ฉลอง อายุ ๙๙ พรรษา ครูบาอิน
ประสบการณ์ ลำไยอบระเบิด กับ การปลุกเสก วัตถุมงคล รุ่น ๙๙ พรรษา
จากการที่ผู้เขียนได้มีโอกาสศึกษา คลุกคลี วิเคราะห์ และเจาะลึกถึงเรื่องราวในแง่มุมต่างๆ ทั้งของวงการพระพุทธศาสนา พระเครื่อง บรรดาพระเกจิอาจารย์มานานปี ด้วยจิตใจที่พยายามอย่างที่สุด ในอันที่จะให้ “เที่ยงธรรม” และ “เป็นกลาง” อย่างยิ่ง ด้วยมุ่งประสงค์ต่อ “สัจจะ” ความจริงแท้อันไม่แปรผันตามวิสัยแห่ง “ธรรมนิยม” หรือ “ธรรมาธิปไตย” นั้น ก็สามารถยืนยันต่อผู้อ่านที่เคารพรักทั้งหลาย ณ โอกาสบัดนี้ได้เลยว่า ในบรรดาพระอัจฉริยาจารย์เจ้าอาวุโส ผู้เจริญชนมายุยั่งยืนนาน ที่ทั้ง “ดีแท้” และ “แน่จริง” ใน “เนื้อหา” และ “สาระ” จริงๆ คือเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ทรงไว้ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา วิชชา วิมุติ ตลอดทั้งยังแกร่งกล้าด้วยพุทธาคมและพลังจิต ฤทธิ์อำนาจอย่างเฉียบขาดและหมดจดสิ้นเชิงในตนเองทุกประการนั้น หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท วัดคันธาวาส (ทุ่งปุย) ต.สันติสุข กิ่ง อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ แห่งแคว้นลานนาไทย ก็ย่อมสามารถนับเนื่อง เป็นหนึ่งในรัตนภาคีดังว่า ได้อย่างสมภาคภูมิโดยเที่ยวแท้ทีเดียว
เหตุที่ย่อมสามารถกล่าว “อาสภิวาจา” อย่างแน่วแน่ได้เพียงนี้นั้น ก็เป็นด้วย “คุณธรรม” และ “คุณลักษณะ” อันล้ำเลิศ ประเสริฐสุด ที่ล้วนประมวลมีอยู่ในองค์หลวงปู่ครูบาอินท่านเอง ที่ฉายแววเจิดจ้าให้เป็นที่ “จับตา” แก่บรรดา “ผู้รู้” และ “ผู้ศึกษา” ทั้งหลายจนแจ้งกระจ่างเข้าไปถึงกลางใจอยู่โดยถ้วนทั่วเป็นสาระหลักทั้งสิ้น
เริ่มแต่การที่ หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร พระอริยเจ้าผู้มีอัฐิแปรเป็นพระธาตุเพียงชั่วข้ามคืนเดียว แห่งสำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ ถึงกับเดินทางไปไหว้สาครูบาอินถึงที่อยู่หลายครั้งหลายครา อันเป็นการผิดปกติวิสัยของท่านอยู่ไม่น้อย อันย่อมเป็นการบ่งบอกเป็นนัยให้ได้รับรู้ทั่วกันว่า อันหลวงปู่ครูบาอินนี้จะต้อง “พิเศษสุด” แบบ “สุดขีด” อย่างแน่แท้ เพราะหาไม่แล้ว อย่าว่าแต่จะ “ไป” เลย แค่ลำพังคำพูดถึงกล่าวถึงในเชิง “ชม” ก็อย่าฝันว่าจะได้ยินเป็นแน่นอน
เผลอๆ หลวงปู่ท่านอาจจะ “วิจารณ์” แถมพกออกมาให้ผู้ฟัง “หนาวๆ ร้อนๆ” เล่นอีกต่างหากด้วย เพราะหลายๆ “ท่าน” ที่หลวงปู่สิม “โน คอมเมนต์” หรือ “เฉยๆ” นั้น ล้วนแต่ “ฟีเวอร์” ระดับประเทศแทบทั้งสิ้น !?!?!
มีทั้งที่ “ผิดทาง” หรือ “ตึงเกินไป” หรือ “ญาณไม่ถึงขั้น” ฯลฯ สวนกระแสความเชื่อความเข้าใจของ “ชาวบ้าน” หรือ “ปุถุชน” อย่างสุดแรง จนมิอาจที่จะนำมาพูดมาบอกกล่าวแก่กัน ณ ที่นี้ได้
คงพูดได้แต่ “ยอดพระ” ที่หลวงปู่สิมท่านเคยออกปากชมจริงๆ ให้ท่านผู้อ่านนำกลับไปพินิจพิเคราะห์ และศึกษาปฏิปทาที่ “ไม่ผิด” ต่อธรรมวินัยจริงๆ ไว้เป็นแนวทางได้อย่างมั่นใจตลอดไป อาทิเช่น พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต, หลวงปู่แหวน สุจิณโณ, หลวงปู่ดูลย์ อตุโล, หลวงปู่บุดดา ถาวโร, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, ครูบาพรหมา พรหมจักโก, หลวงพ่อครูบาดาบส สุมโน ฯ เป็นอาทิ
ส่วนหลวงปู่ครูบาอิน อินฺโทนั้น ไม่เพียงแต่ “พูด” แต่ “ไป” ไหว้ไปสาจนถึงวัดถึงวาเลยทีเดียว !!!
ก็ “ความนัย” ที่ไร้เสียซึ่งคำพูด แต่ชัดแจ้งด้วยกิริยาความเพียรถึงเพียงนี้ จะมีความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งใหญ่สักปานใดนั้น ผู้มีปัญญาทุกๆ ท่าน ย่อมล้วนต้องประจักษ์แน่อยู่แก่ใจอย่างไม่มีใดจะแปรเปลี่ยนไปเป็นอื่นได้โดยแน่
หรือต่อมา เมื่อมีพ่ออุ๊ยจากลำพูนท่านหนึ่ง เอาพระของครูบาอิน ไปถึงลำปางเพื่อขอให้หลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก ปลุกเสกเพิ่มพลัง แต่พ่ออุ๊ยท่านนั้นแทบหน้าหงายออกมา เมื่อ “ตนบุญแห่งเขลางค์นคร” บอกปัดอย่างเด็ดขาดก่อนที่จะสำทับซ้ำอีกให้ด้วยว่า
“ไม่ต้องเสกอะไรอีกแล้ว ดีอยู่แล้ว...!!?!”
ลองพระที่ยิ่งด้วยพลังจิต ฤทธาภินิหารอย่างหลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม ออกปากมาถึงขนาดนี้ ยังจะมีใครจะลังเลสงสัยอยู่อีกล่ะหรือ ?!?
แต่ถ้าใครยังริอ่านจะสงสัยอยู่ดี ก็ลองพิจารณาการันตี จากหลวงพ่อครูบาดาบส สุมโน แห่งอาศรมไผ่มรกต จ.เชียงราย ที่ได้มีถวายมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ดูสักหน่อยก็ได้
“ครูบาอิน ท่านเป็นพระสุปฏิบันโน ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบนะ...!!!”
ช่างน่าชื่นใจเสียจริงๆ
และโดยส่วนตัวของผู้เขียน ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็น “ลูกศิษย์ ๑๐๘ วัด” ได้พบ ได้เห็นได้เจอะ ได้เจอ พระคณาจารย์ระดับอ๋องหรือระดับหัวกระทิมามากต่อมากแล้ว ก็ต้องขอยอมรับโดยดุษณีภาพว่า อันหลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท องค์นี้ ท่าน “สุดๆ” ในทุกๆ ทางอย่างวิเศษที่สุด จนสามารถ “เติมฝัน” ของผมที่เคยปรารถนาอยากจะได้กราบไหว้ พระอัจฉริยเจ้าสไตล์โบราณรุ่นเก่าที่ทั้ง “ดี” ทั้ง “ขลัง” แบบสุดชีวิตอย่างหลวงพ่อเดิม หรือหลวงพ่อ “จาด จง คง อี๋” ได้อย่างสนิทใจเต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์นั่นเทียว !!!!
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็ได้ว่า หลวงปู่ครูบาอินนั้น ท่าน “ครบเครื่อง” ทั้งฝ่าย “วิทยายุทธ” และ “วิปัสสนาธุระ” อีกทั้งยังเพียบพร้อมด้วย “วิชชา” และ “วิมุตติ” อันสูงสุดในทุกประการ จนบรรลุถึงขีดขั้นเป็น “พระอริยเกจิอาจารย์” แถวหน้าได้อย่างสมภาคภูมิ สมกับที่ได้ยินเรื่องที่คนเฒ่าคนแก่ทางจังหวัดเชียงใหม่เล่าลือกันในวงในมาเนิ่นนานแล้วว่า
“ครูบาอินนั้น ท่านดีรอบตัว แบบครอบจักรวาลเลย”
นับเป็น “ยอดพระ” ที่ “สุดยอด สุดเยี่ยม” แต่ “สุดหายาก” อย่างที่สุดแล้ว
ใครมีโอกาสวาสนาได้กราบ ได้ไหว้ ได้พร หรือได้ของดีจากท่านมาบูชาสักการะ ก็ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีโชค มีบุญบารมีอันใหญ่หลวงโดยแน่แท้
และยิ่งหากได้ทำบุญบูชากับท่านด้วยแล้ว ก็ยิ่งจะเป็นสิริมงคลและมหากุศลอันยิ่งใหญ่ ที่จะก่อให้เกิดพลานิสงส์ไม่สุดสิ้น จนนับภพชาตินี้ไม่ถ้วน อย่างไม่มีข้อต้องสงสัยเลย เพราะเป็นการหว่านพืชลงในนาดี ที่มีน้ำและสารอาหารชั้นเยี่ยม อยู่อย่างล้นปรี่ครบถ้วนทุกส่วนสัดโดยสมบูรณ์นั่นเอง
สมควรอย่างยิ่งที่ทุกท่านๆ ผู้ปรารถนาจะได้พานพบพระมหาเถราจารย์เจ้าผู้ที่ทั้ง “เก่ง” ทั้ง “ดี” แบบถึงขีดสุดจริงๆ จะเร่งเดินทางไปสักการะ และทำบุญถวายทักษิณาทานบูชาธรรมแห่งท่านโดยไวที่สุดทั่วกันเลยทีเดียว
ก็เวลานี้ หลวงปู่ครูบาอิน ท่านกำลังสร้างศาลาบำเพ็ญบุญ และกำแพงล้อมรอบวัดคันธาวาส (ทุ่งปุย) บ้านเกิด ซึ่งท่านได้ย้ายกลับมาจากวัดฟ้าหลั่ง ที่ท่านได้ไปจำพรรษาและพัฒนาจนใหญ่โตสวยงามเมื่อปีก่อนอยู่อย่างรีบเร่ง ซึ่งหากว่าท่านผู้ใดปรารถนาจะสร้างเนื้อนาบุญอันยอดยิ่งแก่ตนในครั้งนี้แล้ว ก็ขอกราบเรียนเชิญที่ หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท วัดคันธาวาส (ทุ่งปุย) ต.สันติสุข กิ่ง อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ขอกราบอนุโมทนาสาธุการโดยทั่วกัน
แต่สำหรับผู้ที่ชมชอบในสิ่งมงคลสักการะและปรารถนาจะได้วัตถุมงคลของท่านครูบาไว้บูชาเป็นสิริมงคลโดยแท้จริง แต่ก็ไม่รู้จะหาได้ที่ไหนให้มั่นแก่ใจจริงแท้แล้ว ผมก็มีข่าวดีมาขอแจ้งให้ทราบทั่วกัน ณ โอกาสบัดเดี๋ยวนี้ด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ “แฟนพันธ์แท้” ของพระเครื่อง “ชุดเล็ก” หรือ “ล็อคเก๊ต” ด้วยแล้ว ยิ่งไม่น่าพลาดเป็นที่สุดอย่างแท้ทีเดียว
นั่นก็คือ พระรอดปรกโพธิ์ใบมะขาม, พระนาคปรกพิชิตมาร ฐานแม่พระธรณีบีบมวยผม ใบมะขาม และ ล็อคเก็ตรูปเหมือนเต็มองค์ รุ่น “๙๙ พรรษา” อันเกรียงไกร!!!
จัดสร้างได้อย่างประณีต งดงาม กะทัดรัดได้มาตรฐาน และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนอย่างโดดเด่น น่าศรัทธาบูชาเป็นอย่างยิ่ง
และที่สำคัญที่สุดอีกประการก็คือ ท่านหลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท ท่านเมตตาปรกปลุกเสกให้อย่างเต็มใจ และเต็มกำลังอย่างเนิ่นนานเป็นพิเศษอีกด้วย เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๔ ซึ่งตรงกับวันขึ้น ๑๑ ค่ำเดือน ๙
มีผู้ได้ “สมาธิ” ซึ่งอยู่ร่วมในเหตุการณ์ขณะปลุกเสกท่านหนึ่ง แม้นั่งอยู่ห่างๆ แต่ก็ได้ “สัมผัส” ถึงขุมพลังจิตอันแกร่งกล้าสุดยอดของครูบาอิน อินฺโท แล้วเปิด “เรดาร์รับพลัง” ที่เกิด “ความถี่” (Frequency) ที่ตนมีอยู่มากเกินไป ผลก็คือ นักสมาธิท่านนั้นถึงกับ “เดี้ยง” เสียศูนย์ คือมึนตึ๊บ หายใจติดขัด บังเกิดอาการน่าเป็นห่วง ไปทั่วสรรพางค์กายไปในบัดดลเลยทีเดียว !?!!!
“ตอนแรกผมโลภมากไปหน่อยพี่” เขาคนนี้บอกแก่ผู้เขียน “ผมดันไปอธิษฐานรับพลังจิตจากครูบาอินมากไปหน่อย แล้วผมรับไม่ไหว เพราะพลังจิตครูบาอินท่านแรงมากๆ เกิดกว่าที่กำลังผมจะทนได้ ก็เลยมีอันถึงกับเป๋ เดี้ยงไปเลยครับพี่... ?!?”
“แล้วตอนที่ท่านปลุกเสก เห็นอะไรดีๆ บ้างล่ะ??” ผมสืบสวน
“โอ ผมก็ได้เพียงแค่ ‘แอบ’ ดูเท่านั้นแหละครับ ดูตรงๆ ไม่ได้หรอกครับพี่ ประเดี๋ยวมีเรื่อง เคยเจอมาแล้วเกือบตายเลย แถมยังจะเป็นการปรามาสท่านด้วย งานนี้ครูบาอินท่านใส่ให้เต็มที่เลย และยังอัญเชิญครูบาอาจารย์มาร่วมเสก (ทางญาณ) กันเยอะมากด้วย ดีทุกๆ ด้านแบบครอบจักรวาล แต่ที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ก็คงจะเป็นแนวคุ้มครองป้องกันแหละครับ”
“คุ้มครอง” กับ “ป้องกัน” ?!?
หรือจะตรงกับคุณลักษณะแห่ง “พระรอด” กับ “พระนาคปรก” อย่างพอดี ?!??
แต่จะถึงอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครจะเชื่อหรือยอมรับในเรื่อง “ทางใน” แค่ไหน เพียงไร สักแค่ไหนก็ตาม แต่อิทธิวัตถุของครูบาอิน ท่านก็เป็นที่ลือเลื่องในแนว “อิทธิฤทธิ์” ประเภท “แคล้วคลาด”, “คุ้มครอง” ตลอดถึง “อยู่คง” มาเนิ่นนานนักหนาแล้ว
บางรายคงจะมีมหานิยมอย่างแรงกล้า จนชาวบ้านเขาเมตตาส่ง “ลูกตะกั่ว” จากปืนกล M-16 มาให้เป็นของขวัญอภินันทนาการโดยมิได้วอนขอจนหมดแม็ค แต่ก็ไม่เป็นอะไร เพราะมี “ของดี” ของครูบาอินติดตัวอยู่ก็มี
ส่วนบางเจ้าไม่ทราบว่าไปเจอะ “ของแข็ง” อะไรเข้า ถึงกับบินตรงจากประเทศเยอรมัน ทวีปยุโรปมาถึงประเทศไทย ทวีปเอเชียโดยตรง เพื่อหาเช่าบูชาพระของครูบาอิน เป็นการเฉพาะเจาะจงก็มีข่าวให้ได้ยิน
แต่โดยส่วนตัวของผู้เขียนมักจะโดนครูบาอิน ท่าน “เตือน” ในเรื่องที่กำลังจะเกิดในอนาคตล่วงหน้าอย่างแยบยล แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ก็มีอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีผิดพลาดเลยทีเดียว
สมดังอริยวาจาของ หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร เคยสั่งไว้ว่า “โลกียญาณเป็นของไม่แน่นอน แต่ญาณของพระอริยะนั้น คำไหนก็คำนั้น” เสียจริงๆ
แต่ที่ “ชัดเจน” อย่างยิ่ง ก็คงจะเป็นตอนที่เกิดอุบัติเหตุ “แก๊สอบลำไยระเบิด” อย่างมหาวินาศ ที่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เมื่อปีกว่าๆ มานี้นั่นแหละครับ
เพื่อรุ่นน้องคนหนึ่งของผม ชื่อคุณจตุชัย มหาวงศนันท์ ซึ่งอยู่ที่ตัวเมืองเชียงใหม่ในวันที่เกิดเหตุนั้น คุณจตุชัยขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปกราบครูบาอินที่วัดฟ้าหลั่ง (ก่อนย้ายกลับมาวัดทุ่งปุย) ซึ่งอยู่เลย อ.สันป่าตอง ไปหลายกิโลเมตรอยู่ โดยภายหลังจากที่ได้ทำบุญไหว้สาท่านครูบาเป็นอันที่เรียบร้อย และเตรียมจะลากลับแล้วนั้น หลวงปู่ครูบาอินก็สั่งเสียงมาทีเดียวว่า
“ยังไม่ต้องกลับ... อยู่ที่นี่ก่อน !?!”
ก็ลองพระมหาเถระมีบัญชาออกมาดังนี้ ใครเลยจะกล้าขัดได้ คุณจตุชัยก็เลยมีอันต้องนั่งจุ้มปุ๊กตรงที่เก่าอย่างงงๆ ด้วยไม่เข้าใจความนัยในคำสั่งนั้น แต่สักครู่พลันก็เกิดเหตุการณ์ผิดปกติธรรมดาบังเกิดขึ้นทันที
“บึ้ม...ม” !!!!
“เช้ง...ง” !!!!
“เปรี๊ยะ...ย...ย...” !!!!
โดยไม่ทันตั้งตัว เสียงกระจกหน้าต่างกุฏิของหลวงปู่ครูบาอินก็ลั่นเปรี๊ยะจวนเจียนจะแตกอยู่กราวใหญ่ ต่างคนที่อยู่ ณ ที่นั้นก็ต่างนั่งตะลึงไปทั่ว สักครูครูบาฟ้าหลั่งก็บอกแก่คุณจตุชัยว่า
“เอาละ... กลับได้แล้ว”
เมื่อได้ฟัง คุณจตุชัยก็ลากลับออกมาจากวัดอย่างงงๆ ต่อมาเมื่อขับรถมาถึง อ.สันป่าตอง จึงได้เข้าใจ
ในรัศมีกว้างไกลนับเป็นกิโลเมตร รวมทั้งบริเวณถนนสายเชียงใหม่-จอมทอง สู่วัดครูบาอินนั้น แทบราบเรียบพนาสูรด้วยแรงระเบิดอย่างมหาศาลจากแก๊สอบลำไย จนแทบไม่เหลือชิ้นดี วัดแสงสว่างที่อยู่แถวนั้น พระวิหารถึงกับพังพินาศ พระพุทธรูปบางองค์ถึงกับพระเศียรขาดหายไปด้วยแรงระเบิดอันรุนแรงที่สุดอย่างน่าสลดใจ และสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ก็ขนาดวัดฟ้าหลังอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุตั้งไกล ก็ยังสะเทือนเปรี๊ยะ ไปเลยทีเดียว
และถ้าหลวงปู่ครูบาอินท่านไม่ยับยั้งให้คุณจตุชัยไม่ให้รีบกลับแล้ว เชื่อแน่ได้ว่า เพื่อนรุ่นน้องของผมคนนี้ อาจจะขับรถเข้ามาอยู่ในรัศมีทำลายล้างประลัยโลก ที่ อ.สันป่าตอง ในคราวนั้นอย่าง “พอดี” เป็นแน่นอน
ถ้าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต หรือหาซากไม่เจออย่างไม่ต้องสงสัย
ญาณทัศนะ และบุญพระอริยะเจ้าอันประเสริฐสุดแห่งองค์หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท คุ้มเกล้าคุ้มกระหม่อมไว้โดยแท้
ที่สุดของที่สุดจริงๆๆ
ไม่มีอะไรจะต้องยั้งใจไม่ศรัทธาเลื่อมใสอีกแล้ว
สวัสดี
อ้างอิง ขอ้มูล คุณ เนาว์ นรญาณ ครับ
จากหนังสือ ศักดิ์สิทธิ์
|