เหรียญครูบาศรีอริยวังโส รุ่นแรก ปี ๒๕๑๓ วัดป่าบุก
สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ทำพิธี ณ วิหารวัดป่าบุก โดยมีวัตถุมงคลที่สร้างพร้อมกันคือ พระกริ่ง และพระผงเกศา เหรียญรุ่น ๑ และพระผง โดยมีคณาจารย์ร่วมพีธีปลุกเสกอาทิเช่น
ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ป่าซาง
ครูบาแสง วัดร่องช้าง ป่าซาง
ครูบาจ๋อน วัดป่าตาล ป่าซาง
ครูบาหวัน วัดป่าเหียง ป่าซาง
ครูบาตุ่น วัดบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว ป่าซาง
และเกจิคณาจารย์อีกหลายๆท่าน รวมแล้วประมาณ ๑๗ ท่าน ( ๑๗ วัด )
ประวัติท่านครูบาศรี อริยวังโส
ท่านครูบาศรี อริยวังโส นามเดิมชื่อ ศรีวงษ์ จันทร์แรง เกิดวันเสาร์ ๑๐ ธันวาคม ๒๔๔๐ ณ บ้านต้นผึ้ง ม.๓ ต.แม่แรง อ.ปากบ่อง(ปัจจุบัน อ.ป่าซาง) จังหวัดลำพูน ครูบาศรีเป็นเด็กวัดได้ ๑ ปี เมื่ออายุย่างเข้า ๑๕ ปี พ.ศ. ๒๔๕๕ ก็บวชสามเณรที่วัดป่าบุก โดยมีพระครูวัดสันกำแพงงาม ต.มะกอก อ. ป่าซาง เป็นพระอุปัชฌาย์
ท่านครูบาศรีเป็นสามเณรได้ ๕ ปีเมื่ออายุครบ ๒๐ ปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ตรงกับสงครามโลกครั้งที่ ๑ ท่านครูบาศรีก็ได้อุปสมบทเป็นภิกษุ ณ พัทธสีมาที่อุโบสถวัดดอนตอง มีท่านพระครูวัดดอนน้อยเป็นกรรมวาจาจารย์ พระอธิการแสน ณาณวุฒิ วัดหนองเงือกเป็นอนุสาวนาจารย์ หลังจากเป็นเป็นภิกษุแล้วท่านก็ได้ศึกษาธรรมะและปฎิบัติธรรมวินัยอย่างเคร่ง ครัด
อนิจจาวตสังขารา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ท่านครูบาศรีรู้ตัวว่าจะมีอายุไม่ถึง ๖๐ ปี จะต้องตายแน่นอน เนื่องจากโรคริดสีดวงทวารมันกำเริบมากทุกวัน เหลือทนที่จะอยู่ต่อไปได้ พญามัจจุราชก็รีบเร่งให้ปลงสังขารเข้าสู่นิพพานเสียเถิด ก่อนมรณภาพวันที่ ๒๐ ก.พ. ๒๔๙๔
เก็บศพได้ ๗ วันเกิดอภินิหารย์ คณะศรัทธา ครูบาอาจารย์ศิษย์ยานุศิษย์ก็ได้ทำพิธีเก็บศพท่านครูบาศรีไว้ที่กุฏิซึ่ง เป็น ที่นอนเดิมของท่าน พอถึงวันที่ ๒๘ ก.พ. ๒๔๙๔ ไมพระภิกษุสามเณรที่อยู่ที่วัดก็ได้ทำวัตรเย็นบนกุฎิ ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นและมีแสงสว่างไสวไปทั่วกุฏิเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ทำให้พระภิกษุสามเณรทั้งหลายพากันตกตลึงไปตามๆกัน จึงพากันวิ่งออกมาดูก็เห็นเป็นแสงสีเขียวขาวพุ่งขึ้นสูอากาศ แล้วก็ลอยไปทางตัวเมืองลำพูน ทิศตะวันออกแล้วก็หายไป พอถึงวันเดือนเพ็ญหรือเดือนดับขึ้น ๑๕ ค่ำ และแรม ๑๕ ค่ำ ก็มักจะมีแสงสว่างพุ่งขึ้น จึงเป็นที่ประหลาดกับผู้ที่ได้พบเห็น ว่าเป็นธาตุของท่านครูบาศรีนั่นเอง ท่านเป็นอรหันต์แล้ว คณะศรัทธาจึงประชุมตกลงกันเก็บศพของท่านครูบาศรีไว้นานถึง ๘ เดือนเศษ
เกิดอภินิหารย์มีแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนประชุมเพลิง ๑ วัน
ประชุมเสร็จ อัฐิกลายเป็นพระธาตุ ส่วนกระดูกของท่านบางชิ้นก็เกิดเป็นแก้วไปหมดเช่น กระดูกมือ กระดูกเท้าเกิดกลายเป็นแก้วไปหมด แก้วนั้นมีสีคล้ายกับยางไม้ฉำฉา(ก้ามปู) สีเหลืองๆหม่นๆ เดี๋ยวนี้ยังเก็บใส่หม้อบรรจุไว้บนหอสรงน้ำนั่นเอง เวลานี้อัฐิของท่านที่กลายเป็นธาตุมี ๒๕๐ ดวง (เม็ด) มีใหญ่บ้างเล็กบ้าง ทางคณะศรัทธาจึงจัดให้มีงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุของท่านครูบาศรี ตรงกับเดือน ๙ เหนือ ขึ้น ๑๒-๑๓ ค่ำเป็นประจำทุกปี ฯลฯ
|