พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงพระสุบินและคิดสร้าง และยังเสด็จพระราชดำเนินทรงเททองหล่อองค์พระพุทธรูป และพระชัยวัฒน์ วัตถุมงคลองค์น้อย เป็นพระเครื่องที่กรมรักษาดินแดนได้ทำการจัดสร้างเมื่อวันที่ 1-2 สิงหาคม 2511 ในครั้งนั้น กรมการรักษาดินแดนสวนเจ้าเชตุ กรุงเทพ ได้ดำเนินการสร้างพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศขึ้นเพื่อสืบต่อตามรอยประเพณีบ้านเมืองเกี่ยวกับการสร้างพระพุทธรูป แบบ"จตุรพุทธปราการ" ซึ่งหมายถึงการสร้างวัดและสร้างพระพุทธรูปไว้ สี่มุมเมือง จากความสำคัญของพระนิรโรคันตราย อันเป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว นี้เองทางกรมการรักษาดินแดนได้อนุสรณ์คำนึงถึงพระราชศรทธาในการสร้างพระพุทธรูปดังกล่าว จึงเห็นควรน้อมเกล้า ด้วยความจงรักษ์ภักดียิ่งขึ้นและดำเนินตามรอยพระยุคลบาทประเพณีแห่งอดีตบุรพกษัตริย์ของไทยเรามาแต่โบราณ ที่ได้สร้างพระพุทธปฏิมาไว้ 4 มุมเมือง เพื่อการปกป้องและเพิ่มเกณฑ์ชะตาของบ้านเมือง ตลอดถึงพสกนิกรที่อยู่ใต้ร่มพระบารมีให้มีความอยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากโรคาพยาธิภัยพิบัตินานาประการ จึงได้มีมติสร้างพระพุทธรูปนิรโรคันตรายชัยวัตน์จตุรทิศ เป็นเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองทั้ง 4 ทิศ พอสร้างเสร็จได้นำประดิษฐานไว้ในทิศทั้ง 4 ของประเทศไทยคือ ทิศเหนือ นำไปประดิษฐานจังหวัด ลำปาง ทิศใต้ นำไปประดิษฐานไว้ที่จังหวัดพัทลุง ทิศตะวันตก ประดิษฐานจังหวัดสระบุรีทิศตะวันออก นำไปประดิษฐานจังหวัดราชบุรี “พระชัยวัฒน์รุ่นนี้เป็นพระที่ปลุกเสกโดยเกจิทางใต้ โดยจัดสร้าง เนื้อเงิน ๑๐๐ องค์ และเนื้อทองเหลือง ๙,๐๐๐ องค์ สร้างโดยการปั๊ม เกจิอาจารย์ที่นั่งปลุกเสกได้แก่
๑.พระอาจารย์นำ ๒.หลวงพ่อเล็ก วัดประดู่เรียง ๓.หลวงพ่อ ปาล วัดเขาอ้อ ๔.หลวงพ่อเจ๊ก วัดเขาตะวันตก ๕.หลวงพ่อหมุน วัดเขาตะวันออก ๖.หลวงพ่อ เขียว วัดหรงบน ๗.หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ๘.หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ ๙.หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน
|