ตะกรุดไม้ไผ่แดง( พระมหาเมธังกร )วัดน้ำคือ จ.แพร่
ตะกรุดไม้ไผ่แดงแทงจอมปลวก พระมหาเมธังกร วัดน้ำคือ จ.แพร่ ท่านเป็นพระเกจิที่ชาวแพร่และคนล้านนาให้ความนับถือท่านมาก ท่านเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของครูบาชุ่ม วัดวังมุย ครูบาชุ่มไปเรียนวิชากับท่านนานถึง 2พรรษา รวมถึงตระกรุดหนังควายตายกลม ท่านก็เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้ครูบาชุ่ม และ ท่านยังโด่งดังในเรื่องการสร้างกะลาและ"ตะกรุดไผ่แดงแทงจอมปลวก" ท่านจะเลือกเอาไม้ไผ่แดงที่ขึ้นกลางจอมปลวกมาสร้างเท่านั้นครับ
เป็นตะกรุดแดนล้านนาที่หาชมยากครับกับตำราการสร้างหนึ่งเดียว เป็นไม้ไผ่แดงลงอักระยันต์บนกระดาษสาและพอกด้วยครั่งลงรักคลาสสิกเก่ามากๆครับตะกรุดไม้ไผ่แดงแทงจอมปลวก
การสร้างตะกรุดของท่านจะสร้างตะกรุดโดยใช้ไม้ไผ่มาทำโดยท่านจะเลือกเอาไม้ไผ่ หรือ ไผ่แดง ที่ขึ้นกลางจอมปลวกมาทำเป็นเคล็ดวิชาของการสร้างตะกรุดชนิดนี้หายากมากครับ ตะกรุดไม้ไผ่ นี้ดีทางมหาอุดและแคล้วคลาดเป็นเลิศ และยังเป็นเมตตามหานิยม
การันตรีด้วยความเข้มขัง สุดยอด ปรมาจารย์ มหาเมธังกร วัดน้ำคือ จ.แพร่ ท่านคือสุดยอด พระอาจารย์ ครูบาอาจารย์สมัยนั้น จึงเน้นสร้างเครื่องรางของขลัง ที่เกี่ยวกับ มหาอุด คงกระพัน โดยตะกรุดหนังฯ เป็นตะกรุดที่นิยมสร้างกันมากในเขต แพร่ น่าน โดยในยุคนั้น ผู้ที่มีชื่อเสียงที่สุดถือว่าเป็นดั่งปรมาจารย์ทางวิปัสสนา และพระเวทย์(เปรียบเสมือน อ. ทองเฒ่า แห่งสำนักเขาอ้อ) อยู่ทาง จ.แพร่ เป็นสหธรรมิก ของครูบาเจ้าศรีวิชัยและวิชาที่โดดเด่น คือการทำตะกรุดหนังลูกควายตายพราย คือ พระมหาเมธังกร วัดน้ำคือ จ.แพร่ ครูบาชุ่มท่านได้ทราบชื่อเสียงของ พระมหาเมธังกร(หลวงปู่หมา)ในคราวที่ตามครูบาเจ้าศรีวิชัย มาบูรณะวัดพระธาตุช่อแฮ พระธาตุประจำปีเกิดครูบาเจ้า ศรีวิชัย จนเมื่อปลงพระศพสรีระครูบาเจ้าศรีวิชัยแล้ว ครูบาชุ่มท่านเดินทางมาศึกษาวิชากับหลวงปู่พระมหาเมธังกรเป็นเวลา 2ปีอีกด้วยกัน
|