คต คือ หินที่เกิดจากในพืช หรือสัตว์ เป็นของทนสิทธิ์ ประเเภทกายสิทธิ์ในตัวเอง บางอย่างมีเทพสถิตรักษาบางอย่างก็ไม่มีเทพสถิตรักษาเป็นของอาถรรพืมีฤทธิ์รองจากเหล็กไหล แต่กลับมีอิทธิคุณบางอย่างที่ดีกว่าชนิดที่หลายๆคนไม่คลายถึงความวิเศษนี้มีผู้รู้ในอดีตบกบิดไว้เป็นความลับทำให้ผุ้นิยมในธาตุกายสิทธิ์เข้าใจผิดคิดไปกันว่าอนุภาพของคดด้อยกว่าเหล็กไหล เป็นความจริงเหล็กไหลชั้สูงที่เกิดจากเล่นแร่แปรธาตุของเหล่าฤาษีผู้ทรงอภิญา เมี่อละสังขารแล้วจิตก็ผูกพันกับสิ่งเหล่านี้ ส่วนคดนั้นมีกำเนิดลี้ลับมหัศจรรย์ที่ผู้รู้ในอดีตท่านปกบิดไว้บันทึกมีอยู่สองชนิดคือ
1 . คดที่เกิดจากพืช เป็นของกายสิทธิ์ที่เชื่อกันว่าสวรรค์บัญชาบันดาลให้เกิดโดยเทพผู้ทรงอิทธิฤทธิ์เนรมิตขึ้นมามอบให้เฉพาะผู้มีวาสนาครอบครองเป็นของคู่คนมีบุญเฉพาะคน เช่น คตขนุน คตมะพร้าว คตขมิ้น คตมะขาม คตส้มป่อย เป็นต้น
2 . คตที่เกิดจากสัตว์ (ส่วนที่เกิดจากมนุษย์ไม่ขอกล่าวถึง) มีกำเนิดมาจากบุพกรรมของสัตว์ของชนิดนั้นๆ เทวานางฟ้าที่กระทำผิดสวรรค์บางประการ แล้วถูกลงโทษทัณฑ์ให้เกิดลงมาเกิดเป็นสัตว์ชนิดต่างๆ ตามผลผลกรรมของตนจะบัณดารให้ไปเกิดเมื่อหมดกรรมแล้วก็จะอธิฐานร่างให้เป็นของกายสิทธิ์อันเป็นการส้รางทานบารมีก่อนที่จะกลับขึ้นไปบนสวรรค์ดังเดิมเช่น คตหอย คตกุ้ง คตดักแด้ คตไข่ไก่ เป็นต้น
ส่วนคตประเภทที่เป็นเขา เขี้ยว หรือลูกตา จะเกิดมาพร้อมกับชีวิตของสัตว์เหล่านั้นเป็นของคู่บารมีของสัตว์ตนนั้น เพื่อได้รับการปกป้องคุ้มครองชีวิต และร่างกายให้ปลอดภัยจนกว่าสัตว์ตัวนั้นจะหมดกรรมลง เช่น เขากวางคุต เขากระจง เขี้ยวหมูตัน ฟันเสือกวง งาช้างกวง คตเขี้ยวจระเข้ คตเขี้ยวสิงโต และเพชรตาแมว เป็นต้น อนุภาของคตนั้นเป็นของวิเศษมีอิทธิฤทธิ์คุณรอบตัวคล้ายดังเหล็กไหล แต่ที่กล่าวว่าดีกว่าเหล็กไหลก็คือ คตนั้นจะแผ่พลังปราณออกมาปกป้องคุ้มครองผู้เป็นเจ้าของโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เรียกว่าจะดีจะชั่วอย่างไรฉันก็จะคุ้มครองช่วยเหลือ จนกว่าจะตายจากกันไปเลยทีเดียว
ขอขอบคุณหนังสือ อมตะเครื่องรางแดนล้านนา
ด้วยความเชื่อในเรื่องคตที่มีอิทธิคุณครอบคลุมไปในทุกๆด้าน ทำให้มีผู้คนต่างเเสวงหาเพื่อที่จะได้มาครอบครอง แต่จะมีสักกี่
ชิ้นที่เป็นของ"จริงแท้" ผมจึงขอขนานนามคตงาช้างโบราณชิ้นนี้ว่า "โคตรเครื่องรางแห่งสยาม"