศาสตร์ จนหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้
|
ราคาเปิดประมูล :
1000 บาท
ราคาสูงสุด ขณะนี้ :
1000 บาท
ราคาที่ต้องเพิ่มขึ้น ขั้นต่ำ :
5000 บาท
ผู้ตั้งประมูล :
ยุรนัน จิตส่วาง
ที่อยู่ :
304 ม3 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 50170 ไทย
เบอร์โทรติดต่อ :
0810312139, 0810312139
E-mail :
jack.tkp@hotmail.com
ชื่อบัญชี :
ยุรนัน จิตส่วาง
เลขที่ บัญชี :
5160354093
ธนาคาร :
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
วันที่ :
Fri 24, Mar 2017 20:34:50