โชว์พระเกจิอาจารย์ล้านนา
เกษาครูบาแก้ว วัดน้ำจำ หลังอึง รุ่นแรก
|
|
|
|
|
|
พระเกศา ครูบาแก้ว วัดน้ำจำ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เกจิอาจารย์รุ่นเดียวกันกับครูบาเจ้าศรีวิชัย รุนแรก พิมพ์หลังอึ่งสวยเดิมๆ
.....ประวัติเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับครูบาแก้ว ครูบาแก้ว ท่านเป็นพระอาจารย์สอนกัมมัฏฐานของ หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล เกิดเมื่อปีพ.ศ. 2414 บวชตั้งแต่เด็ก จนกระทั้งมรณะภาพเมื่อปีพ.ศ. 2508 ร่วมยุคสมัยกับ ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ครูบาแก้ว หรื่อพระครูแก้ว ชยเสโน ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดน้ำจำ เจ้าคณะตำบลห้วยทราย-ร้องวัวแดง และเป็นพระอุปัชฌาย์ในเขตปกครองท้องถิ่นอำเภอสันกำแพงเมื่อในอดีต ลูกศิษย์ที่บวชกับท่านจึงมีอยู่มากมาย และท่านยั่งเป็นบูชนียบุคคลอันเป็นที่เคารพนับถือและเลื่อมใสศรัทธาของชาว อำเภอสันกำแพง
บารมีครูบาชัยยะเสนา วัดน้ำจำ สันกำแพง เชียงใหม่ ท่านครูบาวัดน้ำจำ ท่านนี้เป็นพระปรมาจารย์แห่งล้านนาในอดีตอย่างแท้จริง เป็นผู้ที่มีอาคมแข็งกล้า มีอำนาจจิตบารมีสูง เชี่ยวชาญศาสตร์วิชาหลายแขนง เชี่ยวชาญวิปัสสนาธุระเป้ยอย่างยิ่ง เป็นที่เคารพแก่คนทั้งหลาย แม้กระทั่งครูบาเจ้าศรีวิชัยยังสรรเสริญในความรู้ และปฏิปทาในวัตรปฏิบัติของท่าน ครู บาแก้วท่านเป็นพระที่มักน้อย สันโดษ สงบ และเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ในเชียงใหม่เมื่อกาลนั้น ลูกศิษย์ลูกหามากมายที่มาเรียนวิชาจากท่าน ท่านมีมากจนต้องศึกษากันหลายๆปี จึงจะสำเร็จ ในบรรดาลูกศิษย์ที่เราๆรู้จักกันดีในสมัยต่อมาก็คือ หลวงปู่ครูบาคำแสน คุณาลงฺกาโร วัดป่าดอนมูล นั่นเอง ซึ่งหลวงปุ่ครูบาแก้วท่านเป็นพระจตุกรรมวาจาจารย์แก่หลวงปู่คำแสน ตอนที่อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ลำพังหลวงปู่คำแสนเองต้องไปเรียนวิชาต่างๆ กับครุบาแก้วหลายปีด้วยกันหลังจากที่อุปสมบทแล้ว สำหรับวัตถุมงคลของครูบาแก้วท่านนั้นมีไม่มากมายนัก ส่วนมากท่านไม่มีเจตนาที่จะสร้างด้วยเจตนาของท่านเอง นอกจากบางครั้งที่ชาวบ้านมาขอบารมีท่านสร้าง แต่มีจำนวนน้อยมาก วัตถุมงคลยุคนั้นได้แก่ ผ้ายันต์ ผ้ายันต์นกคุ่มเขียนมือ เสื้อยันต์ พระเนื้อตะกั่วผสมฟันของท่าน และพระผงพิมพ์รูปเหมือน 108 พิมพ์หลังอึ่งผสมผงใบลาน ซึ่งวัตถุมงคลแต่ละรุ่นล้วนเป็นที่เสาะแสวงหาของคนทั้งหลาย โดยเฉพาะวัตถุมงคลยุคแรกๆ นั้นหายากยิ่ง นอกจากนั้นก็มีพระผงรูปเหมือนเนื้อผงใบลานผสมเส้นเกศา ผงพลอย และเถ้าอัฐิของครูบาท่าน จากนั้นก้มีเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก พระรอด และพระผงรุ่นหลังที่ทางวัดสร้างขึ้น ซึ่งแต่ละรุ่นก็ได้รับความนิยมจากพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเชื่อในบารมี และศรัทธาในตัวครูบาแก้วท่าน ซึ่งก็สร้างกันขึ้นมาตามธรรมเนียม รักและศรัทธาท่านก็สร้างรูปท่านไว้บูชาเหมือนดังพระผงผสมเกศาของครูบาเจ้า ศรีวิชัย ซึ่งในปัจจุบันกาลบางวัดก็ยังมีดำริสร้างกันอยู่ และก็ได้รับความนิยมตามสมควร ประวัติครูบาแก้ว วัดน้ำจำ หลวงปู่ครูบาแก้ว ท่านเกิดเมื่อวันอังคาร เดือน ๑๐ เหนือ ขึ้น ๑๒ ค่ำ ปีสัน (วอก) จศ.๑๒๓๔ ตรงกับพ.ศ. ๒๔๑๔ ณ.บ้านน้ำจำ ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เป็นบุตรคนที่ ๖ ในจำนวนพี่น้อง ๑๑ คน ของพ่อหนานนันตา แม่แสงปิน สกุล ปินตาปิน อายุเพียง ๘ ขวบบิดาได้นำไปเป็นศิษย์เรียนหนังสือล้านนา สวดมนต์ กับครูบาคุณะ วัดน้ำจำ หัดสวดมนต์ ๗ ตำนาน ๑๒ ตำนาน ฝึกหัดเรียนเขียนอ่านตัวเมืองล้านนาตามสมัยนิยม พออายุได้ ๑๐ ขวบก้ได้บรรพชาเป็นสามเณร ลุถึงเมื่ออายุได้ ๒๑ ปีจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๙ เดือนกรกฏาคม พ.ศ.๒๔๒๔ โดยมี ครูบาพระศรีวิไชย วัดป่าเป้า เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ.พัทสีมาวัดดอนมูล ต.สันทรายมูล สันกำแพง มี พระทาริยะ วัดร้องวัวแดง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระพรหม วัดม่วงเขียว เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้กลับไปจำพรรษาที่วัดน้ำจำ จากนั้นไปศึกษาวิชาที่สำนักของพระครูรัตนปัญญาญาณ เจ้าคณะแขวงดอยสะเก็ด ซึ่งเป็นแหล่งธรรมศึกษาที่มีชื่อเสียง อยู่ศึกษาที่สำนักนี้ ๗ พรรษาด้วยกัน จากนั้นจึงต้องกลับมาจำพรรษาที่วัดน้ำจำ ตามนิมนต์ของชาวบ้านเพราะเจ้าอาวาสครูบาคุณะออกธุดงค์และไม่กลับมา ท่านทำหน้าที่ดูแลวัดน้ำจำแป็นเวลา ๔ พรรษา ครั้นเมื่ออกพรรษาในปี พ.ศ. ๒๔๔๒ ท่านครุบาหลวงวัดฝายหิน พระราชครูนครเชียงใหม่ พระอภัยสารทะสังฆปาโมก เจ้าคณะนครเชียงใหม่ได้เรียกท่านครูบาแก้วเข้าพบเพื่อแต่งตั้งให้เป็นเจ้า อาวาสต่อไป จนถึงปี พ.ศ.๒๔๕๓ ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะหมวด (ตำบล) ห้วยทราย และตำบลร้องวัวแดง และต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๓ เป็นได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ บวชพระภิกษุสามเณร ทั้งหลาย จนถึงปี พ.ศ.๒๔๙๙ จึงได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร ด้วยเวลาที่อยู่ในร่มกาสาวพัตรเป็นเวลาอันยาวนานและมีลูกศิษย์มากมาย อีกทั้งท่านเป็นพระอาจารย์ที่ทรงภูมิ ได้ศีกษาวิชามามากมาย เป็นที่เคารพและศรัทธาแก่คนทั้งหลายมาเป็นเวลานาน
จนเวลาล่วงถึงวันที่ ๑๖ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ ครูบาแก้ว ชยเสโน ท่านก็ละสังขารไปโดยสงบ รวมสิริอายุได้ ๙๔ ปี พรรษา ๗๔ ศิษยานุศิษย์ได้จัดการทำบุญฌาปนกิจศพของท่าน เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๐๙
|
|
|
|
|
|
|
|
|
พระเกศา ครูบาแก้ว วัดน้ำจำ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เกจิอาจารย์รุ่นเดียวกันกับครูบาเจ้าศรีวิชัย รุนแรก พิมพ์หลังอึ่งสวยเดิมๆ
.....ประวัติเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับครูบาแก้ว ครูบาแก้ว ท่านเป็นพระอาจารย์สอนกัมมัฏฐานของ หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล เกิดเมื่อปีพ.ศ. 2414 บวชตั้งแต่เด็ก จนกระทั้งมรณะภาพเมื่อปีพ.ศ. 2508 ร่วมยุคสมัยกับ ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ครูบาแก้ว หรื่อพระครูแก้ว ชยเสโน ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดน้ำจำ เจ้าคณะตำบลห้วยทราย-ร้องวัวแดง และเป็นพระอุปัชฌาย์ในเขตปกครองท้องถิ่นอำเภอสันกำแพงเมื่อในอดีต ลูกศิษย์ที่บวชกับท่านจึงมีอยู่มากมาย และท่านยั่งเป็นบูชนียบุคคลอันเป็นที่เคารพนับถือและเลื่อมใสศรัทธาของชาว อำเภอสันกำแพง
บารมีครูบาชัยยะเสนา วัดน้ำจำ สันกำแพง เชียงใหม่ ท่านครูบาวัดน้ำจำ ท่านนี้เป็นพระปรมาจารย์แห่งล้านนาในอดีตอย่างแท้จริง เป็นผู้ที่มีอาคมแข็งกล้า มีอำนาจจิตบารมีสูง เชี่ยวชาญศาสตร์วิชาหลายแขนง เชี่ยวชาญวิปัสสนาธุระเป้ยอย่างยิ่ง เป็นที่เคารพแก่คนทั้งหลาย แม้กระทั่งครูบาเจ้าศรีวิชัยยังสรรเสริญในความรู้ และปฏิปทาในวัตรปฏิบัติของท่าน ครู บาแก้วท่านเป็นพระที่มักน้อย สันโดษ สงบ และเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ในเชียงใหม่เมื่อกาลนั้น ลูกศิษย์ลูกหามากมายที่มาเรียนวิชาจากท่าน ท่านมีมากจนต้องศึกษากันหลายๆปี จึงจะสำเร็จ ในบรรดาลูกศิษย์ที่เราๆรู้จักกันดีในสมัยต่อมาก็คือ หลวงปู่ครูบาคำแสน คุณาลงฺกาโร วัดป่าดอนมูล นั่นเอง ซึ่งหลวงปุ่ครูบาแก้วท่านเป็นพระจตุกรรมวาจาจารย์แก่หลวงปู่คำแสน ตอนที่อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ลำพังหลวงปู่คำแสนเองต้องไปเรียนวิชาต่างๆ กับครุบาแก้วหลายปีด้วยกันหลังจากที่อุปสมบทแล้ว สำหรับวัตถุมงคลของครูบาแก้วท่านนั้นมีไม่มากมายนัก ส่วนมากท่านไม่มีเจตนาที่จะสร้างด้วยเจตนาของท่านเอง นอกจากบางครั้งที่ชาวบ้านมาขอบารมีท่านสร้าง แต่มีจำนวนน้อยมาก วัตถุมงคลยุคนั้นได้แก่ ผ้ายันต์ ผ้ายันต์นกคุ่มเขียนมือ เสื้อยันต์ พระเนื้อตะกั่วผสมฟันของท่าน และพระผงพิมพ์รูปเหมือน 108 พิมพ์หลังอึ่งผสมผงใบลาน ซึ่งวัตถุมงคลแต่ละรุ่นล้วนเป็นที่เสาะแสวงหาของคนทั้งหลาย โดยเฉพาะวัตถุมงคลยุคแรกๆ นั้นหายากยิ่ง นอกจากนั้นก็มีพระผงรูปเหมือนเนื้อผงใบลานผสมเส้นเกศา ผงพลอย และเถ้าอัฐิของครูบาท่าน จากนั้นก้มีเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก พระรอด และพระผงรุ่นหลังที่ทางวัดสร้างขึ้น ซึ่งแต่ละรุ่นก็ได้รับความนิยมจากพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเชื่อในบารมี และศรัทธาในตัวครูบาแก้วท่าน ซึ่งก็สร้างกันขึ้นมาตามธรรมเนียม รักและศรัทธาท่านก็สร้างรูปท่านไว้บูชาเหมือนดังพระผงผสมเกศาของครูบาเจ้า ศรีวิชัย ซึ่งในปัจจุบันกาลบางวัดก็ยังมีดำริสร้างกันอยู่ และก็ได้รับความนิยมตามสมควร ประวัติครูบาแก้ว วัดน้ำจำ หลวงปู่ครูบาแก้ว ท่านเกิดเมื่อวันอังคาร เดือน ๑๐ เหนือ ขึ้น ๑๒ ค่ำ ปีสัน (วอก) จศ.๑๒๓๔ ตรงกับพ.ศ. ๒๔๑๔ ณ.บ้านน้ำจำ ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เป็นบุตรคนที่ ๖ ในจำนวนพี่น้อง ๑๑ คน ของพ่อหนานนันตา แม่แสงปิน สกุล ปินตาปิน อายุเพียง ๘ ขวบบิดาได้นำไปเป็นศิษย์เรียนหนังสือล้านนา สวดมนต์ กับครูบาคุณะ วัดน้ำจำ หัดสวดมนต์ ๗ ตำนาน ๑๒ ตำนาน ฝึกหัดเรียนเขียนอ่านตัวเมืองล้านนาตามสมัยนิยม พออายุได้ ๑๐ ขวบก้ได้บรรพชาเป็นสามเณร ลุถึงเมื่ออายุได้ ๒๑ ปีจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๙ เดือนกรกฏาคม พ.ศ.๒๔๒๔ โดยมี ครูบาพระศรีวิไชย วัดป่าเป้า เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ.พัทสีมาวัดดอนมูล ต.สันทรายมูล สันกำแพง มี พระทาริยะ วัดร้องวัวแดง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระพรหม วัดม่วงเขียว เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้กลับไปจำพรรษาที่วัดน้ำจำ จากนั้นไปศึกษาวิชาที่สำนักของพระครูรัตนปัญญาญาณ เจ้าคณะแขวงดอยสะเก็ด ซึ่งเป็นแหล่งธรรมศึกษาที่มีชื่อเสียง อยู่ศึกษาที่สำนักนี้ ๗ พรรษาด้วยกัน จากนั้นจึงต้องกลับมาจำพรรษาที่วัดน้ำจำ ตามนิมนต์ของชาวบ้านเพราะเจ้าอาวาสครูบาคุณะออกธุดงค์และไม่กลับมา ท่านทำหน้าที่ดูแลวัดน้ำจำแป็นเวลา ๔ พรรษา ครั้นเมื่ออกพรรษาในปี พ.ศ. ๒๔๔๒ ท่านครุบาหลวงวัดฝายหิน พระราชครูนครเชียงใหม่ พระอภัยสารทะสังฆปาโมก เจ้าคณะนครเชียงใหม่ได้เรียกท่านครูบาแก้วเข้าพบเพื่อแต่งตั้งให้เป็นเจ้า อาวาสต่อไป จนถึงปี พ.ศ.๒๔๕๓ ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะหมวด (ตำบล) ห้วยทราย และตำบลร้องวัวแดง และต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๓ เป็นได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ บวชพระภิกษุสามเณร ทั้งหลาย จนถึงปี พ.ศ.๒๔๙๙ จึงได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร ด้วยเวลาที่อยู่ในร่มกาสาวพัตรเป็นเวลาอันยาวนานและมีลูกศิษย์มากมาย อีกทั้งท่านเป็นพระอาจารย์ที่ทรงภูมิ ได้ศีกษาวิชามามากมาย เป็นที่เคารพและศรัทธาแก่คนทั้งหลายมาเป็นเวลานาน
จนเวลาล่วงถึงวันที่ ๑๖ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ ครูบาแก้ว ชยเสโน ท่านก็ละสังขารไปโดยสงบ รวมสิริอายุได้ ๙๔ ปี พรรษา ๗๔ ศิษยานุศิษย์ได้จัดการทำบุญฌาปนกิจศพของท่าน เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๐๙
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 1 ] Thu 4, Jan 2018 12:14:07
|
|
|
|
พระเกศา ครูบาแก้ว วัดน้ำจำ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เกจิอาจารย์รุ่นเดียวกันกับครูบาเจ้าศรีวิชัย รุนแรก พิมพ์หลังอึ่งสวยเดิมๆ
.....ประวัติเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับครูบาแก้ว ครูบาแก้ว ท่านเป็นพระอาจารย์สอนกัมมัฏฐานของ หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล เกิดเมื่อปีพ.ศ. 2414 บวชตั้งแต่เด็ก จนกระทั้งมรณะภาพเมื่อปีพ.ศ. 2508 ร่วมยุคสมัยกับ ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ครูบาแก้ว หรื่อพระครูแก้ว ชยเสโน ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดน้ำจำ เจ้าคณะตำบลห้วยทราย-ร้องวัวแดง และเป็นพระอุปัชฌาย์ในเขตปกครองท้องถิ่นอำเภอสันกำแพงเมื่อในอดีต ลูกศิษย์ที่บวชกับท่านจึงมีอยู่มากมาย และท่านยั่งเป็นบูชนียบุคคลอันเป็นที่เคารพนับถือและเลื่อมใสศรัทธาของชาว อำเภอสันกำแพง
บารมีครูบาชัยยะเสนา วัดน้ำจำ สันกำแพง เชียงใหม่ ท่านครูบาวัดน้ำจำ ท่านนี้เป็นพระปรมาจารย์แห่งล้านนาในอดีตอย่างแท้จริง เป็นผู้ที่มีอาคมแข็งกล้า มีอำนาจจิตบารมีสูง เชี่ยวชาญศาสตร์วิชาหลายแขนง เชี่ยวชาญวิปัสสนาธุระเป้ยอย่างยิ่ง เป็นที่เคารพแก่คนทั้งหลาย แม้กระทั่งครูบาเจ้าศรีวิชัยยังสรรเสริญในความรู้ และปฏิปทาในวัตรปฏิบัติของท่าน ครู บาแก้วท่านเป็นพระที่มักน้อย สันโดษ สงบ และเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ในเชียงใหม่เมื่อกาลนั้น ลูกศิษย์ลูกหามากมายที่มาเรียนวิชาจากท่าน ท่านมีมากจนต้องศึกษากันหลายๆปี จึงจะสำเร็จ ในบรรดาลูกศิษย์ที่เราๆรู้จักกันดีในสมัยต่อมาก็คือ หลวงปู่ครูบาคำแสน คุณาลงฺกาโร วัดป่าดอนมูล นั่นเอง ซึ่งหลวงปุ่ครูบาแก้วท่านเป็นพระจตุกรรมวาจาจารย์แก่หลวงปู่คำแสน ตอนที่อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ลำพังหลวงปู่คำแสนเองต้องไปเรียนวิชาต่างๆ กับครุบาแก้วหลายปีด้วยกันหลังจากที่อุปสมบทแล้ว สำหรับวัตถุมงคลของครูบาแก้วท่านนั้นมีไม่มากมายนัก ส่วนมากท่านไม่มีเจตนาที่จะสร้างด้วยเจตนาของท่านเอง นอกจากบางครั้งที่ชาวบ้านมาขอบารมีท่านสร้าง แต่มีจำนวนน้อยมาก วัตถุมงคลยุคนั้นได้แก่ ผ้ายันต์ ผ้ายันต์นกคุ่มเขียนมือ เสื้อยันต์ พระเนื้อตะกั่วผสมฟันของท่าน และพระผงพิมพ์รูปเหมือน 108 พิมพ์หลังอึ่งผสมผงใบลาน ซึ่งวัตถุมงคลแต่ละรุ่นล้วนเป็นที่เสาะแสวงหาของคนทั้งหลาย โดยเฉพาะวัตถุมงคลยุคแรกๆ นั้นหายากยิ่ง นอกจากนั้นก็มีพระผงรูปเหมือนเนื้อผงใบลานผสมเส้นเกศา ผงพลอย และเถ้าอัฐิของครูบาท่าน จากนั้นก้มีเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก พระรอด และพระผงรุ่นหลังที่ทางวัดสร้างขึ้น ซึ่งแต่ละรุ่นก็ได้รับความนิยมจากพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเชื่อในบารมี และศรัทธาในตัวครูบาแก้วท่าน ซึ่งก็สร้างกันขึ้นมาตามธรรมเนียม รักและศรัทธาท่านก็สร้างรูปท่านไว้บูชาเหมือนดังพระผงผสมเกศาของครูบาเจ้า ศรีวิชัย ซึ่งในปัจจุบันกาลบางวัดก็ยังมีดำริสร้างกันอยู่ และก็ได้รับความนิยมตามสมควร ประวัติครูบาแก้ว วัดน้ำจำ หลวงปู่ครูบาแก้ว ท่านเกิดเมื่อวันอังคาร เดือน ๑๐ เหนือ ขึ้น ๑๒ ค่ำ ปีสัน (วอก) จศ.๑๒๓๔ ตรงกับพ.ศ. ๒๔๑๔ ณ.บ้านน้ำจำ ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เป็นบุตรคนที่ ๖ ในจำนวนพี่น้อง ๑๑ คน ของพ่อหนานนันตา แม่แสงปิน สกุล ปินตาปิน อายุเพียง ๘ ขวบบิดาได้นำไปเป็นศิษย์เรียนหนังสือล้านนา สวดมนต์ กับครูบาคุณะ วัดน้ำจำ หัดสวดมนต์ ๗ ตำนาน ๑๒ ตำนาน ฝึกหัดเรียนเขียนอ่านตัวเมืองล้านนาตามสมัยนิยม พออายุได้ ๑๐ ขวบก้ได้บรรพชาเป็นสามเณร ลุถึงเมื่ออายุได้ ๒๑ ปีจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๙ เดือนกรกฏาคม พ.ศ.๒๔๒๔ โดยมี ครูบาพระศรีวิไชย วัดป่าเป้า เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ.พัทสีมาวัดดอนมูล ต.สันทรายมูล สันกำแพง มี พระทาริยะ วัดร้องวัวแดง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระพรหม วัดม่วงเขียว เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้กลับไปจำพรรษาที่วัดน้ำจำ จากนั้นไปศึกษาวิชาที่สำนักของพระครูรัตนปัญญาญาณ เจ้าคณะแขวงดอยสะเก็ด ซึ่งเป็นแหล่งธรรมศึกษาที่มีชื่อเสียง อยู่ศึกษาที่สำนักนี้ ๗ พรรษาด้วยกัน จากนั้นจึงต้องกลับมาจำพรรษาที่วัดน้ำจำ ตามนิมนต์ของชาวบ้านเพราะเจ้าอาวาสครูบาคุณะออกธุดงค์และไม่กลับมา ท่านทำหน้าที่ดูแลวัดน้ำจำแป็นเวลา ๔ พรรษา ครั้นเมื่ออกพรรษาในปี พ.ศ. ๒๔๔๒ ท่านครุบาหลวงวัดฝายหิน พระราชครูนครเชียงใหม่ พระอภัยสารทะสังฆปาโมก เจ้าคณะนครเชียงใหม่ได้เรียกท่านครูบาแก้วเข้าพบเพื่อแต่งตั้งให้เป็นเจ้า อาวาสต่อไป จนถึงปี พ.ศ.๒๔๕๓ ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะหมวด (ตำบล) ห้วยทราย และตำบลร้องวัวแดง และต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๓ เป็นได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ บวชพระภิกษุสามเณร ทั้งหลาย จนถึงปี พ.ศ.๒๔๙๙ จึงได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร ด้วยเวลาที่อยู่ในร่มกาสาวพัตรเป็นเวลาอันยาวนานและมีลูกศิษย์มากมาย อีกทั้งท่านเป็นพระอาจารย์ที่ทรงภูมิ ได้ศีกษาวิชามามากมาย เป็นที่เคารพและศรัทธาแก่คนทั้งหลายมาเป็นเวลานาน
จนเวลาล่วงถึงวันที่ ๑๖ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ ครูบาแก้ว ชยเสโน ท่านก็ละสังขารไปโดยสงบ รวมสิริอายุได้ ๙๔ ปี พรรษา ๗๔ ศิษยานุศิษย์ได้จัดการทำบุญฌาปนกิจศพของท่าน เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๐๙
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 2 ] Thu 4, Jan 2018 12:22:29
|
|
|
|
สุขสันต์วันเกิด!!! ขอบารมีครูบาจันต๊ะ คุ้มครองให้พบแต่ความสุขสมหวังตลอดไปนะครับ!!! รวยๆๆๆ เฮงๆๆๆ
สุขสันต์วันเกิด!!! ขอบารมีหลวงปู่สุข คุ้มครองให้พบแต่
ความสุขสมหวังตลอดไปนะครับ!!! รวยๆๆๆ เฮงๆๆๆ
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 3 ] Wed 17, Jan 2018 10:02:12
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 4 ] Wed 17, Jan 2018 10:19:00
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 5 ] Wed 17, Jan 2018 10:19:26
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 6 ] Wed 17, Jan 2018 10:19:56
|
|
|
|
ขอให้มีความสุขมากๆครับ
อย่าเจ็บอย่าจนอย่าป่วย
รวยรวยรวย เฮงเฮงเฮง
ตลอดทั้งปีครับ
คิดนึกหวังสิ่งใดๆก็ขอให้
สุขสมหวังทุกๆประการครับ
สุขสันต์วันเกิด!!! ขอบารมีครูบาจันต๊ะคุ้มครองให้พบแต่ความสุขสมหวัง ตลอดไปนะครับ !!! รวยๆๆๆ เฮงๆๆๆ
สุขสันต์วันเกิด!!! ขอบารมีหลวงปู่สุข คุ้มครองให้พบแต่ความสุขสมหวังตลอดไปนะครับ!!! รวยๆๆๆ เฮงๆๆๆ
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 7 ] Thu 3, May 2018 11:42:15
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 8 ] Fri 8, Jun 2018 13:23:04
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 9 ] Fri 8, Jun 2018 13:25:13
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 10 ] Mon 20, Aug 2018 12:03:43
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 11 ] Sat 1, Sep 2018 14:38:24
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 12 ] Mon 4, Mar 2019 13:31:03
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 13 ] Thu 28, Mar 2019 11:20:59
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 14 ] Thu 28, Mar 2019 11:21:33
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 15 ] Wed 3, Apr 2019 16:45:38
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 16 ] Wed 3, Apr 2019 16:46:11
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 17 ] Wed 3, Apr 2019 16:46:43
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 18 ] Wed 3, Apr 2019 16:47:18
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 19 ] Wed 3, Apr 2019 16:48:00
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 20 ] Mon 8, Apr 2019 21:26:35
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 21 ] Mon 24, Jun 2019 17:33:19
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 22 ] Mon 24, Jun 2019 17:33:56
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 23 ] Mon 24, Jun 2019 17:34:24
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 24 ] Sun 1, Sep 2019 16:39:25
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 25 ] Sun 1, Sep 2019 16:40:33
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 26 ] Mon 16, Sep 2019 20:56:53
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 27 ] Tue 1, Oct 2019 16:20:39
|
|
|
|
ทำแบบนี้ไว้้ใช่จะเปิงก่ครับ
ครูบาแก้ว วัดน้ำจำ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
1.พระเกศาพิมพ์หลังอื่ง รุ่นแรก
2.พระเกษาพิมพ์รูปเหมือน ครูบาเจ้าศรีวิชัย
ดูรวมๆแล้วมีเสน่
เจอแบบนี้แล้วต้องรีบเก็บ ก่อนที่จะแพง
ค่อยๆเก็บตามกำลัง ด้วยแรงศรัทธา
อีกไม่นานก็คงเป็นตำนานครับ
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 28 ] Mon 14, Oct 2019 14:30:46
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 29 ] Mon 14, Oct 2019 14:31:42
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 30 ] Mon 14, Oct 2019 14:32:27
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 31 ] Mon 14, Oct 2019 14:33:15
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 32 ] Mon 14, Oct 2019 14:33:43
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 33 ] Mon 14, Oct 2019 14:34:29
|
|
|
|
โดย : keang [Feedback +4 -1] [+0 -0] |
|
[ 34 ] Sun 16, Feb 2020 17:46:54
|
|
|
|
|
|
|
|