"ไม่ว่า จะห่มเหลือง หรือห่มขาว ขอให้ยึดมั่น ต่อคุณงามความดี เท่านั้น ความเป็นพระนั้นอยู่ในใจไม่ใช่สีของจีวร "
ครูบาขาวปี ท่านเป็นศิษย์เอก ของต๋นบุญแดนล้านนา ครูบาเจ้าศรีวิชัย
ตลอดเวลาในการบวชของท่าน มักจะถูกกลั่นแกล้ง จนต้องสึกครองผ้าขาว ถึง 3 ครั้ง
(ครั้งแรก )ถูกจับสึกในข้อหา หนีการเกณท์ทหาร ซึ่งท่านได้ติดคุก และในขณะนั้นท่านก็ สร้างโรงพยาบาลลำพูนจนแล้วเสร็จ และหลังจากออกคุกมาแล้ว ครูบาศรีวิชัย ก็บวชให้ท่านอีกครั้ง แล้วท่านก็ ไปบูรณะวัดวาอารามต่างๆ ท่านก็ถูกกลั่นแกล้งในข้อหา เรี่ยไร เงิน สร้างโบสถ์ จึงถูกจับสึกเป็นครั้งที่สอง
และ ท่านเป็นกำลังหลัก ในการช่วยครูบาศรีวิชัย สร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ จนต่อมาครูบาศรีวิชัย ต้องอธกรณ์ ทำให้ท่านต้องสึกอีกครั้งเป็นครั้งที่สาม และท่านก็คงนุ่งขาวห่มขาวตลอดมา พร้อมการปฎิบัติ ถือศีลเหมือนพระภิกษุ ทุกประการ ด้วยข้อวัตรการปฏิบัติที่เคร่งครัด ทำให้มีความศรัทธาเลื่อมใสในสาธุชน เป็นอย่างมาก จนถึงวันที่ท่านละสังขาร
แม้ในปัจจุบัน ท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่สรีทิพย์ท่านคงไม่เน่า และเป็นที่สักการะของสาธุชน และในวัน ที่ 3 มีนา ของทุกๆปี ก็จะมีประเพณีในการเปลี่ยนจีวรของท่าน ซึ่งเราจะเห็นได้จาก จะมีคลื่นสาธุชนหลั่งไหล มากราบสัการะองค์สรีระทิพย์ท่านเป้ฯอย่างมาก ครับ
เป็นเหรียญหลักยอดนิยม อันดับต้นๆ ของภาคเหนือ
ที่ออกแบบได้สวยงาม โดยช่างเกษม มงคลเจริญ
จัดสร้างโดย (ดาบตำรวจ เกรียงไกร ธิสิงค์ หรือชาวบ้าน จะเรียกกันว่า ลุงหนานแก้ว)
เพื่อปัจจัยในการสร้างวิหาร วัดดอนแก้ว ในปัจจุบัน ( วัดดอนแก้ว นี้ถือว่าเป็น วัดประจำตำบลบ้านปวง ทำให้ คนรอบนอก เรียกเหรียญ รุ่นนี้ ว่าเหรียญบ้านปวง กันจนติดปาก )
จัดสร้าง 2 เนื้อ คือ เนื้อทองแดง และเนื้อเงิน
สำหรับจำนวนการสร้าง เนื้อทองแดง 10000 เหรียญ ในยุคนั้น พ.ศ 2518 บูชา เหรียญล่ะ 20 บาท
ส่วนเนื้อเงิน จัดสร้าง 100 เหรียญ บูชา เหรียญล่ะ 100 บาท
ถือว่าเป็นเหรียญยอดนิยม น่าสะสมอีกรุ่น ที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์ ซึ่งตัวผมเอง เป็นคนพื้นที่ ต่างก็ทราบประสบการณ์ บอกเล่า จากชาวบ้าน มามากมายครับ