เสี่ยน้อยให้เหตุผลได้เยี่ยมเลยครับ ผมเชื่อว่าไม่ทันมานานแล้วเช่นกันครับ
เหตุผลของผม ผมเคยได้สอบถามข้อมูลกับคุณลุงท่านหนึ่ง บ้านท่านอยู่ที่ตลาดบ้านโฮ่ง ท่านเคยบวชรับใช้ใกล้ชิดครูบาศรีวิชัย ช่วงปลายชีวิตของครูบาครับ ผมสอบถามเรื่องเหรียญบ้านปางว่าใครเป็นผู้สร้าง และทำที่ไหน ท่านบอกว่าท่านไม่รู้ แต่ตอนที่ท่านอยู่กับครูบาไม่เคยเห็นว่ามีใครมาขอสร้างพระ ของครูบาศรีวิไชย
ผมถามถึงเรื่องการสร้างพระเกศาของครูบา ท่านบอกว่าลูกศิษย์รูปไหนที่ปลงเกศาครูบา ก็จะเก็บเอาไว้ใช้บูชา ไว้ใช้ทำพระแล้วแบ่งปันกันใช้ ผมถามว่าครูบาได้ปลุกเสกไหม? ท่านว่า ครูบาไม่ถือข่ามถือครึด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าเอาไปให้ครูบามนต์ให้ เกรงว่าครูบาท่านจะว่าเอา เพราะถ้าครูบาว่าอะไรใคร ก็จะเป็นตามที่ครูบาท่านว่า คุณลุงบอกว่าพระเกศาที่ท่านทำเอง ท่านจะเอาพระที่ทำแล้วห่อผ้าแล้วเอาไปวางไว้ที่หน้าพระประธาน เพราะถือเอาว่าตอนครูบาสวดมนต์จะเป็นการอธิษฐานจิต" มนต์ "ให้ไปด้วยเลย
ผมถามถึงเหรียญ ปี 2482 คุณลุงบอกว่า ครูบาท่านมรณภาพก่อนตอนที่เหรียญยังอยู่ที่กรุงเทพฯอยู่
คุณลุงเล่าให้ฟังว่า หลวงศรีประกาศมาที่วัดบ้านปาง เพื่อขออนุญาตสร้างเหรียญรูปเหมือนครูบา เพื่อเอาไปร่วมปลุกเสกที่วัดราชบพิธ กทม. แต่ครูบาไม่อนุญาต หลวงศรีประกาศ พักอยู่ที่บ้านปางเป็นอาทิตย์เพื่อชักชวนชาวบ้านให้ช่วยกันขอครูบา ครูบาถึงได้ให้อนุญาต แต่ให้ลงปี พ.ศ.ปี 2482 ระหว่างที่ส่งเหรียญไป กทม.นั้น ครูบาท่านมรณภาพก่อน ไม่ทันได้มนต์เหรียญของท่าน เมื่อเหรียญที่ปลุกเสกที่วัดราชบพิธเสร็จแล้วส่งกลับมานั้น คุณลุงท่านนี้เป็นอีกท่านหนึ่ง ที่เป็นคนบอกบุญกับชาวบ้าน โดยการให้บูชาธงเล็กๆ ใครที่เช่าบูชาธงหนึ่งอันในราคา 1 บาท จะได้เหรียญครูบา 2482 1 เหรียญ ใครที่บูชาธง 25 อัน จะได้เหรียญ 1 กล่องสบู่ที่บรรจุเหรียญครูบาไว้ 25 เหรียญ
หลวงศรีประกาศ เป็นคหบดี ถือว่าเป็นศิษย์ใกล้ชิดพระครูบาระดับแถวหน้า ขออนุญาตสร้างเหรียญรูปเหมือนของท่าน กว่าท่านพระครูบาจะอนุญาตแสนจะยาก แล้ววัตถุมงคลไม่ว่าจะเป็นเหรียญ หรือรูปหล่อ ใครจะเป็นผู้ขออนุญาตพระครูบาครับ เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่ผมได้เจอกับตัวเองครับ ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่นครับ |