เบี้ยแก้หลวงพ่อซำ วัดตลาดใหม่ อ่างทอง หายากมากครับ จนเกือบจะกลายเป็นตำนานไปแล้วสำหรับเบี้ยสำนักนี้ ขาดในเว็บของเรายังมีลงขายไม่ถึง 10 ลูกเลยครับ เป็นเบี้ยแก้เก่าๆ สายอ่างทอง ท่านเป็นเกจิรุ่นเดียวกับ หลวงพ่อภักดิ์ วัดโบสถ์ และยังเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคำวัดโพธิ์ ปล้ำด้วยคับ
ข้อมูลประวัติของท่านเพิ่มเติมนะคับ
หลวงพ่อซำ อินทสุวัณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดตลาดใหม่ ต.ตลาดใหม่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เป็นพระเกจิผู้เรืองคุณวิทยาคมแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย เจ้าตำราวิชาแพทย์แผนโบราณและเจ้าตำรับเบี้ยแก้อาถรรพณ์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม 2413 ที่บ้านหลักขอน ต.ห้วยคันแหลน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เป็นบุตรของนายจีนซึง กับนางอินท์ แซ่ลี้ ต่อมาใช้นามสกุลว่า "สีสุวรรณ์" ท่านมีพี่น้อง 3 คน
ช่วงวัยเยาว์ ได้เรียนหนังสือกับพระที่วัดตลาดใหม่ จนอ่านออกเขียนได้
ครั้นเมื่ออายุ 24 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2438 ณ พัทธสีมาวัดตลาดใหม่ อ.วิเศษชัยชาญ มีพระอธิการดี วัดฝาง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการแป้น วัดสิงห์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์จันทร์ วัดท่าสุวรรณ เป็นพระอนุสาวนา จารย์
หลังอุปสมบทก็อยู่จำพรรษาที่วัดตลาดใหม่ เพียง 2 พรรษา ก่อนเดินทางไปศึกษาบาลีที่วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี และย้ายไปจำพรรษาที่วัดสร้อยทอง เพื่อเรียนหนังสือ
พระอาจารย์เปรม ครูใหญ่วัดสร้อยทอง เห็นแววความขยันหมั่นเพียร จึงได้แต่งตั้งให้เป็นครูผู้ช่วยสอน
พ.ศ.2443 กลับมาจำพรรษาวัดตลาดใหม่ เนื่องจากเป็นห่วงหลวงพ่อคุ่ย เจ้าอาวาส
ต่อมาหลวงพ่อคุ่ยได้ถ่ายทอดวิชาแพทย์แผนโบราณให้ แต่ท่านศึกษาเล่าเรียนได้เพียง 3 พรรษา หลวงพ่อคุ่ยมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสืบแทน
เมื่อท่านดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ได้เริ่มรักษาคนไข้ตามวิชาที่ร่ำเรียนมา ปรากฏว่าการรักษาได้ผลดีมาก เป็นที่เลื่องลือไปในที่ต่างๆ พินิจพิจารณาอย่างรอบคอบสุขุมก่อนจะให้ยารักษา
กระทั่งคณะสงฆ์ออกคำสั่งห้าม มิให้ภิกษุกระทำตนเป็นหมอโบราณ ประกอบกับท่านชราภาพ จึงเลิกรักษาคนไข้ แต่ชาวบ้านก็ยังไปขอยามิได้ขาด หากไม่มีตัวยาท่านก็จดให้ไปหาซื้อหากันเอง
นับว่าท่านเมตตา ช่วยเหลือชีวิตชาวบ้านโดยแท้ และในขณะนี้ร้านจำหน่ายยาแผนโบราณก็ปรุงยาตามตำราท่าน
นอกเหนือจากการเป็นหมอแผนโบราณ ท่านยังจัดสร้างเบี้ยแก้อาถรรพณ์ ซึ่งเป็นวัตถุมงคลชิ้นเอกที่แจกจ่ายลูกศิษย์ลูกหาในโอกาสต่างๆ โดยหลวงพ่อซำ จะสร้างทุกวันอาทิตย์ วันอังคาร และวันเสาร์ หากในสามวันนี้ตรงกับวันพระ ท่านจะหยุดสร้าง และการสร้างเบี้ยแก้อาถรรพณ์จะสร้างจำนวนเท่ากับกำลังในแต่ละวัน เช่น วันอาทิตย์ มีกำลังวันคือ 6 ท่านจะสร้างเพียง 6 ตัว วันอังคารมีกำลัง 8 สร้างเพียง 8 ตัว หรือวันเสาร์มีกำลัง 10 สร้างเพียง 10 ตัว และประกอบพิธีให้แล้วเสร็จในคราวเดียว
กรรมวิธีการสร้าง หลวงพ่อซำจะตั้งศาลเพียงตา นำเบี้ยแก้คือ หอยพูใส่พานวางไว้พร้อมกับปรอทและชันโรง บวงสรวงอัญเชิญบรมครู เทพเทวาฟ้าดิน เพื่อขออนุญาตประกอบพิธีและให้มาสถิตประสิทธิ์ประสาทวิชา
จากนั้นจะบริกรรมคาถาเรียกแร่แปรธาตุ เทปรอทลงในตัวเบี้ย อุดปิดปากเบี้ยด้วยชันโรง บริกรรมคาถานิมิตกำกับ นำแผ่นฟอยล์อะลูมิ เนียมปิดทับชันโรงอีกชั้นหนึ่ง นั่งสมาธิอธิษฐานจิตปลุกเสก ขณะเดียวกัน ยังสร้างผ้ายันต์กันภัยอีกด้วย
ปัจจุบัน เบี้ยแก้อาถรรพณ์หลวงพ่อซำ นับวันยิ่งหาดูหรือหาบูชาได้ยาก เนื่องด้วยเหตุผลนานาประการ ถูกจับยัดเป็นของหลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ก็มาก เพราะอายุการสร้างใกล้เคียงและพลิกแปลงการสร้างเช่นกัน จึงต้องดูขนาดเบี้ยและชันโรงเป็นหลัก
เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านเป็นเกจิอาจารย์ดังของเมืองอ่างทอง ที่ไม่เป็นสองรองใครในเรื่องเวทวิทยาคม โดยกล่าวขวัญกันว่าท่านเป็นสำเร็จฌานสมาบัติสูง สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ดุจตาเห็น จนเป็นที่โจษ จันกันอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ ยังมีความเมตตาปรานีสูงยิ่ง ใครจะไปจะมาท่านก็ต้อน รับอย่างเท่าเทียมกัน แม้แต่สัตว์ต่างๆ ท่านก็ยังให้ความเมตตา
ศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชา คือ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ, หลวงพ่อทองใบ วัดอบทม, หลวงพ่อมี วัดม่วงคัน และพระสมุห์ปรเมษฐ เจ้าอาวาสวัดตลาดใหม่ หลวงพ่อซำ เริ่มมีอาการอาพาธด้วยโรคชราตั้งแต่อายุ 93 ปี แต่ท่านฉันยาเก่ง เมื่อรู้ตัวว่าเป็นโรคอะไรจะรีบฉันยาโดยไม่ปล่อยให้โรคกำเริบ
กระทั่งถึงวันที่ 15 มกราคม 2509 ท่านได้มรณภาพด้วยกิริยาสงบ สิริอายุ 94 พรรษา 71 ดำรงเจ้าอาวาสวัดตลาดใหม่ยาวนานถึง 63 ปี นับว่าเป็นพระเถระที่มีอายุยืนยาวรูปหนึ่งของเมืองอ่างทอง
|