แอนติคและเครื่องราง
ตะกรุดเก้ากุ่มครูบาวัง วัดบ้านเด่น เลี่ยมเดิม
|
|
|
|
|
|
ตะกรุดเก้ากุ่มครูบาวัง วัดบ้านเด่น เลี่ยมเดิม
สุดยอดเกจิแห่งเมืองตาก วัตถุมงคลของท่านล้วนมีประสบการณ์ เลี่ยมเดิมตัวจริงเสียงจริงแท้ดูง่าย
ยันต์เก้ากุ่ม เป็นยันต์ชนิดหนึ่งที่มีรูปแบบที่สวยงาม โดยจะนำตระกรูดเก้าดอกมาถักรวมกันเป็นหนึ่งกลุ่ม โดยเชื่อกันว่าหากมียันต์เก้ากลุ่มติดตัวบูชาจะประสบกับความโชคดี ก้าวหน้า
กุ่ม หรือกลุ่มในที่นี้หมายถึงการรวมกัน เก้ากุ่มจึงหมายถึงการรวมกันของสิ่งอันเป็นมงคลต่าง ๆ มาไว้ด้วยกัน โดยยันต์เก้ากลุ่มดูภายนอกจะมีตระกรูดอยู่แปดดอก และดอกที่เก้าจะอยู่ข้างในเป็นหัวใจยันต์ ภายนอกแปดดอกนั้นเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งมงคลแปดอย่างของพราหมณ์
คาถาที่นำมาจารลงในยันต์มีดังนี้
1.ตะปะหะนะละ
2. ขะนะหะนะตะ
3.วะตะสะวะหะนะ
4.คะมะหะนะทะ
5.วะจะวะทะคะมะ
6.กะมะขะนะนะตะตะระ
7.ยะวะมะทะกะมะยะ
8.ยะวะมะทะยะวะ
9.นะวะกะยะวะ
พุทธคุณครอบจักรวาล ใช้สะเดาะเคราะห์แก้ดวงตก หนุนดวง ป้องกันภูตผีปีศาจ สิ่งชั่วร้าย เสริมดวงให้ก้าวหน้า มีเมตตามหาเสน่ห์ และยังเสริมบารมีครับ
แท้ดูง่ายเลี่ยมเดิม ๆ ครับ
สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900
#ครูบาวัง พรหมเสโน
อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านเด่น ต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก
ท่านถือกำเนิดที่บ้านต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ก.ย. 2434 ปีเถาะ เป็นบุตรของเจ้าคำปวน และเจ้าบัวเงา ณ ลำพูน บิดามารดาเป็นเชื้อสายเจ้าภาคเหนือ แต่ครอบครัวของพ่อยึดอาชีพค้าขายทำไร่ทำนาตลอดมา มำพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 8 คน เป็นชาย 4 หญิง 4 ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น “แก้วมหาวงศ์”
เมื่ออายุ 12 ปีได้บรรพชาเป็นสามเณรและศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดบ้านเหมืองจี้ จนกระทั่งอุปสมบทเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2455 ณ วัดบ้านแป้น อ.เมือง จ.ลำพูน โดยมีพระกันธิยะ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการปั๋น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการปุ้ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมเสโน”
หลังอุปสมบทแล้วได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยครั้งแรกได้ธุดงค์ไปช่วยสร้างวัดต้นธงชัย อ.แม่พริก จ.ลำปาง จนได้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ 4 พรรษา ต่อจากนั้นได้ธุดงค์ไปช่วยสร้างวัดสองแคว อ.เมือง จ.ตาก อีก 2 พรรษา และได้เป็นเจ้าอาวาสเช่นกัน หลังจากนั้นจึงได้มาสร้างวัดบ้านเด่น ในจำนวนเวลาที่เดินธุดงค์ 12 ปีนั้น มีอยู่ 2 ปีที่ท่านได้ธุดงค์ไปเมืองย่างกุ้งเพื่อเรียนภาษาพม่า และได้เรียนเวทย์มนต์คาถาที่เป็นภาษาพม่าจนมีความชำนาญอย่างดี จึงเดินทางกลับเมืองไทย ในระหว่างทางได้พบป่าแห่งหนึ่งชื่อ “ป่าเด่นกระต่าย” ซึ่งมีความร่มเย็นน่าอยู่อาศัย และมีหมู่บ้านที่ห่างไกลและยากจน จึงคิดสร้างวัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลชาวบ้านในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เริ่มแรกท่านได้สร้างกุฏิมุงหลังคาด้วยไม้แฝกก่อน 3 หลัง ซึ่งนับเป็นสำนักสงฆ์ที่แห้งแล้งยังไม่มีอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว ต่อมาประชาชนในต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งอยู่ในบริเวณที่สร้างวัดบ้านเด่น ได้มองเห็นความจำเป็นของพระสงฆ์ที่ทนทุกข์ยากลำบากในเรื่องความเป็นอยู่ และอาหารการกิน จึงสละแรงกายแรงใจช่วยกันคนละไม่คนละมือร่วมกับพระสงฆ์สามเณร จนได้ศาลาไม้เก่าขึ้นมาหนึ่งหลัง และให้ชื่อว่า “วัดบ้านเด่น” ตามสถานที่ตั้งวัดซึ่งเป้นป่าเด่นกระต่าย เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ป่าแห่งนี้
ทั้งนี้ ก่อนที่วัดบ้านเด่นจะมีชื่อเสียงเด่นสมชื่อสมความปรารถนาของครูบาวัง วัดแห่งนี้ได้รับความอุปถัมภ์จากปลักอำเภอเมืองตาก และครอบครัว รวมทั้งประชาชนทั่วไป ปลัดอำเภอท่านนั้นก็คือ “ขุนโสภิต” บิดาของจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อครูบาวัง ซึ่งได้มอบตัวเป็นศิษย์และเป็นผู้บริจาคทรัพย์ร่วมสร้างวัดเป็นจำนวนมาก ครูบาวังท่านเป็นเจ้าอาวาสผู้ถือปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมาโดยตลอด ได้บำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือสาธุชนผู้ตกทุกข์ได้ยากเสมอมาด้วยความเมตตาปรานี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่เพื่อนมนุษย์ทุกหมู่เหล่า โดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทนใดๆ จนมีศิษยานุศิษย์มากมายทั่วประเทศ
เครื่องรางของท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในภาคเหนือ และมีประสบการณ์ความศักดิ์เข้มขลังก็คือ “ตะกรุด” ซึ่งมีหลายชนิด เช่น ตะกรุด 5 ดอก,9 ดอก,108 ดอก,ตะกรุดจำปาสี่ต้น,ตะกรุดคลอดลูกง่าย,ตะกรุดแหนบใบพลู และสีผึ้งน้ำมนต์ ,ชานหมาก และเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ปี2506 นอกจากนี้ ท่านยังมีความเชี่ยวชาญในเรื่องรักษาไข้และโหราศาสตร์ รวมทั้งมีพรพิเศษอีกประการหนึ่งคือ ท่านสามารถนั่งเทียนสะเดาะเคราะห์ เทียนให้โชคลาภ หรือนั่งเทียนเพื่อให้ชนะคดีความยามขึ้นโรงขึ้นศาล และในเรื่องอื่นๆ วาระสุดท้ายแห่งชีวิต ครูบาวังได้ละสังขารลงด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2516 เวลา 24.00 น. ณ โรงพยาบาลกำแพงเพชร ด้วยวัย 82 ปี พรรษาที่ 62 โดยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านเด่น 56 พรรษา
เป็นพระเถระที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติครบถ้วนในสมณสารูป มีความเมตตากรุณาแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยท่านได้สร้างวัดบ้านเด่นตั้งแต่ยังเป็นป่าดง จนกลายเป็นวัดที่เจริญรุ่งเรือง มีผู้รู้จักกว้างขวางอย่างที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากนั้น ยังได้สร้างพระเครื่องรางของขลังจนเป็นที่ยอมรับของลูกศิษย์ลูกหาว่าเป็นของดีที่มีคุณค่า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
โดย : ศิวิไล [Feedback +55 -0] [+36 -1] |
|
[ 1 ] Mon 19, Oct 2020 19:03:36
|
|
|
|
โดย : ศิวิไล [Feedback +55 -0] [+36 -1] |
|
[ 2 ] Mon 19, Oct 2020 19:03:51
|
|
|
|
โดย : ศิวิไล [Feedback +55 -0] [+36 -1] |
|
[ 3 ] Mon 19, Oct 2020 19:04:11
|
|
|
|
โดย : ศิวิไล [Feedback +55 -0] [+36 -1] |
|
[ 4 ] Mon 19, Oct 2020 19:04:37
|
|
|
|
|
|
|
|