สุดยอดอิ่นมหาภูตรุ่นแรก ครูบาผดุง วัดล้านตอง ตัวจริงเสียงจริง
เจ้า พระครูสังฆรักษ์ผดุง พุทธสโร, ครูบาขวัญ หรือที่ชาวพม่าเรียกยกย่องว่า เจ้าสย่าต่อ ทั้งหมดล้วนเป็นนามของพระเกจิอาจารย์ผู้รอบรู้พระเวทวิทยาคมอย่างหาตัวจับ ยาก และมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดของภาคเหนือในขณะนี้ เป็นผู้หนึ่งที่ศึกษาตำราพระเวทวิทยาคมสายพม่าและล้านนามาอย่างช่ำชองและเจน จบ แบบที่เรียกว่า “ มากครู มากอาจารย์ ”
เหตุที่เรียกท่านว่า “เจ้าสย่าต่อ ” นั้น เพราะท่านสำเร็จคัมภีร์มหาปัถมังของพม่า ถ้าเป็นพระสงฆ์ ทางพม่าเขาจะยกย่องเป็น“ เจ้าสย่าต่อ ”( สย่า = ครูวิชาสายพม่า ดังนั้น เจ้าสย่าต่อ = พ่อครู , บรมครูวิชาสายพม่า )
ท่าน มีพลังจิตที่มั่นคง สามารถแสดงวิชาข่ามคงให้ประจักษ์ได้ จึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย เคยแสดงฤทธิ์ทางใจโดยจารอักขระลงในแผ่นเงินม้วนลงในบาตรน้ำมนต์ ก่อนภาวนาจนตะกรุดลอยขึ้นเหนือน้ำ และวิ่งวนได้ราวกับมีชีวิต
วัตถุมงคล ที่สร้างชื่อมีหลายชนิด ได้แก่ วัตถุมงคลที่ทำมาจากว่านพญาไก่แดงและตัวยาอันศักดิ์สิทธิ์จากประเทศพม่า, อิ่นแก้ว , สีผึ้ง , ตะกรุด , วิชาเทียนชนิดต่างๆ ฯลฯ ล้วนได้รับความนิยมสูงและหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว
ปัจจุบันเรื่องราวและ ประวัติของท่านถูกเผยแพร่ในสื่อพระเครื่องหลายฉบับ ท่านมีบุคลิกแบบโผงผาง พูดจาตรงไป ตรงมา แต่จริงใจ สามารถเคารพกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ สิ่งใดรู้ก็บอกว่ารู้ ไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้ จะสร้างวัตถุมงคลเฉพาะที่ได้ศึกษาเรียนรู้มาจริงๆ และใช้ได้ผลจริงเท่านั้น
ศิษย์ ที่เคารพนับถือท่านหลายคนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ อาทิ คุณหญิงเอื้อปราณี เจียรวนนท์ และคุณนุชนาถ เจียรวนนท์ ท่านทั้งสองเคยจัดกฐินมาทอดที่วัดล้านตองได้ปัจจัยนับล้านบาท
บางครั้ง จึงทำให้มีผู้อิจฉาริษยาท่าน โดยเฉพาะนักสร้างวัตถุมงคลที่เสียผลประโยชน์ เพราะท่านไม่ค่อยอนุญาตให้กลุ่มบุคคลใดสร้างขึ้นง่ายๆ บุคลลเหล่านั้นจึงสร้างเรื่องใส่ความท่านนานัปการ ราวกับพญามารมาผจญ หวังจะให้ท่านเสื่อมเสียและดับวูบในวงการพระเกจิอาจารย์
แต่ทว่า “ทองแท้นั้นไม่กลัวไฟ ”
ท่านกลับนิ่งเฉยเสีย ไม่ยินดียินร้ายใดๆ เพราะจิตท่านเข้มแข็งมั่นคงดั่งขุนเขา พญามารทั้งหลายจึงแตกพ่ายกระเจิงไปคนละทิศละทาง
ขอบอก ก่อนว่า พวกท่านกำลังก่อบาปมหันต์ สำหรับพระอาจารย์ผดุง หรือ เจ้าสย่าต่อ ที่นับถือยิ่งของคนไทย และพม่าแล้ว เหมือนกองเพลยิ่งตียิ่งดัง ชาวบ้านและลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศ ต่างเคารพ และยอมรับนับถือท่านมาเป็นเวลาช้านาน เกินกว่าจะคลายศรัทธากันได้ง่ายๆ เพียงเพราะลมปากของคนกิเลสหนาเพียงไม่กี่คน
แม้ทางการคณะสงฆ์ก็ได้ แต่งตั้งให้ท่านเป็นพระครูสังฆรักษ์ตั้งแต่อายุยัง น้อย ถือเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าท่านมีวัตรปฏิบัติที่ได้รับการยอมรับ
และทุก ครั้งที่สร้างวัตถุมงคลขึ้นมา ท่านมีความมุ่งมั่นจะใช้สรรพวิชาที่เรียนมาสงเคราะห์ช่วยเหลือลูกศิษย์ด้วย ความเมตตา และร่วมกันทำบุญกุศลสร้าง และปฏิสังขรณ์เสนาสนะสงฆ์ ไม่มีเจตนาในเชิงการค้าพาณิชย์ใดๆทั้งสิ้น
เรื่องนี้บรรดาศิษย์ของท่าน ทราบดี เพราะท่านเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณนั่นเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมสูงอย่างรวดเร็ว และทวีค่านิยมสูงขึ้นมากกว่าตอนออกมาใหม่ๆ หลายสิบหลายร้อยเท่านัก นี่คือความจริงใน พ.ศ. นี้ที่มิอาจปฏิเสธได้
ชนวนมวลสารที่ผสมผสานใน วัตถุมงคลของท่าน กว่าจะได้มาแต่ละอย่างต้องดั้นด้นไปหาในป่าลึก กลางหุบเขาลำเนาไพรที่เสี่ยงอันตราย เพราะเป็นเขตประเทศพม่า ซึ่งมีกองกำลังกู้ชาติหลายเผ่าพันธุ์พร้อมจะทำศึกกันได้ทุกเมื่อ หรือบางทีก็เป็นเขตตะเข็บชายแดนไทย-พม่า
สนุกเสียที่ไหนเล่า ไปเดินอยู่ตรงนั้นน่ะ จริงมั๊ยครับ ท่านผู้อ่าน
เชี่ยวชาญพระเวทสายพม่าอย่างหาตัวจับยาก
เชื่อ ว่าในประเทศไทยตอนนี้ พระอาจารย์ผดุง วัดล้านตอง เป็นพระเกจิที่เรียนพระเวทสายพม่าไว้มากที่สุด ถึงขั้นบวชฆราวาสให้เป็น “สย่า ” ( ครูวิชาสายพม่า )ได้ เพราะท่านเรียนและครอบครูวิชามาโดยตรงกับบรมครูพม่าเหล่านั้น
ส่วนท่าน อื่นๆ เท่าที่ทราบก็มีหลวงพ่ออุตตมะ ( สำเร็จวิชาสร้างลูกประคำ ) และ พระอาจารย์หมอเล็ก วัดคลองใหญ่ จ.ตราด ( สำเร็จวิชาถอนพิษงู )
เพราะ อุปนิสัยของอาจารย์ผดุงนั้น ถ้าศึกษาแล้วไม่รู้จริง ท่านจะไม่ยอมหยุดศึกษาเด็ดขาด ทำให้ท่านดั้นด้นเดินทางไปเรียนกับครูบาอาจารย์พม่าหลายท่าน ซึ่งสายนี้ไม่ค่อยยอมรับใครเป็นศิษย์ง่ายๆ ต้องใช้ความอุตสาหะ พยายามสุดชีวิตเท่านั้น
ชาติภูมิ
ปัจจุบันท่านมีอายุไม่มากนัก ตรงกันข้ามกับภูมิรู้และภูมิจิตของท่านที่อาจมีมากกว่าพระอาวุโสบางรูป แต่ท่านไม่ชอบคุยโวโอ้อวด กลับนิ่งเงียบเสียด้วยซ้ำ ( ของจริงนิ่งเป็นใบ้)
|