อดีตสุดยอดปรมาจารย์ "ครูบาเจ้านันตา" วัดทุ่งม่านใต้ (บ้านบ่อหิน) ต.บ้านเป้า อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งมรณภาพไปปี 2504 สิริอายุ 90 ปี เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาราหู วัวธนู โคสุภราช ให้ "หลวงพ่อน้อย เนาวรัตน์" วัดศีรษะทอง จ.นครปฐม และครั้งเมื่อคราวที่ "ท่านครูบาศรีวิชัย" นักบุญแห่งล้านนา ต้องอธิกรณ์ "ท่านครูบานันตา" มอบราหูให้ครูบาศรีวิชัยติดตัวไป จนรอด พ้นมลทินทุกประการ
ครูบาเลิศ วัดทุ่งม่านใต้ท่านเป็นเจ้าตำรับเครื่องรางล้านนาโบราณอย่างแท้จริง ปัจจุบัน "ราหูกะลา" ของท่านเซียนใหญ่ในห้างดังเปลี่ยนมือกันหลายแสนบาท เพราะด้วยกฤติยาภินิหารที่เป็นสุดยอด ก่อนที่ท่านจะละสังขารไปท่านได้ถ่ายทอดวิชาทั้งหมดให้ "ครูบาเลิศ" พระเกจิอาจารย์ชื่อดังวัดทุ่งม่านใต้รูปปัจจุบัน จนหมดสิ้น ท่านสร้างวัตถุมงคลอันเข้มขลังแทนครูบาเจ้านันตาสืบต่อมา ขึ้นชื่อลือชาในภาคเหนือ และทั่วประเทศข้ามไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน
"ครูบาเลิศ" ปัจจุบันอายุ 78 ปี เกิดวันมงคลใหม่ ฤกษ์ยามดีเป็นเลิศ วันที่ 1 มกราคม 2474 ครูบาเจ้านันตาเป็นคนตั้งชื่อให้ว่า "บุญเลิศ" อีกทั้ง "ครูบานันตา" ยังเป็นพระอุปัชฌาจารย์ถ่ายทอดวิชาให้ทั้งหมด หลังจากบวชครูบาเลิศได้เดินทางไปเรียนวิชากับครูบาอ่องส่า วัดท่าผา และครูบาโถ มณีคุณ ล้วนเป็นครูบาอาจารย์รุ่นเก่าที่ทรงพระเวทวิทยาคมยิ่งนัก
วัตถุมงคล "ราหูกะลาตาเดียว" ของครูบาเลิศปัจจุบันได้รับความนิยมจากลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสมอย่างมาก เป็นราหูตำราเก่าอุดผง 2 รู ใช้ไฟแกะเดินเส้นยันต์รูปพระราหู ตำราพระราหูรู้กันอยู่แล้วว่ามีเคราะห์ทุกข์ภัย ความตกต่ำย่ำแย่ ชีวิตพลิกผัน พระราหูกลืนกิน แก้ได้หมด ใครนำพาพระราหูติดตัวเป็นเนืองนิตย์จะมีแต่สวัสดิโสพิณกว่าคนทั้งหลาย ทุกหนักเท่าหนักปานใดผ่านพ้นไปเร็วไว ไปถึงความสำเร็จสมหวังดังเป้าหมายทุกประการ อีกทั้งตำราว่ายันต์สุริยประภา และจันทรประภา ท่านว่าเป็นยันต์แห่งขุมทรัพย์ สิทธิการิยะ ประเสริฐกว่ายันต์อื่นใดในโลก ถ้าบุคคลใดปรารถนาสมบัติ แก้ว แหวน เงินทองทุกประการบูชาพระยันต์นี้เถิดราหูกะลาตาเดียว ครูบาเลิศ
ตำนานกล่าวไว้ว่า มีพระฤๅษี 2 ตน สถิตอยู่ ณ เขายุคนธร ได้พิจารณาเล็งดูมนุษย์ทั้งหลายว่า ในกาลภายหน้าจักมีทุกข์ภัยเวทนา หาสมบัติมิได้ จึงใคร่จะช่วยทุกข์แห่งมนุษย์ทั้งหลาย ฤๅษีตนหนึ่งจึงสร้างยันต์ขึ้นยันต์หนึ่งชื่อ "สุริยประภา" อีกตนหนึ่งสร้างยันต์ "จันทรประภา" ขึ้น ลงในกะลาตาเดียว จะหาสิ่งใดเทียบเทียมได้ยาก แม้ว่าสมบัติบรมจักรพรรดิ และสมบัติพระอินทร์ หรือดวงแก้วมณีโชติ ก็หาอาจเปรียบเทียบพระยันต์ทั้งสองนี้ได้ ผู้ที่หวังเจริญในลาภยศ และอยากจะมั่งมีทรัพย์สินเงินทอง ก็ให้คิดสร้างขึ้นและนำไปบูชาเถิด โดยให้จุนเจิมด้วยแป้งหอม น้ำมันหอม แล้วเอาบูชาไว้
พระยันต์ทั้ง 2 นี้ผู้ใดนับถือบูชาไว้มิรู้อดอยากตกทุกข์ได้ยากเลย เมื่อจะใช้ยันต์สุริยประภานั้น ให้เอาคาถานี้นมัสการก่อน 7 หน "เอหิจักขุ นาฬิเกลา สุริยประภา จันทรประภา ราหูคาหา สัตตะ ระตะนะ สัมปันโน มณีโชติระโส ยะถา สุวัณณะ รัชชะตะ สะมิทธา อะหัง วันทามิ เมสะทาฯ" แล้วจึงว่าพระคาถากำกับพระยันต์ ดังนี้ กลางวัน "กุเสโต โตราโมมะมะ โตราโม คุยหะโม มะมะ คุยหะโม คุตติโม มะมะ คุตติโม" (ว่ากำกับ 3 จบ 7 จบ) กลางคืน "ยะถาตัง มะมะ ตังถายะ ตังวะตัง มะมะ ตังวะตัง ตังเสกา มะมะ กาเสตัง" (ว่ากำกับ 3 จบ 7 จบ)
|