สุดยอดพระพิมพ์กลีบบัว(เมตตาแรงแรง) พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ ยุคต้น ปี247..
ท่านเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดสังฆราชแพองค์หนึ่ง พระที่ท่านสร้างมีพุทธคุณด้านเมตตาค้าขายเป็นที่เลื่องลือ แม่ค้านิยมมาก มีเรื่องเล่าว่าท่านนำไปแจกแม่ค้า ที่บ้านเกิดท่าน ปรากฏว่าแม่ค้าคนนั้นขายของดีหมดเกลี้ยงทุกวัน อุปมาดั่งชื่อผู้สร้างพระนั่นเอง "ขายหมดเกลี้ยง"
พระผงกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี่ยง วัดสุทัศน์ ปี 247…. กว่า สวย พุทธคุณล้นเหลือ พระที่จะนำมากล่าวในที่นี้คือ พระผงรูปกลีบบัว ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ เป็นพระพิมพ์รูปกลีบบัวประกอบเส้นรัศมีขนาดเล็ก สร้างด้วยเนื้อผงขาวหรือเนื้อตระกูลพระสมเด็จฯ นอกจากเนื้อผงขาวแล้ว มี สีแดง, เขียว และดำ เป็นอาทิ พระผงอย่างพิมพ์นี้ในแวดวงนักนิยมสมสมพระเครื่อง เคยเล่นหากันไปต่าง ๆ นานา เช่น พระกลีบบัวหลวงปู่ภู วัดอินทร์ บางขุนพรหม กรุงเทพฯ เพราะถ้าย้ายไปเข้าวัดนี้แล้วย่อมมีศักดิ์ศรีและมีกลิ่นไอของ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ หอมอบอวลขจรขจายเป็นหลักชัยหรือเป็นเครื่องการันตีอยู่ จักขายได้ราคางามกว่าจะย้ายไปเข้าวัดอื่น หรือวัดของเขาอย่างแท้จริง ในกรณีนี้เรียกว่าพุทธพานิชย์ ย้ายท่านไปจำวัดเพราะผลประโยชน์ ฉะนั้นพระกลีบบัว หลวงปู่ภู วัดอินทร์ จึงเกิดขึ้นเพราะลมปากพุทธพานิชย์เท่านั้น ความจริงพระกลีบบัวพิมพ์นี้งดงามและเด่นชัดทางรูปแบบ อีกทั้งยังมีขนาดเล็กกระทัดรัด ในด้านมวลสารและเนื้อหาแล้ว มีความหนึกนุ่มไม่แพ้พระเครื่องตระกูลสมเด็จวัดที่เด่น ๆ อีกหลายวัดเหมือนกัน หรือจะเรียกว่าเนื้อตัน มิฉะนั้นบรรดาพุทธพานิชย์คงจะไม่ลากท่านไปขึ้นทะเบียนสัมมะโนครัวเป็น หลวงปู่ภู วัดอินทร์ บางขุนพรหม ซึ่งอบอวลไปด้วยไอแห่งพระสมเด็จได้หรอก ใครเป็นผู้สร้างพระกลีบบัวพิมพ์นี้ เมื่อไต่ถามคุณนิรันดร์ แดงวิจิตร (ท่านพระครูหนู) แห่งสำนักวัดสุทัศน์ฯ ได้ถูกเปิดเผยออกมาอย่างละเอียดและเป็นที่เชื่อถือได้อย่างสนิทใจ เพราะท่านพระครูหนูเองมีส่วนช่วยในการสร้างพระผงกลีบบัวพิมพ์นี้เป็นอย่าง มากด้วยผู้หนึ่ง ท่านได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า ท่านผู้สร้างพระผงกลีบบัวพิมพ์นี้ คือ ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยง ฐานาใน สมเด็จพระวันรัตน์แดง แห่งสำนักวัดสุทัศน์ เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์ กับ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชแพ ติสสะเทวะ ปรมาจารย์ทางด้านการสร้างพระกริ่งอันลือกระฉ่อนแห่งยุครัตนโกสินทร์ ชื่อเสียงเกียรติคุณของพระครูใบฎีกาเกลี้ยงโด่งดังขจรขจายในด้านวิทยายุทธพุ ทธาคมเป็นที่กล่าวขานกันมากองค์หนึ่งแห่งสำนักวัดสุทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงประทีปทำผงและการลงยันต์พุทธซ้อน ในด้านการทำผงวิเศษ ซึ่งประกอบด้วยผงปถมัง อิตเจ, มหาราช ตรีนิสิงเหฯ นั้น ผงของพระครูใบฎีกาเกลี้ยงแห่งสำนักวัดสุทัศน์เจ้านี้ได้รับคำยกย่องมากที่ สุด เล่ากันว่า ผงที่ท่านลบอยู่ในกระดานนั้น ขณะที่ท่านบริกรรมปลุกเสกจะเดินได้ประหนึ่งมดปลวกที่มีชีวิต และด้วยผงวิเศษต่าง ๆ ที่ท่านสำเร็จดังกล่าวนี้แหละได้รวบรวม แล้วนำเอามาสร้างเป็นพระพิมพ์รูปกลีบบัวดังกล่าวแล้ว ท่านพระครูหนู กรุณาเล่าในรายละเอียดให้ฟังว่า โดยเนื้อแท้ของพระกลีบบัวพิมพ์นี้สีขาวเป็นพระผงตระกูลสมเด็จฯ คือมีส่วนผสมของปูนเปลือกหอยและน้ำมันตั้งอิ๊ว แต่ที่มีสีต่าง ๆ เช่น เหลือง ทอง เทา เขียว และดำนั้น ได้ตกแต่งสีด้วยสีฝุ่น และเมื่อมีวัดไหนจะทำการบูรณะปฏิสังขรณ์หรือมีการบรรจุพระลงพระเจดีย์มาขอ ท่านจะมอบให้แห่งละเป็นจำนวนมาก ๆ อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้กระมัง พระผงกลีบบัวพิมพ์นี้ จึงมีแจกอยู่แพร่หลายและหลายสำนักด้วยกัน เช่นที่ หลวงพ่อท้วม วัดไชยนาวาส, หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ, สุพรรณบุรี วัดบางหัวเสอ วัดยอด และอีกหลาย ๆ วัด ในอำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา เป็นต้น จะอย่างไรก็ตาม ถ้าพูดถึงกำเนิดอันแท้จริง พระผงกลีบบัว พิมพ์นี้สร้างที่วัดสุทัศน์ โดย ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยง ผู้สำเร็จวิชาทำผงเป็นผู้สร้าง แต่ปี พ.ศ. เจ็ดสิบถึงแปดสิบกว่า และเชื่อว่าได้ร่วมเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ครั้งที่สำคัญ ๆ หลายครั้ง เช่น ในคราวสร้างรูปหล่อพระพุทธชินราชของพุทธสมาคม ในด้านคุณวิเศษนั้น ท่านพระครูหนูได้กรุณาเล่าเสริมให้ฟังว่า มีอยู่คราวหนึ่ง ขณะที่ท่านร่วมตำผงเพื่อสร้างพระกลีบบัวพิมพ์นี้อยู่ เมื่อตำผงเสร็จเรียบร้อยแล้วได้เอาน้ำที่ล้างกครกเทสาดลงไปข้างล่างโดยไม่ เจตนาให้ไปถูกใคร และก็เป็นเวลาที่สาวลูกจีนคนหนึ่งกำลังมาเดินเก็บดอกเข็มบริเวณนั้นเข้าพอดี น้ำล้างครกถ้าจะกระเด็นไปถูกเข้า ปรากฏว่าสาวจีนคนนั้นไม่ได้เดินไปไหนได้เลย คงวน ๆ เวียน ๆ เสมือนจะรอใครอยู่ตรงนั้น เสร็จจากฉันเพลแล้ว นางนั้นยังคงอยู่จวบจนเย็นจวนเวลาพลบค่ำ นางไม่สามารถจะเดินไปไหนได้เสมือนนางต้องเสน่ห์เล่ห์กล ท่านพระครูหนูเห็นเป็นที่ผิดสังเกต จึงนึกขึ้นได้ว่า ถ้านางคงจะต้องน้ำล้างครกที่เทสาดไปเมื่อเช้านี้กระมัง จึงวนเวียนอยู่ ณ ที่นั่น คิดได้เช่นนั้นแล้วจึงไปขอน้ำมนต์ถอนจาก พระครูใบฎีกาเกลี้ยง พรมจากบนกุฏิลงไป พอให้กระเซ็นต้องกายนางนั้นแหละ นางจึงเดินกลับบ้านได้เป็นเหตุมหัศจรรย์จริง ๆ ขอปรามไว้ตรงนี้เสียก่อนนะว่า อย่าอุตรีฝนเอาผงไปให้คนอื่นกินเข้าเล่า บาปจะตกแก่ตัวเอง และถ้าคิดในตมุมกลับอย่าง หลวงพ่อท้วม วัดไชยนาวาส และหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ สุพรรณบุรี เจ้าของจิ้งจก ตุ๊กแกปลุกจนร้องได้เหมือนมีชีวิตซึ่งต่างก็มีชื่อเสียงโด่งดังขจรขจายเป็น หนึ่งในยุทธจักรเหมือนกัน และการที่ท่านยินยอมเอา พระผงกลีบบัว ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง แห่งสำนักวัดสุทัศน์ไปแจกแทนพระของท่านนั้น ท่านย่อมจักทราบคุณค่าว่าเหนือกว่าของท่านอย่างแน่นอน
สุดยอดพระพิมพ์กลีบบัว(เมตตาแรงแรง) พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ ยุคต้น ปี247....ผงล้วน หายากส์
อิธะเจ หรือ อิทธิเจ เป็นวิชาทางไสยศาสตร์ว่าด้วยการทำผงตามคัมภีร์อิธะเจ ซึ่งเป็นหนึ่งในคัมภีร์หลักของระบบไสยศาสตร์ไทยโบราณ อันประกอบด้วยคัมภีร์ปถมัง อิธะเจ ตรีนิสิงเห และมหาราช นอกจากนั้นชื่อวิชาอิธะเจยังปรากฏอยู่ในเสภาขุนช้างขุนแผนตอนพลายงามเรียน วิชาด้วย เนื้อหาของวิชาอิธะเจคือการทำผงด้วยการตั้งตัวตามสูตรบาลีมูลกัจจายน์ ซึ่งเป็นระบบบาลีไวยากรณ์ใหญ่ที่ปัจจุบันได้ล้มเลิกไป อิธะเจมีหลายตำรับด้วยกัน แต่ที่เป็นหลักสำคัญจะตั้งตัวด้วย อิทะ อิติ อิติ อัสสา อุทัง อะหัง อัคคัง อะหัง อะหัง อิถัง อัมมะ อัสสา จากนั้นจึงกระทำตามสูตรสนธิโดยอ้างสูตรตามคัมภี์บาลีไวยากรณ์จนสำเร็จเป็น อิธเจตโสทฬฺหํคณฺหาหิถามสา เป็นอันขาดตัวในสูตรสนธิ ผงที่ได้จากการเขียนและลบอักขระตามคัมภีร์อิธะเจ เรียกว่าผงอิธะเจ เชื่อว่ามีอานุภาพทางเมตตามหานิยม เป็นเสน่ห์โดยเฉพาะแก่สตรีเพศ ผงอิธะเจ เป็นวิชาไสยศาสตร์ไทยโบราณอย่างหนึ่ง วิธีทำเริ่มต้นจากจัดเครื่องบูชาคำนับครูมีดอกไม้ธูปเทียนอย่างละ ๕ หัวหมู บายศรีปากชาม เครื่องกระยาบวช มีขนมต้มขาว ขนมต้มแดง มะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำไท เป็นต้น และเงินบูชาครู จากนั้นผู้กระทำกล่าวคำนมัสการตามตำรา เมื่อสักการบูชาครูเรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มทำผง การทำผงอย่างโบราณคือใช้ดินสอพองปั้นเป็นแท่งขนาดพอจับได้ แล้วบริกรรมเขียนอักขระลงบนกระดานชนวน ขณะที่เขียนอักขระแต่ละตัวให้บังเกิดขึ้น ผู้ทำจะต้องบริกรรมคาถา (เรียกสูตร) ตามที่บังคับไว้ในตำราทุกครั้งไป สำหรับแท่งดินสอที่ใช้เขียนผงนี้บางสำนักอาจระบุส่วนผสมต่างกันไปก็ได้ เช่น อาจผสมไคลโบสถ์ ไคลเสมา ไคลพระศรีมหาโพธิ์ ดินเจ็ดโป่ง เจ็ดป่า ดอกรักซ้อน ยอดสวาด กาหลง หรือเครื่องหอมอื่น ๆ บางชนิดผสมลงไปในดินสอพองอีกด้วยก็ได้ การทำผงอิธะเจจะอ้างสูตรพระบาลีในคัมภีร์มูลกัจจายนะ ซึ่งเป็นสูตรตามคัมภีร์ไวยากรณ์ใหญ่ซึ่งปัจจุบันหลักสูตรปริยัติธรรมแผนก บาลีได้ยกเลิกไป สูตรมูลกัจจายนะนี้ทางไสยศาสตร์นับถือว่ามีอานุภาพศักดิสิทธิ์มาก ผงอิธะเจดำเนิดตามแนวสูตรดังกล่าว เมื่ออ้างสูตรเขียนและลบจนขาดตัวในสูตรสนธิ กล่าวคือเขียนและบริกรรมคาถาและเสกจนสำเร็จดีแล้ว จึงลบอักขระบนกระดานชนวนออกมา ผงดินสอพองที่ได้จากการเขียนและลบตามสูตรคาถาอาคมในคัมภีร์อิธะเจนี้ เรียกว่า ผงอิธะเจ มีอานุภาพทางเสน่ห์แก่สตรีเพศยิ่งนัก ตามตำรากล่าวว่าหากใส่ลงในอาหารให้หญิงกินย่อมรักชายผู้นั้นจนวันตาย ผงนี้เพียงทิ้งให้ถูกตัวผู้ใด ผู้นั้นก็เกิดงงงวยหลงตามเรามา เป็นที่สุดของวิชาเสน่ห์โบราณ คาถาอิธะเจ ๑๓ ตัวคือ อิธะเจตะโสทัฬหังคัณหาหิถามะสาฯ ผงอิธะเจนี้เมื่อทำสำเร็จแล้วจะต้องผสมเครื่องยาและปั้นเป็นแท่งเก็บไว้
สุดยอดพระพิมพ์กลีบบัว(เมตตาแรงแรง) พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ ยุคต้น ปี247....ผงล้วน หายากส์
รับประกันแท้ตามมาตรฐานสากล
จองได้ ปิดได้ ขอไม่เกิน 2 วัน โอนเร็ว ส่งเร็วด่วนจี๋
ทุกรายการที่ท่าน เช่าบูชาพระเครื่องหรือ เครื่องรางของเรา เงินของท่าน ส่วนหนึ่ง ท่านได้ร่วม ทำบุญกับเรา จึงขออนุโมทนากับท่านด้วย ขอบุญนี้จงสำเร็จแก่ เทวดาประจำตัวเจ้ากรรมนายเวร เชื้อโรคไวรัส และญาติของท่าน ด้วยกันทุกผู้ทุกคนเทอญ เม สัมมุขา สัพพาหะระติ เต สัมมุขา ผู้ใดมีจิตคิดร้าย จงสะท้อนกลับร้อยเท่า พันเท่า ศึกษา สะสม แบ่งปันพระแท้กันฉันท์พี่น้อง สงสัย สนใจ โทรปรึกษา (AIS) 081-253-4483 อินทร์ inonnim@gmail.com
นายอินทร์ อ่อนนิ่ม in onnim 574-2-65139-5 ออมทรัพย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
สาขาบางปะอิน
|