หลวงพ่อทองอยู่ อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่หนองพะอง จ.สมุทร สาคร และหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ เคยร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลร่วมกัน อีกเรื่องที่น่าสนใจคือพระเกจิอาจารย์ 2 องค์นี้เคยร่วมกันโปรดวิญญาณในคลองภาษีเจริญ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2500 สืบเนื่องจากบริเวณหน้าวัดปากน้ำภาษีเจริญในขณะนั้น มีคนตกน้ำตายเป็นประจำ ชาวบ้านต้องตกอยู่ในความกลัวตลอด มีลูกศิษย์ไปเล่าเรื่องให้หลวงปู่ทั้งสองท่านฟัง ท่านจึงได้เดินทางมาโปรดวิญญาณทั้งหลายที่ต้องทนทุกข์อยู่ในน้ำนั้น โดยหลวงพ่อทองอยู่เดินโปรยข้าวตอกดอกไม้ และหลวงปู่โต๊ะนั่งสมาธิอยู่ที่ริมคลองบริเวณประตูน้ำ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผู้สูงอายุหลายคนที่ยังมีชีวิตอยู่ซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นต่างทราบเหตุการณ์นี้ดี
วัตถุมงคลที่สร้างในสมัยที่หลวงพ่อทองอยู่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเทียบกับพระเกจิอาจารย์อื่นๆ ที่ร่วมสมัยเดียวกัน อย่างเช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงปู่สุด วัดกาหลง, หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง, หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู เป็นต้น แล้วถือว่าน้อยมาก และมีเพียงไม่กี่แบบ เช่น เหรียญรุ่นแรกสร้างปีพ.ศ.2509 จากนั้นก็มีเหรียญรุ่นต่างๆ อีกเพียงไม่กี่รุ่น, พระกริ่ง-ชัยวัฒน์สุตาธิการี, พระกริ่งตั๊กแตน เนื่องจากท่านเป็นศิษย์สายวัดสุทัศน์ เคยอยู่วัดสุทัศน์มาก่อน พระกริ่งของท่านจึงได้รับความนิยมอย่างมาก ใช้แทนพระกริ่งวัดสุทัศน์ได้เลย นอกนั้นก็เป็นพวกพระปิดตา, ล็อกเกต, ภาพถ่าย, ท้าวเวสสุวัณ (ขนาดบูชา) เป็นต้น
สำหรับพระเครื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุด ท่านสร้างมาก่อนปีพ.ศ.2500 คือ พระสมเด็จ มีพระสมเด็จเนื้อผงขาว และพระสมเด็จเนื้อผงใบลาน (สีดำ) มีหลายพิมพ์ แต่ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายและถือเป็นเอกลักษณ์ของท่านก็เห็นจะเป็น "สมเด็จหลังเสือเผ่น" ซึ่งสร้างมา 2-3 รุ่น หลายรูปแบบ (เสือเล็ก-เสือใหญ่) หลายพิมพ์ ปัจจุบันเป็นที่เสาะแสวงหาของนักนิยมสะสมพระเครื่องอย่างกว้างขวาง
พระสมเด็จเนื้อผงของท่านสร้างจากผงวิเศษที่ท่านเก็บสะสมและทำไว้ด้วยตัวของท่านเอง ท่านมีความสามารถลบผงวิเศษทั้ง 5 ประการ คือ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห ตามตำรับเดียวกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) โดยผสมน้ำมันจันทน์หอม ลงไปในเนื้อพระดังกล่าวด้วย ทำให้พระสมเด็จของท่านนั้นมีพุทธคุณโดดเด่น
สมเด็จทุกรุ่นของท่านนั้นมีมวลสารสุดยอดจริงๆ มีทั้งผงสมเด็จเก่าๆ ที่หลวงพ่อได้รวบรวมไว้ เช่น ผงแตกหักของพระวัดระฆัง, ผงแตกหักของพระกรุวัดบางขุนพรหม ซึ่งแต่ก่อนนั้นหาได้ไม่ยากนัก และที่สำคัญ คือ ผงของวัดพระยาบึงสุเรนทร์ (หลวงปู่ทองเป็นประธานการปลุกเสก) ซึ่งได้มาจากตระกูลของท่าน ดังนั้นในแต่ละรุ่นจึงสร้างได้น้อยและมีไม่มากนัก เพราะท่านพิถีพิถันในการสร้างพระสมเด็จเป็นอย่างมาก ไม่ให้เสีย ชื่อสำนักและครูบาอาจารย์ก็ว่าได้
หากใครต้องการหาพระสมเด็จวัดระฆัง หรือสมเด็จวัดบางขุนพรหม ขึ้นคอสักองค์ แล้วหาไม่ได้ เพราะสนนราคาในปัจจุบันสูงมาก ก็ขอให้นึกถึงพระสมเด็จของหลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง ซึ่งปัจจุบันยังพอหาได้ในราคาหลักพันต้นๆ ขึ้นอยู่กับสภาพความสวยขององค์พระ แต่ก็ไม่พบเห็นบ่อยนัก
|