ชื่อพระ :
สุดยอดพระลักษณ์หน้าทอง มือวางอันดับ 1 ของประเทศไทย
รายละเอียด :
สุดยอด พระลักษณ์หน้าทองหลวงปู่กาหลง(เนื้อผง) เขี้ยวแก้ว เพ ้ น ท์สี 1 ใน 10 องค์ อีกหนึ่งวิชาขลังของหลวงปู่กาหลงเขี้ยวแก ้ว “พระลักษณ์หน้าทอง” สำหรับวิชานี้เป็นที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับ อ ำนาจแห่งเสน่ห์เมตตามห านิยม ที่ชาวโขนละครในสมัยก่อนต่างนัก ถื อกันนัก วิชานี้หลวงปู่ กาหลงเล่า ท่านได้รับการถ่ายทอดจากครูผึ่ง ซึ่งเป็นครูโขนละครใ นสมัยรัชกาลที่ 6 ตอนที่ครูผึ่งพบท่านนั้น ครูผึ่งชรามากแล้ว ส่วนท่านเพิ่งเป็นพระได้ไม่กี่พรรษา เล่าว่าครูผึ่งพอใจในวัตรปฏิปทาของท่านจนบังเกิดเป็นความศรัทธา และได้ถวายวิชานี้ให้แก่ท่าน แต่เดิมหลวงปู่กาหลงท่านก็ไม่อยากรับวิชานี้ แต่เมื่อครูผึ่งได้พยายามอยู่หลานหนท่านก็อ่อนใจ จนรับครอบวิชานี้จากท่าน วิชาพระลักษณ์หน้าทอง นับเป็นวิชาสายเมตตามหานิยมที่มีอานุภาพสูส่ง ขาวโขนละครในนับถือกันมากที่สุด เชื่อกันว่าใครได้ครอบแล้วจะเป็นเมตตามหานิยมแก่ตนเองไปหาผู้ใดเขาก็รัก จะร้องรำทำเพลงประการใด ใคร ๆ ก็ชอบ ดังนั้นจึงเป็นที่นับถือกันมาก สายวิชาพระลักษณ์หน้าทองเป็นสายวิชาที่ปกปิดกันมากเพราะเป็นที่หวงแหนของครู บาอาจารย์สมัยก่อน อย่างไรก็ตามวิชาพระลักษณ์หน้าทองนั้นก็มีหลายสาย อย่างพวกลิเกก็มีวิชาตำรับพระลักษณ์หน้าทองเช่นกัน ใช้เสกแป้งสำหรับทาหน้าทาตัว แต่วิชาของหลวงปู่กาหลงนั้นเป็นวิชาสายในวังที่หาได้ยากเก่าแก่ที่สุด และที่สำคัญคือหลวงปู่ท่านเป็นพระเถราจารย์ที่มีพลังจิตสูง และมีเมตตาสูงมากดังนั้นการทำวิชาพระลักษณ์หน้าทองของหลวงปู่จึงเหนือกว่า สายอื่น ๆ มาก ผู้ที่ได้ลงวิชากับท่านนอกจากจะเป็นผู้ที่มีเสน่ห์เมตตามหานิยมแล้ว ยังเป็นผู้ที่มีวาสนาดี มีคนอุปถัมภ์ค้ำชู บังเกิดความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตอย่างสูงสุด ความน่าอัศจรรย์ของวิชาพระลักษณ์หน้าทองจึงนับว่าสูงส่งยิ่งนัก ด้านตำนานของวิชาพระลักษณ์หน้าทองนั้น มาจากเรื่องรามเกียรติ์ ในท้องเรื่องรามเกียรติ์นั้นพระรามมีพี่น้องทั้งหมดสี่คน คนที่สนิทที่สุดคือพระลักษณ์ ตัวพระรามนั้นเป็นนารายณ์อวตาร ร่างมีสีเขียวส่วนพระลักษณ์นั้นเป็นองค์อนันตนาคราชกลับชาตมาเกิดเพื่อช่วย เหลือพระรามในการสังหารอสูร มีร่างกายสีทอง ทั้งนี้เนื่องจากองค์อนันตนาคราชแต่เดิมนั้นก็มีเกล็ดเป็นทองคำทั้งร่าง เมื่อกลับชาติมาเกิดเป็นพระลักษณ์ก็มีการทองตามไปด้วย ลักษณะพระลักษณ์นั้นกล่าวคำบรรยายว่า หนึ่งพักตร์ สองกร มีพระพักตร์เป็นสีทองคำ ใส่มงกุฎยอดแหลม อยู่ในพงศ์พันธุ์แห่งองค์นารายณ์อวตาร เรียกสั้น ๆ ว่า “นารายณ์พงศ์” พระลักษณ์นั้นตามท้องเรื่องรามเกียรติ์เป็นผู้ที่มีความกล้าหาญชาญชัย ซื่อสัตย์ต่อองค์พระรามด้วยชีวิต ดังจะเห็นได้ว่าครั้งหนึ่งอสูรนามว่ากุมภกัณฑ์มีหอกโมกขศักดิ์เป็นอาวุธ เมื่อได้ทีจะพุ่งใส่พระราม แต่พระลักษณ์ออกมารับแทนจนโดนฤทธิ์ของหอกโมกศักดิ์เจ็บเจียนตาย เกือบไม่รอด นี่แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจ ความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อองค์พระรามผู้พี่อย่างยากที่จะหาใครมาเปรียบได้ นอกจากนี้พระลักษณ์ยังเป็นผู้มีจิตใจเยือกเย็น คอยคิดคอยช่วยเหลือพระรามโดยตลอด พระลักษณ์เป็นผู้ที่มีวาสนาสูส่งผู้หนึ่งของโลกในยุคนั้นเรื่องความมีวาสนา หรือบุญบารมีของพระลักษณ์นั้นก็ไม่ธรรมดาเพราะครั้งที่มีการแข่งขันยกมหาคัน ศรเพื่อเสี่ยงทายว่าผู้ใดที่ยกได้จะได้นางสีดาไปเป็นภรรยา เทพพรหมทุกชั้นฟ้ามาแข่งขันเพื่อจะยกก็หาใครยกได้ไม่ แม้รวมคนตั้งพันมายกก็ยังยกไม่ขึ้น พอพระลักษณ์มาลองยกก็ยกได้แต่ด้วยรู้ว่าพี่ชายคือพระรามนั้นรักนางสีดาอยู่ ก็เลยขอสละสิทธิ์ให้พระรามมายกปรากฏว่าพระรามก็ยกได้และได้แต่งงานกับนางสี ดา นี่ก็เป็นอีกครั้งที่พระลักษณ์แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจทั้งยังแสดงให้เห็น ถึงบุญบารมีของพระลักษณ์ว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน ในเรื่องรามเกียรติ์พระลักษณ์มีอาวุธเป็นพระขรรค์กายสิทธิ์เรื่องการได้ อาวุธคู่บารมีของพระลักษณ์นั้นก็เป็นด้วยบุญของพระลักษณ์เช่นกัน เล่าว่าก่อนหน้านั้นมีอสูรตนหนึ่งภาวนาขอพรจากพระเป็นเจ้าเมื่อบำเพ็ญตบะจน แก่กล้าพระเป็นเจ้าก็ประทานพรให้ อสูรขออาวุธวิเศษพระเป็นเจ้าก็บันดาลให้เกิดพระขรรค์แก้วร่วงหล่นลงมาจากบน ฟ้า แต่ด้วยกรรมบังตาอสูรเกิดความไม่พอใจคิดว่าพระเป็นเจ้าหมิ่นเกียรติตนเองจึง เขวี้ยงพระขรรค์ลงมาเช่นนี้ อสูรจึงทิ้งพระขรรค์นั้น ต่อมาพระลักษณ์เดินทางมาถึงพบพระขรรค์วิเศษทิ้งเอาไว้ พระลักษณ์ลองนำมากวัดแกว่งดูปรากฏว่าสะท้านสะเทือนไปทั้งสามโลก อสูรตนดังกล่าวรู้ว่าเป็นฤทธิ์อำนาจจากพระขรรค์ที่ตนบำเพ็ญตละจึงจะมาเอาคืน ต่อสู้ด้วยกับพระลักษณ์ พระลักษณ์จึงได้ใช้พระขรรค์วิเศษฟันตัวอสูรจนขาดเป็นสองท่อน อสูรนั้นก็ถึงแก่ความตาย ตำนานเรื่องพระลักษณ์จากรามเกียรติ์นั้นมีด้วยกันหายตอนแม้ว่าจะไม่มีบทบาท มากเท่าพระรามแต่ก็เป็นบุคคลสำคัญที่ใคร ๆ ก็รู้จักเป็นอย่างดี ที่สำคัญคือด้วยการที่พระลักษณ์ในกายทอง องค์พระลักษณ์จึงเป็นผู้ที่มีเสน่ห์เมตตามหานิยมสูงมาแต่กำเนิด ทั้งคำว่าลักษณ์ ยังเป็นคำเสียงใกล้เคียงกับคำว่า “รัก”อีกด้วย ดังนั้น นามพระลักษณ์หน้าทองนี้จึงเป็นตัวแทนแห่งเสน่ห์เมตตามหานิยมได้เป็นอย่างดี ที่สุด และในสายวิชาทางไสยศาสตร์ที่มักมาจากตำนานทางศาสนาพราหมณ์ ก็ได้นำเอาตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์หลายองค์มาเป็นครูในสายวิชา อย่างพระรามก็มักเป็นครูในสายวิชาทางการรบทัพจับศึก คงกระพันชาตรี ส่วนพระลักษณ์ผู้น้องที่มีร่างเป็นทองคำนั้นก็เป็นครูสายวิชาเสน่ห์เมตตามหา นิยม พระรามและพระลักษณ์จึงเมือนพลังคู่ หยินหยาง พระรามเป็นอำนาจประดุจพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน พระลักษณ์เป็นอำนาจประดุจพระจันทร์เต็มดวงยามเที่ยงคืน ที่เยือกเย็นเป็นเสน่ห์อันสุดประมาณมิได้ ด้วยเหตุนี้กำเนิดแห่งวิชาพระลักษณ์หน้าทองจึงบังเกิดขึ้นด้วยบุญบารมีแห่ง พระลักษณ์บุคคลสำคัญผู้หนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์ ดังที่กล่าวมาเบื้องต้นว่าวิชาพระลักษณ์หน้าทองนั้นเป็นวิชาที่ครูบาอาจารย์ ท่านหวงแหนเป็นที่สุด เพราะวิชานี้เป็นเสน่ห์อย่างล้นเหลือแต่ด้วยบุญบารมีของหลวงปู่กาหลงจึง บันดาลให้ท่านได้พบกับครูผึ่งและได้รับการครอบวิชานี้มา การครอบครูวิชาพระลักษณ์หน้าทองนั้น หลวงปู่กาหลงกล่าวว่าปีหนึ่งทำได้แค่ครั้งเดียว และการครอบครูพระลักษณ์ที่ถูกต้องนั้นและดีที่สุดนั้นต้องได้วันจันทร์ที่ ตรงกับพระจันทร์เต็มดวง เรียกว่าจันทร์ซ้อนจันทร์ ตามความเชื่อของไสยศาสตร์นั้น วันจันทร์เป็นวันแห่งเมตตามหานิยมอยู่แล้วผู้ที่เกิดวันจันทร์ตามตำรา โหราศาสตร์ก็กล่าวว่าเป็นผู้ที่มีเมตตา มหาเสน่ห์ หากเป็นชายก็เจ้าชู้ หากเป็นหญิงก็อ่อนหวานชนให้รักใคร่ยิ่งนัก ยิ่งวันจันทร์ที่ได้กำลังจากพระจันทร์ คือมาเต็มดวงในวันจันทร์พอดียิ่งถือว่าขลังมาก เพราะตามปกตินั้นวันจันทร์เต็มดวงก็ถือว่าเป็นมงคลที่เหมาะแก่การปลุกเสก เครื่องรางของขลังทางด้านเมตตามหาเสน่ห์อยู่แล้วเนื่องจากพระจันทร์นั้นเป็น สิ่งที่มีบทบาทและอิทธิพลต่ออารมณ์ความรักความใคร่ของมนุษย์และสิ่งมีชีวิต ทั้งหลาย เมื่อใดก็ตามที่พระจันทร์มาทาบทับเต็มดวงในวันจันทร์วันนั้นถือว่าเป็นวัน อาถรรพณ์หากได้ปลุกเสกเครื่องรางทางเมตตามหานิยมในวันนี้นับว่าขลัง ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าทุกวันเพราะได้กำลังซ้อนทับทวีถึงสองเท่า แต่ในปีหนึ่ง ๆ นั้นจะหาวันพิเศษเช่นนี้ก็ไม่ง่ายเท่าใดนัก บางปีอาจไม่มีเลยบางปีอาจมีวันหรือสองวันเท่านั้น การครอบครูพระลักษณ์หน้าทองตามตำรับหลวงนั้น มีข้อกำหนดอันละเอียดอ่อนที่ผู้เขียนทราบมาคือในสมัยก่อนนั้นจะมีการขูดเอา เนื้อจากเศียรพระลักษณ์ที่มีความเก่าจนมาสามารถใช้การได้ ผงจากเนื้อพระลักษณ์ที่ยุดออกมานั้น ในวงการโขนละคร นางร้องนางระ เขาถือว่าเป็นผงเสน่ห์ ผงดังกล่าวสามารถนำมาเจิมหน้าเจิมตา นำมาผสมกับแป้งผัดหน้าได้ เป็นผงวิเศษที่มีอำนาจเมตตามหานิยมอย่างสูงส่ง เพราะถือว่าได้ผงที่เป็นของสมมุติแทนองค์พระลักษณ์และมาจากพระพักตร์ท่านโดย ตรงอีกด้วย แต่การจะขูดเอาผงหน้าพระลักษณ์มานั้นไม่ใช่จะขูดก็เข้าไปขูดเพราะหากทำผิด อาจต้องอาถรรพณ์เป็นอันตรายแก่ตัวเองได้ การขูดผงหน้าพระลักษณ์นั้นต้องรูวิธี คือ ห้ามเข้าไปขูดผงต่อหน้าพระลักษณ์โดยตรงต้องเข้าไปข้าง ๆ ข้างซ้ายหรือขวาก็ได้ ทำการกราบขอขมาขออนุญาตแล้วจึงทำการขูดเอาผงพระลักษณ์หน้าทองออกมาเป็นของ มงคลหากไปทำผิดครูเข้าอาจเกิดอาการทางท้อง หรือไม่สบาย หรือประสบอาถรรพณ์อย่างหนึ่งอย่างใดได้ ที่ชาวโขนละครเรียกกันว่า ผิดแรงครูนั่นเอง อนึ่งผงจากเศียรครูพระลักษณ์หน้าทอง ขูดตามประเพณีนี้หลวงปู่ท่านได้เก็บสะสมไว้และนำมาเป็นมวลสาระสำคัญในการทำ เครื่องรางชุดพระลักษณ์หน้าทองด้วย จึงมั่นใจได้ว่าเครื่องพระลักษณ์หน้าทองตำรับหลวงปู่กาหลงนั้น ย่อมเป็นเครื่องรางที่มีอิทธิคุณสูงส่งทางด้านเมตตามหานิยมอย่างมิต้องสงสัย รับประกันแท้ตามมาตรฐานสากล จองได้ ปิดได้ ขอไม่เกิน 2 วัน โอนเร็ว ส่งเร็วด่วนจี๋ ศึกษา สะสม แบ่งปันพระแท้กันฉันท์พี่น้อง สงสัย สนใจ โทรปรึกษา (AIS) 081-253-4483 อินทร์
|
ราคาสูงสุด ขณะนี้ :
999 บาท
ราคาที่ต้องเพิ่มขึ้น ขั้นต่ำ :
500 บาท
เงื่อนไขการรับประกัน :
รับประกันแท้ตามมาตรฐานสากล จองได้ ปิดได้ ขอไม่เกิน 2 วัน โอนเร็ว ส่งเร็วด่วนจี๋
ผู้ตั้งประมูล :
อินทร์ อ่อนนิ่ม
ที่อยู่ :
นายอินทร์อ่อนนิ่ม หมู่บ้านคลองพุดซา 34/4 ม.17 ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน จ.อยุธยา 13160 ไทย
เบอร์โทรติดต่อ :
0627964936, 0627964936
E-mail :
inonnim@gmail.com
ชื่อบัญชี :
นายอินทร์อ่อนนิ่ม
เลขที่ บัญชี :
5742651395
ธนาคาร :
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
วันที่ :
Wed 23, Jan 2013 21:38:41