รูปหล่อหลวงพ่อเขียน ปี 2503 เนื้อเงิน เลี่ยมเงินชุบทองคำขาว
ประวัติการสร้างหลวงพ่อเขียนด้วยเงินแท้ เนื่องจากนาย วิศาล ภัทรประสิทธิ์ อดีตกำนันตำบล และ อดีต สส.จังหวัดพิจิตร ผู้ซึ่งเป็นลูกศิษย์ ของหลวงพ่อ ได้พูดกับหลวงพ่อว่า อยากจะสร้างกุฏิพระ ที่วัดเขาพระ ต.หัวดง โดยจะสร้างรูปเหมือนของหลวงพ่อ เพื่อจะสมนาคุณ แก่ผู้มีจิตศรัทธา บริจาคสมทบทุน ควรสร้างด้วยเงินแท้ ทั้งองค์ คุณวิศาล ภัทรประสิทธิ์ จงได้สั่งการให้คุณ วิรัตน์ ภัทรประสิทธิ์ ผู้เป็นน้องชาย ทีเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อ เช่นกัน ไปดำเนินการแทนคุณ วิศาล สั่งซื้อแผ่นเงินบริสุทธ์ จาก กทม. และนำไปให้ หลวงพ่อ กัน วัดเขาแก้ว จ. นครสวรรค์ ปลุกเสก ลงเลขยันต์ แล้วกลับมา ให้หลวงพ่อเขียน ปลุกเสกลงเลขยันต์ อีกครั้งหนึ่ง วิธีการปลุกเสกของหลวงพ่อ วิธีการปลุกเสกของหลวงพ่อเขียนท่านได้ทำดังนี้ คือ จับแผ่นเงินมาลงยันต์ทีละแผ่นแล้วทิ้งแผ่นเงินที่ปลูกเสกแล้วลงในถังน้ำ เมื่อครบทั้งหมดแล้ว หลวงพ่อก็จุดธูปเทียนปลุกเสกในถังน้ำอีกครั้งหนึ่ง เหตุที่ใช้ถังน้ำเพราะแผ่นเงินมากใช้บาตรไม่ได้ ขณะปลุกเสกหลวงพ่อจะโรยแป้งลงในถังน้ำด้วย เมื่อปลุกเสกแล้วเสร็จ ได้มอบแผ่นเงินนั้นให้คุณ วิรัตน์ ไปดำเนินการนัดแนะช่างไปหล่อกันที่วัด ชอนไพร จ.เพชรบูรณ์ โดยมีหลวงพ่อเขียนจัดพิธีพุทธาภิเษก ในวัน เสาร์ ๕ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ซึ่งตรงกับวันสงกรานต์ พอดี ( ๑๓ เมษายน ๒๕๐๓ ) หล่อทั้งหมด ๘๔๐๐ องค์ ซึ่งย่อตัวเลขมาจาก ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
แต่นี่ลดเหลือ ๘๔๐๐ การหล่อครั้งนั้นตระกูล ภัทรประสิทธ์ ขออนุญาตหล่อรูปท่านเป็นเนื้อสามกษัตริย์ คือ ทอง นาค เงิน หลวงพ่อก็อนุญาต และการเททองหล่อ นั้น หลวงพ่อ คอยควบคุมดูแล อย่างใกล้ชิดเมื่อหล่อออกมาแล้วเป็นเนื้อทองนาคเงิน เป็นชั้นๆ อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งเหตุการณ์ในวันทำพิธีพุทธาภิเษก วันนั้นได้มีฝนตกโปรยเหมือนมีการพรมน้ำมนต์ในพิธีนี้มีนายแพทย์ พยุง กลันทกะพันธ์ (หมอแดง ) อ. บางมูลนาก และ ดร.ยะเสริฐ วงศ์ทองเหลือ ได้นำสิ่งของไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกด้วย ขณะนั้น คุณ ปรีชา โฆสิตานนท์ คหบดีจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อเหมือนกันได้นำทองเหลืองไปหล่อรูปหลวงพ่อโดยช่างคนเดียวกัน หลังจากทำพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ได้ขอให้หลวงพ่อทำยันต์ สำหรับตีตราประทับ ลงที่ก้นรูปหล่อ ชนิดเงินบริสุทธ์ รูปหล่อองค์ใดทีมีตราของหลวงพ่อ ถือว่าได้ผ่านการปลุกเสกอย่างถูกต้อง ปลุกเสกครั้งที่ ๒ เมื่อมีงานวัดเขาพระ ต. หัวดง ได้จัดพิธีปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง และได้นิมนต์ หลวงพ่อเขียน หลวงพ่อ นอ วัดท่าเรือ จ. อยุธยา หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์ และ หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง พิธีปลุกเสกครั้งนี้ หลวงพ่อเขียนเป็นประธานเมื่อเสร็จพิธีแล้ว ก็นำออกจำหน่ายในราคาองค์ ละ ๖๐ บาท ปลุกเสกครั้งที่ ๓ เนื่องจากคุณ วิศาล ภัทรประสิทธ์ ได้สร้างพระยืนปางประธานพร บนยอดเขาพระ ๑ องค์ เมื่อเสร็จแล้วจึง ให้มีงานเบิกเนตร ในงานนี้ได้จัดทำพิธีพุทธาภิเษกรูปหล่อหลวงพ่อเขียนอีกโดย นิมนต์ หลวงพ่อเตียง และเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ลอย พร้อมด้วยเกจิอาจารย์ อีกหลายองค์ ทำพิธีเบิกพระเนตรและพุทธาภิเษก การนำรูปหล่อไปบนยอดเขาพระ จะต้องใช้คนงานขึ้นไปขณะนั้น จ.ส.ต. เจือ นาคเอี่ยม และพรรคพวกที่เป็นผู้แบกหามไปบนยอดเขาพระ ในระหว่างทำพิธีพุทธาภิเษก เกิดอัศจรรย์ ฝนตกลงมาโปรยๆ หลวงพ่อเตียงจึงได้ทำพิธีห้ามลมห้ามฝน แต่ก็มีฝนตกลงมาบ้าง เหมือนการปรพรมน้ำมนต์ เป็นทีน่าอัศจรรย์ ในการทำพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ รูปหล่อของหลวงพ่อเขียนออกจำหน่ายองค์ละ ๑๐๐ บาท ตามคำสั่งของหลวงพ่อเขียน ปลุกเสกครั้งที่ ๔ ในพิธีพุทธาภิเษกที่วัดบางคลาน อ. โพทะเล รูปหล่อระฆัง คุณ วิรัตน์ ภัทรประสิทธ์ ได้นำรุปหล่อ ของหลวงพ่อเขียนได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งหนึ่ง นับได้ว่ารูปหล่อของหลวงพ่อเขียนชุดนี้นั้น ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษก ถึง ๔ ครั้ง น่าจะถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของวัตถุมงคล ปัจจุบันนี้คุณวิศาล ภัทรประสิทธ์ ได้เก็บรักษารูปหล่อของหลวงพ่อไว้ทั้งหมด และได้ปรารภว่าในโอกาสต่อไปจะเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสได้เช่าไป ใช้ เพื่อจะได้นำเงินที่ได้จากการจำหน่ายมา ทะนุบำรุงพุทธศาสนาต่อไป กราบสาธุ