พระล้านนาดอทคอม แหล่งรวมพระเครื่องเมืองเหนือ
พระทั่วไปภาคเหนือ

หลวงพ่อห้อม เกจิดังจังหวัดสุโขทัย รุ่นแรก บล็อค ๒ สภาพสวยกริ๊บ กะไหล่ครับ

(ปิดการประมูลแล้ว)

หลวงพ่อห้อม เกจิดังจังหวัดสุโขทัย รุ่นแรก บล็อค ๒ สภาพสวยกริ๊บ กะไหล่ครับ


หลวงพ่อห้อม เกจิดังจังหวัดสุโขทัย รุ่นแรก บล็อค ๒ สภาพสวยกริ๊บ กะไหล่ครับ

ชื่อพระ :
 หลวงพ่อห้อม เกจิดังจังหวัดสุโขทัย รุ่นแรก บล็อค ๒ สภาพสวยกริ๊บ กะไหล่ครับ
รายละเอียด :
 

 

ประวัติหลวงพ่อห้อม เกจิดังจังหวัดสุโขทัย

 

พระราชพฤฒาจารย์ หรือ พระสุขวโรทัย เดิมชื่อ ห้อม เป็นบุตรนายเรือง นางมาลัย ครุฑนาค ปู่ชื่อนายครุฑ ย่าชื่อนางพลึง ตาชื่อนายติ่ง ยายชื่อนางปราง อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน คือบ้านคลองตะเคียน หมู่ที่ 12 ปัจจุบันเป็นหมู่ที่ 3 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ปู่เป็นผู้ใหญ่บ้าน พ่อ-แม่ อยู่บ้านปู่ย่าจึงคลอดที่บ้านปู่

 

คลอดวันอังคาร แรม 13 ค่ำ เดือนยี่ ปีวอก วันที่ 19 มกราคม 2451เวลาประมาณ 5 โมงเย็น เวลาคลอดมีคนมาเยี่ยมกันมาก ปู่จึงถือนิมิตนี้ ตั้งชื่อให้ว่า ห้อม เมื่อคลอดแล้วคงอยู่ที่บ้านปู่ ย่า ต่อมาพ่อถูกเกณฑ์ให้ไปเป็นทหารเข้าประจำการที่พิษณุโลก เมื่อถึงกำหนดปลดประจำการ ถูกระดมไปในราชาภิเษกรัชกาลที่ 6 ขึ้นครองราชย์ เมื่อกลับมาถึงกองประจำการแล้วอยู่คอยรับใบกองหนุน เวลาเที่ยงคืนลงท้อง(ท้องเสีย)อย่างแรง เข้าใจว่าเป็นอหิวาตกโรค พอสว่างก็ขาดใจตาย เขาเอาศพไปฝังไว้ที่ป่าช้าวัดยาง พิษณุโลก ตายเดือนเมษายน พ.ศ.2454 เดือน 4 
นายเต่า ครุฑนาคพี่ชายคนโต(ของพ่อ)ได้ไปขุดศพขึ้นมาเผาเก็บอัฐิธาตุมาให้ อัฐิธาตุนี้ได้เอาใส่ไว้หลุมนิมิต(หลุมลูกนิมิต)หลุมกลางรวมทั้งปู่ย่าด้วยในวันผูกพัทธสีมาวัดฤทธิ์ พ.ศ.2476 นายรอด คงเนียม (พ่อของท่านพระสุธรรมธีรคุณ(เจ้าคุณดำรง พทฺธญาโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดไทยชุมพล) เป็นลูกพี่ลูกน้องกันไปเป็นทหารอยู่ด้วยกัน แต่เป็นทหารหลัง 1 ปี เล่าว่า ได้เอาใจใส่พยายามรักษาอย่างเต็มที่ เวลาตายก็นอนตายในตักของแกเอง หลังจากพ่อตายแล้ว ตายายก็รับเอามาเลี้ยงส่วนแม่ก็มีสามีต่อไป

 

พ.ศ.2455 ถึง พ.ศ.2477 เป็นคุดทะราด คือเป็นแผลตามใบหน้าตามัวแขนขาแทบทั้งตัว ต้องรักษาอยู่ 3 ปี จึงหายได้

 

พ.ศ.2458 เดือน 7 ฝนตกน้ำขังในคลองแคน้อย ซึ่งห่างจากบ้านตา ประมาณ 5 เส้น ได้ไปลงเล่นน้ำ ไปคนเดียว เดินลงไปถึงหลุมที่ขุดไว้จึงตกลงไปมิดหัวต้องกินน้ำเสียหลายกลืน นายแจ้ง ดีร่อง สักว่าเป็นอา เอาควายไปลงน้ำเห็นเข้า จึงได้เอาขึ้นมาได้

 

พ.ศ.2459 นายจ่าง พุ่มมั่น ซึ่งเป็นน้าออกจากทหารมาบวชจำพรรษาอยู่วัดศิริราฎร์เจริญธรรม(ฤทธิ์)เข้าไปอยู่วัดด้วย หลวงน้าให้เรียนหนังสือ เดิมหัดเขียน ก.ข.4 น้อย ซึ่งมี 35 ตัว อักษรมีมีตัวอักษรดังต่อไปนี้ ก.ข.ค.ฆ.ง.
จ.ฉ.ช.ฌ.ญ. ด.ต.ภ.ท.ธ.ฒ.พ.บ.ป.ผ.ฝ.ภ.ม.ย.ล.ร.ว.ส.ห.ฬ.อ.ฮฯ ใช้ไม้กระดานยาวประมาณ 2 ศอกกว้างประมาณ 15นิ้ว เอาดินหม้อมาผสมข้าวสุกทา เอาดินเหนียวมาปั้นเป็นดินสอเขียนหนังสือลงในกระดาน

 

พ.ศ.2461 ไปเข้าโรงเรียนประชาบาล วัดคุ้งยางใหญ่ ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย เรียนอยู่ 2 ปีอ่านหนังสือแบบเรียนเร็วเล่ม 1ได้เพียงครึ่งเล่ม พอบวกลบได้ที่เรียนได้น้อยนั้น เพราะปีหนึ่งได้เรียนเพียง 3เดือน คือเข้าเรียน 3 เดือนนอกนั้นต้องออกไปเลี้ยงควายอยู่ทุ่งนา

 

พ.ศ.2465 ไปอยู่เลี้ยงควายให้นายชุ่ม นางพลับ ปั้นสำรี สักเป็นยายซึ่งเป็นพี่ของยาย บ้านวงฆ้อง ตำบลเกาะตาเลี้ยง อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย เดือนอ้ายหนาวจัด 3 โมงเช้าจึงเห็นดวงอาทิตย์ เล่นปืนก้านร่ม เอาก้านร่มที่เป็นเหล็ก มาตัดทำเป็นปืนใช้ยิงนกเล็กๆ ขอดินปืนจากตาชุ่มใส่ขวดเล็กไว้ใช้ เอามาใช้เวลาเช้ามืด ข้างขวดเย็นเป็นน้ำ จึงเอาขวดที่ใส่ดินปืนมาอังไฟ(ลนไฟ) ไฟแลบเข้าขวดดินปืนในขวดจึงระเบิดแตกกระเด็นใส่ตาข้างซ้ายถึงกับหงายท้อง ต้องรักษาตาอยู่เดือนจึงหาย ไปเลี้ยงควายเขาให้ข้าว40 ถัง นัดให้แม่เอาล้อ(เกวียน)มาลาก แม่ไม่ไปลากตามกำหนด เขารื้อครัวเข้า ข้าวกองอยู่ในลานนาบึง รุ่งวันไปดูขโมยลักขนเอาไปหมด ในปีนั้นไม่ได้ค่าแรง

 

พ.ศ.2467 นายจ่อง พุ่มอิ่ม ไปทำไม้ที่บึงหญ้า ตำบลสามพวง อำเภอคีรีมาศ ในสมัยนั้นยังเป็นอำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย มาขอให้ไปขับล้อ(เกวียน)ลากไม้จากบึงหญ้ามาลงที่โตนดทิ้งไม้ที่หน้าวัดวาลุการาม ไปอยู่แต่เดือน 3 ถึงเดือน 6 รวม 4 เดือน ไม่ได้ค่าแรงเลย

 

พ.ศ.2469 ไปอยู่เลี้ยงควายให้นายพลอย นางตาล สุวรรณโรจน์ ได้ข้าว 1 เกวียน 
พ.ศ.2471 เดือน 10 เป็นไข้หนักถึงกับลืมตัว ได้หมอชวน อยู่ทอง รักษา เป็นหมอโบราณ เมื่อหายแล้วผมร่วง
มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 4 คน แต่ต่างบิดากัน

 

1.นายห้อม บุญมี
2.นางจันทร์ ขำแจง
3.นางถ้วน อยู่ทอง
4.นายถนอม บุญมี

 

ชีวิตในเพศบรรพชิต

 

          เข้าบวชที่พัทธสีมาวัดคุ้งยางใหญ่ ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองจังหวัดสุโขทัย


(พระราชประสิทธิคุณ พระอุปัชฌาย์)

 

มีพระครูวินัยสาร(ทิม ยสทินฺโน) เจ้าคณะอำเภอเมืองสุโขทัย ต่อมาท่านได้เลื่อนขึ้นเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย นามสมณะศักดิ์ว่าพระครูวินิจฉัยพุทธบัญญัติและต่อมาได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย มีสมณะศักดิ์ว่าพระราชประสิทธิคุณเป็นพระอุปัชฌาย์

 

 

พระครูสังฆรักเจ๊ก เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย เป็นพระกรรมวาจาจารย์

 

และพระอธิการแป๊ะ เจ้าอาวาสวัดคุ้งยางใหญ่เป็นพระอนุสาวนาจารย์

 

เข้าอุปสมบทในวันพฤหัสบดี แรม 4 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง วันที่19มีนาคม 2471 มีผู้เข้าร่วมอุปสมบทด้วยกันทั้งสิ้น 27 คน เข้าโบสถ์เวลาเช้ามืด เข้าสวดญัตติคู่ที่ 1 มีพร้อมกัน 3 คน 1.นายแล เรืองโต 2.นายห้อม บุญมี3.นายยาค เกตุเอี่ยม สำเร็จญัตติ เวลา 9.00 น.ได้นามฉายา อมโร

 

ประเพณีการบวชที่ ต.บ้านสวน ในสมัยนั้น ยังต้องไปแต่งตัวเป็นนาคที่วัดก่อนบวช วันแรม 3 ค่ำ ตอนบ่ายจึงไปโกนหัวอาบน้ำแต่งตัวรับศีลเป็นนาคที่วัดคุ้งยางใหญ่ แล้วขึ้นคานหาม แห่ไปพักที่ร่มโพธิ์ทุ่งนาบ้านคลองแคใหญ่ เต้นรำกันพอสมควรแล้วขึ้นคานหาม แห่เข้าบ้าน ตอนเย็นทำขวัญนาค ได้นายแว่ว เป็นหมอทำขวัญ กลางคืนมีเพลง บวชแล้วมีเพลงฉลองอีก1 คืน ในงานนี้ได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างมาก คือ

 

1.นายพลอย-นางตาล สุวรรณโรจน์ ช่วยผ้าไตร 1 ไตร

 

2.นายไม้-นางพวง นักเพลงที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น อยู่บ้านแสงดาว พิษณุโลก มีศักดิ์เป็นน้า มาเล่นเพลงช่วย 2 คืน

 

3.นายทอง นายเที่ยง บ้านเกาะไม้แดง อ.ศรีสำโรง เอากลองยาวมาแห่ให้

 

4.นายหนาบ บ้านวัดบอน เอาพิณพาทย์มาตีให้

 

5.พวกญาติไปหาปลาในบึงมากันหลายหาบและที่บ้านก็เลี้ยงหมูไว้ด้วย

 

6.บางพวกก็ทำเหล้า-น้ำขาว(สาโท) มาช่วยหลายโอ่ง ในงานบวชครั้งนี้จึงไม่ได้กู้ยืมเงินใครมาใช้เลย เมื่อบวชแล้วจึงมาอยู่จำพรรษาที่วัดฤทธิ์ศิริราษฎร์เจริญธรรม โดยมีหลวงพ่อฤทธิ์ เทวะ เป็นเจ้าอาวาส มีพระอาจารย์โป่ง เป็นรองเจ้าอาวาส

 


ศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐาน

 

พระเดชพระคุณหลวงพ่อห้อม ได้สนใจใฝ่ศึกษามาตั้งแต่เป็นวัยเด็กโดยมีตาของท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมเป็นที่อัศจรรย์ ท่านเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งมีไก่ตัวผู้ซึ่งเป็นไก่ที่ตีเก่งและมันไปติดตัวเมียไม่ยอมกลับบ้าน ท่านจึงจะ ออกไปตามหาแต่ตาของท่านบอกว่าไม่ต้องไปหรอกประเดี๋ยวจะเรียกมันกลับมาเอง ตอนนี้ให้ไปหาข้าวให้ตากินก่อน ท่านจึงไปจัดหาข้าวให้ตากิน ต่อมาเวลาพลบค่ำตาท่านก็เรียกท่านมาหาบอกว่าไก่มาแล้ว และท่านก็เห็นตาท่านอุ้มไก่อยู่ในมุ้งแล้วก็ส่งให้หลวงพ่อ ซึ่งหลวงพ่อเล่าว่ามันน่าอัศจรรย์ใจมากเพราะตาของท่านไม่สามารถเดินไปไหนได้ ดวงตาท่านมองไม่เห็น(ตาบอด)แต่สามารถใช้วิชาเรียกไก่มาได้ และทุกๆวันจะเห็นคนมาขอสีผึ้ง ขอแป้งเสก จากตาท่านจำนวนมาก ทำให้หลวงพ่อสนใจที่จะศึกษาวิชาด้านนี้ ต่อมาระหว่างไปเลี้ยงควายได้พบกับลุงอีกคนหนึ่งชื่อว่าลุงช่วยเป็นคนบ้านสวน หลวงพ่อเล่าว่า ระหว่างเลี้ยงควายด้วยกันลุงก็จะใช้ให้ไปย้ายควายกินหญ้าบ้าง ให้เอาควายไปกินน้ำบ้าง โดยลุงช่วยบอกว่าจะสอนวิชาให้

 

แล้ววันหนึ่งลุงช่วยก็เรียกท่านมาแล้วบอกว่าให้ลองเอามีดแทงที่แขนซิ ก็ปรากฏว่าไม่เข้า ทำให้ท่านตื่นเต้นมากและลุงช่วยก็สอนให้แก่ท่านลุงช่วยบอกว่าเป็นวิชาของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร ซึ่งลุงช่วยเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ซึ่งหลวงพ่อเงินสมัยนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ซึ่งต่อมาพระเดชพระคุณหลวงพ่อห้อมได้นำวิชานี้มาเป็นคาถาในการปลุกเศกวัตถุมงคลเพื่อให้มีผลในทางคงกระพัน ซึ่งท่านเล่าว่าก่อนที่จะนำไปปลุกเศกเหรียญหรือวัตถุมงคล ทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าคาถายังใช้ได้ดีอยู่ หลวงพ่อจึงลองปลุกเศกตะกรุดและนำตะกรุดดังกล่าวไปใส่ในปลาช่อนซึ่งตายแล้วและเห็นว่าแม่ครัวกำลังจะทำอาหารถวายพระใน วัดคูหาสุวรรณนั่นเอง

 

โดยท่านใช้กุศโลบายว่า ให้แม่ครัวนั้นไปเอาของให้หน่อยและท่านก็เอาตะกรุดซึ่งลงอักขระยันต์ดังกล่าวใส่ปากปลาช่อนนั้น ต่อมาแม่ครัวก็กลับมาเพื่อทำปลาแต่ก็ปรากฏว่าไม่ว่าจะใช้มีดฟันไปที่ปลาช่อนตัวนั้นไปกี่ครั้งก็ไม่เข้า เมื่อเห็นดังนั้นท่านจึงบอกแม่ครัวให้ไปเอาของอีกครั้งหนึ่งและเอาตะกรุดดอกนั้นออกเสียและก็ใช้ พระคาถานั้นมาปลุกเศกวัตถุมงคลของท่านเพื่อให้เกิดผลในทาง คงกระพัน นับแต่นั้นมา...........

                

              (หลวงพ่อห้อม อมโร ขณะบวชได้ ๒ พรรษา)

 

ในวัยเด็ก-วัยหนุ่มของหลวงพ่อจึงได้ศึกษาวิชา-อาคมมาบ้างแล้ว     ท่านเคยเล่าให้ฟังว่าว่าครั้งหนึ่งท่านเป็นเด็กหนุ่มได้เดินทางไปเที่ยวถึงวัดบ้านซ่าน อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ไปกับเพื่อน 2-3 คน เมื่อขณะกำลังจะเดินทางกลับก็มีวัยรุ่นแถวบ้านซ่าน หลายคนทำท่าจะมาหาเรื่อง  ท่านบอกว่าท่านไม่ได้รู้สึกกลัวเลย เฉยๆ ท่านบอกให้เพื่อน ท่านเดินอ้อมไปก่อนส่วนตัวท่านสูบบุหรี่อย่างเต็มที่ทั้งบริกรรมคาถา แล้วก็เดินผ่านไปกลางวัยรุ่นกลุ่มนั้นแล้วพ่นบุหรี่ไป ปรากฏว่าวัยรุ่นกลุ่มนั้นก็ตีกันเองจ้าละหวั่น ส่วนท่านก็กลับบ้านโดยปลอดภัย ท่านเรียกว่าวิชา(อาพัดบุหรี่) ซึ่งเหตุการณ์อย่างนี้ก็เกิดหลายครั้งแต่ท่านก็ปลอดภัยทุกครั้ง

 

เมื่อท่านถึงเวลาอุปสมบทท่านไปอยู่วัดฤทธิ์หรือวัดน้อย เนื่องด้วยมีความเคารพรักและศรัทธาในตัวหลวงพ่อฤทธิ์เป็นอย่างมากเฉกเช่นเดียวกับชาวบ้านทั้งตำบลบ้านสวน และต้องการเรียนรู้วิปัสสนากรรมฐานและคาถา-อาคมกับหลวงพ่อฤทธิ์ เทวะ ซึ่งท่านเจ้าอาวาสวัดฤทธิ์ฯนี้ หลวงพ่อฤทธิ์นั้นเดิมท่านเป็นคนบ้านคลองตะเคียน ต.บ้านสวนนี่เอง ต่อมาท่านได้อุปสมบทและเมื่อครั้งกิตติคุณชื่อเสียงของเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังษี แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม โด่งดังมาก ท่านจึงได้ชักชวนเพื่อนสหธรรมมิกของท่านคือหลวงพ่อเจ็ก วัดหัวฝาย และหลวงพ่อแป๊ะ เจ้าอาวาสวัดคุ้งยางใหญ่ เดินทางไปเรียนศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต พรมรังสี เจ้าอาวาสวัดระฆัง ที่บางกอก(สมัยนั้นเรียกกรุงเทพว่าบางกอก) เมื่อเรียนอยู่ที่นั่น 6 พรรษา สำเร็จจึงเดินทางกลับมาบ้านและเป็นเจ้าอาวาสวัดฤทธิ์ศิริราษฎรเจริญธรรม และมีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยนั้น

               

                           (หลวงพ่อสัมฤทธิ์ เทวะ)

 

          หลังจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อห้อมได้มาพำนัก ณ วัดฤทธิ์ศิริราษฏร์เจริญธรรมแล้ว ท่านก็เริ่มศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อฤทธิ์ซึ่งเป็นอาจารย์ทันที ท่านต้องท่องหนังสือหรือต่อหนังสือจากพระรุ่นพี่ซึ่งหลวงพ่อห้อม มีความรู้น้อยมากท่านเล่าว่าการต่อหนังสือก็โดยการให้พระรุ่นพี่ท่องให้ฟังแล้วท่านก็หัดท่องตามซึ่งเรียกกันว่าต่อหนังสือ ท่านท่องจนได้ ในพรรษานี้ท่านเริ่มทำสมาธิอย่างจริงๆจังๆและท่านก็ได้เล่าให้ฟังว่า ตอนทำสมาธิใหม่ๆเมื่อจิตเกิดความสงบขึ้นในจิตใจก็ปรากฏว่าในนิมิตของท่านมีงูตัวใหญ่มากมาฉกกัดท่าน แต่ท่านก็ไม่ได้รู้สึกกลัว ท่านบอกว่าคงเป็นเทวดามาแกล้งทดลองใจ ท่านทำสมาธิได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ในวัดฤทธิ์ก็ปรากฏว่ามีแขกของหลวงพ่อฤทธิ์ เทวะ รวมทั้งชาวบ้านมาหาอย่างมากมายในแต่ละวัน

 

 

แม้แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยในสมัยนั้นคือพระยาวิเชียรปราการ ก็นำเรือมาทางแม่น้ำยมและเลี้ยวเข้าทางบางคลองเข้ามาเทียบท่าที่วัดฤทธิ์เพื่อกราบนมัสการหลวงพ่อฤทธิ์ รวมทั้งนำอาหารมาถวายอย่างมากมาย หลวงพ่อเล่าว่าการเดินทางสมัยนั้นทางเรือเป็นทางที่สะดวกที่สุดเพราะว่าทางบกต้องเดิน หรือใช้เกวียนซึ่งต้องใช้เวลา ท่านอยู่ที่วัดฤทธิ์อย่างมีความสุข และนอกจากชาวบ้านแขกเหรื่อแล้ว ก็ยังมีพระเถระต่างๆมาเยี่ยมเยียนหลวงพ่อฤทธิ์จำนวนมากไม่ว่าทั้งใกล้และไกล เท่าที่ท่านจำได้ก็มีหลวงพ่อแป้น วัดเสาธงใหม่ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดอยุธยา ก็เป็นพระสหธรรมมิกกับหลวงพ่อฤทธิ์ เทวะด้วย ซึ่งหลวงพ่อแป้นมาที่วัดฤทธิ์นี้บ่อยมาก หลวงพ่อห้อมเล่าว่าท่านเดินทางมาศึกษาวิชาทำพระเนื้อชินจากหลวงพ่อฤทธิ์ ซึ่งวัดฤทธิ์หรือวัดน้อยในสมัยนั้นยังเป็นศูนย์รวมสรรพวิชา ไม่ว่าจะยาสมุนไพร หรือยากลั่นหรือยาเปรี้ยว ซึ่งต่อมาพระเดชพระคุณหลวงพ่อห้อมก็มาใช้รักษาคนถูกหมาบ้ากัดหรือถูกงูกัด หรือแก้อาการปวดท้อง พระเดชพระคุณหลวงพ่อห้อมอยู่ที่วัดฤทธิ์นี้ได้ 1 พรรษา หลวงพ่อฤทธิ์ได้เรียกท่านมาหาแล้วบอกให้ท่านไปเรียนศึกษาต่อที่ในจังหวัดสุโขทัยเพื่อให้มีความรู้มากขึ้น ซึ่งท่านก็ได้มาอยู่ที่วัดราชธานี แต่เนื่องจากในสมัยนั้นมีพระอยู่จำนวนมาก จึงต้องไปนอนในวิหารวัดราชธานีซึ่งปรากฏว่าในวิหารเย็นมากและกลางคืนก็หนาว ซึ่งอยู่ที่วัดราชธานีได้ไม่กี่วันหลวงพ่อดับ(ประดับ)เจ้าอาวาสวัดคูหาสุวรรณก็ได้เดินทางมาที่วัดราชธาน ีเพื่อชวนหลวงพ่อห้อมให้ไปอยู่ด้วยกันที่วัดคูหาสุวรรณ ซึ่งหลวงพ่อดับก็เป็นคนบ้านสวนเหมือนกัน เมื่อหลวงพ่อดับบอกว่าถึงที่วัดคูหาสุวรรณ มันจะคับแคบแต่ก็อยากให้ไปอยู่ด้วยกัน ด้วยความเมตตาของหลวงพ่อดับท่านจึงข้ามฝั่งมาอยู่วัดคูหาสุวรรณ นับแต่นั้นมา คือวันที่ 1 เมษายน 2473

 

พ.ศ.2474 ท่านเข้าเรียนนักธรรมสอบได้นักธรรมชั้นตรี
พ.ศ.2476 สอบได้นักธรรมชั้นโท
พ.ศ.2477 สอบได้นักธรรมชั้นเอก ในสำนักเรียนวัดราชธานี
พ.ศ.2487 สมัครเข้าสอบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคมสอบได้มัธยมศึกษาปีที่ 6

 

 

 

 

 

 

 

 

 

          คัดลากมาจาก เว็บหลวงพ่อห้อม http://www.luangporhom.ob.tc/ ไม่ได้แจ้งทางเจ้าของเว็บแต่เพื่อเป็นการช่วยกันเผยแผ่เกียรติคุณของท่านด้วยความเคารพ จึงถือเอาความเคารพเป็นเครื่องอนุญาต...ต่อการนำมาเผยแผ่ต่อ และขอขอบคุณทางผู้จัดทำเว็บไว้ด้วยความสำนึกอย่างสูงสุด

 

 

 
ราคาเปิดประมูล :
 100 บาท
ราคาสูงสุด ขณะนี้ :
 1000 บาท
ราคาที่ต้องเพิ่มขึ้น ขั้นต่ำ :
 100 บาท

เงื่อนไขการรับประกัน :
 รับประกันความพอใจ 3 วัน นับแต่วัน ที่ท่านได้รับสินค้าทางไปรษณีย์

ผู้ตั้งประมูล :
 chondan jamroon
ที่อยู่ :
 170 หมู่ที่ 2 ต.บ้านกาศ อ.สูงเม่น จ.แพร่ 54130 ประเทศไทย

เบอร์โทรติดต่อ :
  0860458348, 0860458348
E-mail :
 chon_dan@windowslive.com

ชื่อบัญชี :
 นายชนแดน จำรูญ
เลขที่ บัญชี :
 1164372599
ประเภท บัญชี :
 ออมทรัพย์
ธนาคาร :
 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
สาขา :
 บางลำพู

วันที่ :
 Fri 4, Jan 2013 19:56:51
โดย : chondan    [Feedback +10 -0] [+5 -0]   Fri 4, Jan 2013 19:56:51
 








 
 
โดย : chondan    [Feedback +10 -0] [+5 -0]     [ 9 ] Fri 15, Feb 2013 10:27:18









 

ปิดนอกเว็บเรียบร้อยครับ 99999.- บาท  นิมนต์กลับบ้านเก่าแล้วครับ

โอกาสหน้าเจอกันใหม่ครับ  ขอบคุณมากๆ  ครับเกจิดังจังหลวงพ่อห้อม เกจิดังจังหวัดสุโขทัย รุ่นแรก บล็อค ๒ หวัดสุโขทัย รุ่นแรก บล็อค ๒ 

 
โดย : chondan    [Feedback +10 -0] [+5 -0]     [ 8 ] Fri 15, Feb 2013 10:26:32

 

 

ขอบคุณพี่ๆที่ให้ราคางามๆครับ  เราดีใจมากๆ ที่คุณเคาะเข้ามา  ( ทุกคนมีสิทธิ์เคาะได้ รับประกันไม่ถูกต่อว่าหรือด่าท้อ เพราะคุณเป็นคนสำคัญของเราตลอด ) ยังไม่ได้ทุนเลยครับ   ขออนุญาตไปต่ออีกนิดหน่อยนะครับ

 
โดย : chondan    [Feedback +10 -0] [+5 -0]     [ 7 ] Fri 25, Jan 2013 22:51:59

 

0855479083

 
ราคาประมูล : 1000 บาท
 
โดย : คีรี    [Feedback +3 -0] [+3 -0]     [ 6 ] Thu 24, Jan 2013 19:03:14

 
 
ราคาประมูล : 900 บาท
 
โดย : Montararee    [Feedback +0 -0] [+0 -0]     [ 5 ] Sun 20, Jan 2013 16:20:38

 

089 499  8487

 
ราคาประมูล : 700 บาท
 
โดย : nuth07    [Feedback +0 -0] [+0 -0]     [ 4 ] Thu 10, Jan 2013 13:53:03

 
 
ราคาประมูล : 500 บาท
 
โดย : nuth07    [Feedback +0 -0] [+0 -0]     [ 3 ] Thu 10, Jan 2013 13:51:44

 

088-4386799

 
ราคาประมูล : 300 บาท
 
โดย : rucha2    [Feedback +1 -0] [+0 -0]     [ 2 ] Thu 10, Jan 2013 13:31:56









 

รูปเพิ่มเติม 2 รูป 

 
โดย : chondan    [Feedback +10 -0] [+5 -0]     [ 1 ] Fri 4, Jan 2013 19:58:04

 
ประมูล หลวงพ่อห้อม เกจิดังจังหวัดสุโขทัย รุ่นแรก บล็อค ๒ สภาพสวยกริ๊บ กะไหล่ครับ : พระล้านนา.คอม เว็บ พระเครื่อง พระบูชา อันดับหนึ่ง ของภาคเหนือ ออกแบบเว็บไซต์โดย 2WinWeb design บริการรับทำเว็บไซต์
Copyright Pralanna.com All right reserved. © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายโดย บริษัท พระล้านนาดอทคอม จำกัด.