พระผงกระดูกผี หรือ พระผงพรายสมุทร พิมพ์ปรกโพธิ์ พ่อท่านเจิม วัดหอยราก จ.นครศรีธรรมราช
หลวง พ่อเจิมหรือพ่อท่านเจิมแห่งวัดหอยรากเมืองนครศรีธรรมราช เป็นพระสงฆ์ผู้คงแก่เรียนด้านวิทยาคมมากท่านหนึ่ง ชำนาญด้านไสยศาสตร์มากมายหลายแขนง บุคลิกท่าทางของท่านดูเป็นที่เคารพน่าเกรงขามแบบคนโบราณ
พระ ผงกระดูกผีหรือพระผงพรายสมุทรซึ่งหลายท่านเรียกหาต่างกันไปนั้น หลวงพ่อเจิมท่านได้สร้างไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2496 โดยท่านได้เขียนผงวิเศษเก็บรวบรวมไว้จำนวนหนึ่ง จากนั้นนำผงวัตถุอาถรรพ์ต่าง ๆ ผสมรวมลงไป ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีเถ้ากระดูกผี 7 ป่าช้าผสมรวมลงไปด้วย
เถ้า กระดูกผีที่ทางไสยศาสตร์นิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการสร้างวัตถุมงคล นิยมนำเถ้าผงกระดูกของผู้ที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร หากตายโหงว่ากันว่าขลังดีนัก แต่สำหรับเถ้าผงกระดูกที่พ่อท่านเจิมนำมาเป็นส่วนผสมองค์พระนั้น ท่านไม่ได้กำหนดตายตัวแต่ประการใดว่าต้องเป็นของผู้ที่เสียชีวิต
อย่าง ไร วันไหน หรือเผาวันอะไร เพียงแต่เก็บเถ้าผงกระดูกจากเชิงตะกอนเผาศพจาก 7 ป่าช้า ก่อนนำเถ้าผงกระดูกดังกล่าวมาท่านก็ได้ทำพิธีพลีกรรมและสะกดอาคมไว้เสียก่อน ด้วย
พ่อ ท่านเจิมได้ปลุกเสกวัตถุมงคลของท่านเป็นระยะเวลานานจึงนำออกแจก แต่ด้วยพระของท่านประกอบด้วยเถ้าผงกระดูกผีชาวบ้านจึงพากันกลัวไม่ขอหรือนำ เข้าบ้านสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมีประสบการณ์ที่เกิดกับผู้ได้บูชามากขึ้น โดยเฉพาะคราวาตภัยแหลมตะลุมพุก เมื่อปี พ.ศ.2506 พระเครื่องรุ่นนี้

ของ ท่านได้ช่วยชาวบ้านให้รอดพ้นจากภัยดังกล่าวหลายคนทีเดียว ประกอบกับไม่ได้มีประสบการณ์หรือเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวแต่ประการใด จึงได้มีการเสาะแสวงหาไว้ติดตัวกันมากขึ้นจนถึงปัจจุบันนี้
พระผงกระดูกผี พ่อท่าน เจิม วัดหอยราก พ.ศ. ๒๔๙๙
พ่อ ท่านเจิม อชิโต หรือ พระครูพิศาลวรเวทย์ อดีตพระเกจิอาจารย์ขลังแห่งลุ่มน้ำปากพนัง พิมพ์นี้แจกลูกศิษย์ในอดีต ซึ่งมีผู้ประสบความอัศจรรย์มากมาย ปัจจุบันแทบจะหาวัตถุมงคลเหล่านี้ได้ยาก..(เนื้อออกส้มสีอิฐครับ) เนื่องจากเป็นที่หวงแหนของผู้ที่ได้ครอบครอง
พระ ผงกระดูกผี ลพ เจิม วัดหอยราก พ.ศ. 2499 โดยท่านสร้างจากผงวิเศษที่ท่านเก็บรวบรวมไว้ ผสมกับวัสดุ อาถรรพ์ต่างๆ รวมถึงขี้เถ้ากระดูกผี 7 ป่าช้า แต่ท่านได้มีการทำ พิธีพลีกรรมและสะกดด้วยอาคมไว้ก่อนแล้วจึงนำมาผสมกับมวลสารอื่นในการสร้าง พระ มีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด

อันตรายต่างๆ มากมาย
การสร้างวัตถุมงคล
มูล เหตุของการจัดสร้างวัตถุมงคล เนื่องจากลูกศิษย์ ได้นำเครื่องราง พระเครื่องต่างๆมาให้พ่อท่านเจิมปลุกเสกเป็นประจำ เช่น ตะกรุด ลูกอม เชือกคาดเอว ทำให้พ่อท่านเจิมมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆ จากการที่มีผู้คนเคารพศรัทธามาก วัตถุมงคลที่ทำก็ทำเป็นเฉพาะบุคคล ท่านจึงดำริที่จะจัดสร้างพระให้

กับ ลูกศิษย์ลูกหา และประชาชนทั่วไปได้นำไปบูชาท่านจึงได้จัดสร้างพระบารมีอะชิโต ขึ้น โดยท่านได้ดำเนินการจัดทำเองทั้งสิ้น ทั้งจัดหาวัตถุอาถรรพ์ ฤกษ์ยามพิธี ปรกร่ายพระเวทย์ ท่านพิถีพิถันทุกขั้นตอน ท่านเริ่มจัดหามวลสารตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๒ จนลุถึงปี พ.ศ.๒๕๐๑ รวมระยะเวลาเกือบ

สิบปี เมื่อได้มวลสารครบถ้วนตามต้องการแล้ว ก็เริ่มกดพิมพ์พระ มวลสารที่จัดหาได้แก่
มวลสารที่จัดหาได้แก่
1. ว่าน ๑๐๘ ชนิด จำนวน ๑๐๘ บาตร
2. ดินพรายสมุทรท้องทะเลลึก ๑๐๘ ปั้น
3. ดินท้องแม่น้ำปากพนัง ๑๐๘ ปั้น
4. ดินกลางวัด ๑๐๘ วัด ๑๐๘ ปั้น
5. ดินกลางนา ๑๐๘ แปลง ๑๐๘ ปั้น
6. ดินหาดทรายแก้ว ๑๐๘ หาด
7. ดินกลางไร่ ๑๐๘ ไร่
8. ดินรูปูนา ๑๐๘ รู
9. ดินปราบหญ้าไม่งอก ๑๐๘ ปราบ
10. ดินจอมปลวกวัวเลีย ๑๐๘ จอม
11. ดินกลางสระน้ำ ๑๐๘ สระ
12. เถ้าเชิงตะกอนเผาศพ ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ๗ ป่าช้า บดเป็นผง ๑๐๘จอก
13. เถ้าหนังสือใบลาน ๑๐๘ จอก
14. ดินป่าช้า ๓ วัด ปั้นเป็นก้อน ๑๐๘ ก้อน
15. ดอกไม้บูชาพระบรมธาตุ วันมาฆบูชา เฉพาะที่ตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ บดเป็นผง ๑๐๘ จอกชา
16. น้ำจากหุบเขาชัยราช แนวต่อจังหวัดชุมพรกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นน้ำผสมผงปั้นพระ
17. น้ำฝนตกชายคาพระอุโบสถ เฉพาะที่ตรงกับวันจันทร์ขึ้น ๑๐ ค่ำเป็นน้ำผสมผงปั้นพระ
18. ดินพอกหางหมู ๑๐๘ ก้อน
19. ผงพระท่าเรือ นครศรีธรรมราช
และ ยังมีวัตถุมงคลอื่นๆอีกรวมแล้ว ๗๐๐ ชนิด มีพระสมุห์เผียน หมอเพียร ชาวบ้านหนองนก หมอปลื้ม ช่วยกันจัดหา และใน พ.ศ.๒๔๙๙ ได้เริ่มกดพิมพ์ และได้เริ่มปลุกเสกในพระอุโบสถ พ่อท่านเจิมได้ปลุกเสกด้วยพระครถามงคลต่างๆ และพระมหาทมื่น ๑๐๐,๐๐๐ จบ ปลุกเสกนาน ๕ ปี
พระผงบารมีอะชิโต แรกออกให้บูชาจะมีใบฝอยจากพ่อท่านแนบ ซึ่งในใบฝอยของท่านเจิม บันทึกไว้ว่า
“สวัสดี ท่านที่เคารพและญาติโยมทั้งหลาย การที่ข้าพเจ้าได้จัดทำหลวงพ่ออะชิโตขึ้นในครั้งนี้ ได้ทำตามแผนโบราณที่ผู้รู้เขียนไว้ในคัมภีร์ใบลาน พัสดุที่นำมาผสมกันเกิน ๗๐๐ ชนิด แต่ละสิ่งล้วนเป็นของศักดิ์ทั้งนั้นข้าพเจ้าได้เที่ยวหาของต่างๆนั้น ๒ ปีซ้อน แต่ทำผงนั้นราว ๔ เดือน และทำรูป

หลวง พ่ออะชิโตก็ราม 3 ปี โดยเฉพาะปลูกเสกอยู่นั้นย่างเข้า ๕ ปี เสกในฤกษ์วันเสาร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีระกาพ.ศ.๒๕๑๒ อันเป็นสัมฤทธิ์ผลโดยสมบูรณ์ รุ่งขึ้นวันอาทิตย์ ๘ ค่ำ เดือนเดียวกัน เป็นปฐมฤกษ์ของการแจกจ่ายให้เช่า อันเป็นมหามงคลฤกษ์ อมฤคโชค แปลว่าโชคไม่ตาย
ฉะนั้น ท่านอย่าประมาทอุตสาห์กราบไหว้บูชา ไว้เสมอ ข้าพเจ้าขอเตือนว่าทุกๆท่านที่มีรูปหลวงพ่ออะชิโต ไว้นั้นอย่าสักแต่มีไว้เฉยๆ เท่านั้น ไม่เกิดมงคลและประโยชน์อันใดเลย เหมือนอย่างไก่ได้พลอย พลอยก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับไก่ พระอะชิโตเป็นรูปพระที่ทำขึ้นแทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เช่น พอถึงวันอังคารหรือวันเสาร์ ควรจัดถวายขาวพระ น้ำสิ่งหนึ่ง ข้าวสิ่งหนึ่ง คาวสิ่งหนึ่ง หวานสิ่งหนึ่ง อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง เวลาจะหลับจะนอน หรือไปไหน ให้ยกเอารูปหลวงพ่ออะชิโตยกขึ้นเหนือหัวขอท่านป้องกันรักษาเถิด พระพุทธเจ้าทรงตรัสสุภาษิตไว้ว่า อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ แปล

ว่า ท่านทั้งหลาย จงยังไม่ประมาทให้ถึงพร้อม พุทธภาษิตนี้ท่านจงยึดถือไว้ให้มั่น นี่เป็นหลักของหลวงพ่ออะชิโต ที่จะต้องถือปฏิบัติคือ อย่าได้ประมาทเลย ขอให้ทุกท่านที่มีหลวงพ่ออะชิโตไว้กับตัวเองและครอบครัว ขอท่านจงสัมฤทธิ์ผลดลบันดาล ให้สำเร็จทุกประการเทอญ”
ลงนาม พระสมุห์เจิม แก้วช่วย เจ้าอาวาสวัดศรีสมบูรณ์ (วัดหอยราก) อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ซึ่ง จากที่พ่อท่านเจิมได้บรรยายถึงพุทธคุณของผู้ที่มีวัตถุมงคลพระอะชิโต ไว้เพื่อที่จะได้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง พระมีหลายขนาดด้วยกัน ดังนี้
1. พระพิมพ์พระประจำวันทั้ง ๗ มีขนาดใหญ่สำหรับไว้บูชาประจำบ้าน ประจำสำนักงาน ขนาด กว้าง ๙ ซม. สูง ๑๕ ซม.
2. พระปรกโพธิ์ขนาดใหญ่ กว้าง ๑.๕ ซม. สูง ๔ ซม.
3. พระปรกโพธิ์ขนาดเล็ก กว้าง ๑.๕ ซม. สูง ๒.๕ ซม.
4. พระปิดทวารทั้งเก้า (มหาอุตม์) กว้าง ๑.๕ ซม. สูง ๔ ซม.
จาก บันทึกที่พบแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาของการสร้างพระที่ออกจะขัดแย้งอยู่ใน ที เพราะเบื้องต้นว่าสร้าง ปี ๒๔๙๙ และตามใบฝอยที่พบจะบอกว่า “เสกในฤกษ์วันเสาร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีระกา พ.ศ.๒๕๑๒” และใบฝอยอีกใบด้านบนที่ยืมมาอ้างอิง ระบุ ปี ๒๕๑๖ นั่นย่อมแสดงว่าพระพ่อท่าน

เจิม น่าจะมีการเริ่มสร้างตั้งแต่ปี ๒๔๙๙ และแจกเรื่อยมา และมาเริ่มสร้างอีกครั้งในราวๆปี ๒๕๐๕ ถึง ปี ๒๕๐๗ และปลุกเสกอยู่นาน ๕ ปี ได้แจกจ่ายในปี พ.ศ.๒๕๑๒ ตามที่ระบุในใบฝอย (ซึ่งไม่สามารถนำใบจริงมายืนยันได้) ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของชาวปากพนังว่าท่านเจิมมีการสร้างพระสอง

ครั้ง และครั้งหลังคือที่ระบุในใบฝอยว่าเสร็จปี ๒๕๑๒
ส่วน ใบฝอยปี พ.ศ.๒๕๑๖ นั้นน่าจะสั่งพิมพ์เพิ่มหลังจากใบฝอยชุดปี พ.ศ.๒๕๑๒ หมดแต่เป็นพระชุดเดียวกัน เพราะพระสร้างไว้จำนวนมาก เก็บไว้ในกรุในวิหาร เมื่อราวๆปี 253.. ปลายๆ
กาลมรณภาพ
พ่อ ท่านเจิม วัดหอยราก ท่านบำเพ็ญประโยชน์อุทิศตน ให้กับพระพุทธศาสนา รับใช้ทำหน้าที่เป็นทูตเผยแพร่พระพุทธศาสนา พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ เป็นเวลา ๕๗ พรรษา มีอายุ ๗๗ ปี ท่านก็ถึงกาลมรณภาพจากศิษยานุศิษย์และญาติโยม ด้วยอาการที่สงบ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๗
พ่อ ท่านเจิม อะชิโต นอกจากจะสนใจในการศึกษาเล่าเรียน และพระเวทย์ต่างๆแล้ว ท่านยังสะสมวัตถุโบราณไว้จำนวนมาก เพื่อสืบสานวัฒนธรรมไทย และเป็นวิยาทานเพื่อเป็นที่ศึกษาค้นคว้าของชนรุ่นหลังต่อไป
พระ ผงพรายสมุทรหลวงพ่อเจิม อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ มวลสารที่เป็นดินพรายสมุทร (ท้องทะเล) ต้องใช้ถึง 108 ปั้น โดยต้องดำน้ำลงไป และเถ้าคนที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคารให้ได้ 7 ป่าช้า เอามาบดเป็นผงให้ได้ 108 จอกชา และยังมีมวลสารที่สำคัญอีกร่วม 700 ชนิด พ่อท่านเจิมได้นำพระผงพราย

สมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และ พิมพ์ปิดตา เข้าปลุกเสกเดี่ยวในพระอุโบสถ วัดศรีสมบูรณ์อีก เพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ด้วยพระคาถาพระมหาหมื่น 10,000 จบ พ่อท่านเจิมใช้ระยะเวลาการปลุกเสกนานถึง 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2499-2501 ผงพรายอชิโตของพ่อท่านเจิม นอกจากพ่อท่านเจิม เสกเดี่ยวแล้ว จริงๆ

แล้ว ยังนำไปเข้าพิธีดีมากๆ(หลวงพ่อโอภาสี พ่อท่านคล้าย ลพ.เงิน วัดดอนยายหอม พ่อท่านมุ่ย พ่อท่านแปลก พ่อท่านรุ่ง พ่อท่านจันทร์ พ่อท่านเขียว วัดหรงบล และพระครูนนท์ ลพ สงฆ์ อ.นำ ขุนพันธ์ ฯลฯ) เป็นพระที่เล่ากันว่า ขอแล้วได้ผล ทั้งเรื่องคุ้มภัย เมตตา โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ วิธีการ

บูชา พระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปิดตา ปี 2499 ของพ่อท่านเจิม อชิโตนั้น มีดังนี้ นะโม 3 จบ กล่าว ต่อ ติวาคะภะ โธพุทนังสา นุสมะวะเท ถาสัตถิระ สามะทัมสะ ริปุโรตะ นุตอะทูวิ กะโลโตคะ สุโนปันสัม ณะระจะชา วิชโธพุทสัมมาสัมหังระ อะวาคะภะ โสปิติอิ