จากประสพการณ์ที่ผ่านมาในวงการพระเครื่องกว่า 20 ปี จะสังเกตได้ว่า ในบรรดาหลวงปู่หลวงพ่อที่ได้สรรค์สร้างพระเครื่องรางของขลังมาสู่วงการพระนั้น แต่ละองค์แต่ละท่าน จะต้องมี"สุดยอดของดี"หรือ"สุดยอดพระเครื่อง" คู่บุญบารมีแห่งองค์ท่าน เพียง"หนึ่งเดียว" ที่สร้างประสพการณ์และสร้างชื่อจนกลายเป็นดาวค้างฟ้าประดับวงการอย่างโดดเด่นเป็นเอกที่สุดอย่างไม่แน่แท้และ"สุดยอดของดี"คู่บารมีแต่ละองค์นั้น อาจจะเป็นพระเครื่องประเภทเดียวกัน หรือต่างชนิดกันก็ได้ แล้วแต่บุญญาบารมีและเอตทัคคะเก่าที่เคยได้สร้างสมมา อาทิเช่นสุดยอดของดี สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) วัดระฆัง ก็คือ "พระผงพิมพ์สมเด็จ " จักรพรรดิพระเครื่องเมืองสยามแห่งยุคสมัยสุดยอดของดัง สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ก็คือ "พระกริ่งปวเรศ" อันสุดเกรียงไกร ตัดสายรุ้งขาดได้สุดยอดของเด่น เจ้าคุณนรรัตน์ วัดเทพศิรินทร์ คือ "พระสมเด็จหลังอุ" อันมีทรวดทรงสวยที่สุดในยุคหลังกึ่งพุทธศาสนยุกาลนี้ ไม่มีใดเทียมสุดยอดของแพง หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร ก็คือ "เหรียญรุ่นแรก" ที่แพงหูดับ ถึงเหรียญละหลายๆแสน..สุดยอดของดัง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ก็คือ "พระกริ่งชินบัญชร"และ"พระผงพรายกุมาร" อันทรงอภินิหารอันน่ามหัศจรรย์มากมายเป็นนักหนาฯลฯ..ฯลฯ..ฯลฯ...............และแม้"หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร" พระอริยสงฆเจ้าแห่งสำนักถ้ำผาปล่อง อ. เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ผู้ทรงคุณธรรมสูงยิ่ง ถึงขนาดแม้หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง ยังยกย่องให้เกียรติในความเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้สำเร็จมรรคผลแล้วเป็นอย่างสูง หรือแม้หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ก็ยังไม่ยอมเสกทับพระรุ่นหนึ่งของหลวงปู่สิม โดยให้เหตุผลว่า "ดีอยู่แล้ว" ก็มีสุดยอดของดีคู่บารมีของท่านอยู่สิ่งด้วยเช่นกัน
นั่นก็คือ"เหรียญเมตตา" ที่คุณธงชัย อุดมความสุขสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2517 โดยมีคุณชินพร สุขสถิตย์ ศิษย์เอก หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยองเป็นผู้เจ้านายในนิตยสาร"อภินิหารและพระเครื่อง"ช่วยให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาประสานงานในหลายๆเรื่องให้นั่นเองก็หากจะว่าไปให้ลึกๆและถึงแก่นกันจริงๆแล้ว เหรียญเมตตาหลวงปู่สิมนี้ คุณชินพร สุขสถิตย์ ก็เหมือนกับเป็น"ผู้สร้างหลังม่าน"ด้วยตนเองกลายๆก็ว่าได้ไม่ผิดคำเลยทีเดียว"ตอนนั้น ธงชัยยังเด็กอยู่มาก.."คุณชินพร สุขสถิตย์เล่าให้ผู้เขียนฟังถึงความหลัง ที่น้อยคนนักจักล่วงรู้ " ตอนแรกธงชัยเขาจะขอสร้างพระหลวงปู่ทิม แต่ผมไม่อนุญาต เพราะเคยประกาศไปแล้วว่า ตราบใด ศาลาการเปรียญ วัดละหารไร่ยังสร้างไม่เสร็จ จะไม่ให้ใครสร้างพระหลวงปู่ทิมเป็นอันขาด.....แม้แต่ตัวของผมเอง จะสร้างพระแจกหนังสืออภินิหารและพระเครื่องเมื่อปีพ.ศ. 2518 ยังต้องเลี่ยงไปทำของหลวงพ่อสิม(สำนวนคุณชินพร)เลย จะได้ไม่ผิดคำพูดของตัวเอง...." "ทีนี้ พอผมไม่อนุญาตให้ธงชัยสร้างพระหลวงปู่ทิมแล้ว ผมก็แนะนำไปว่า ให้ไปขอหลวงพ่อสิม ถ้ำผาปล่องที่เชียงใหม่ทำพระซี ท่านเก่งมากๆเลยทีเดียวนะ น้องชายของผม(คุณเผชิญ สุขสถิตย์)เคยไปรบที่ประเทศลาว เห็นมากับตาว่า มีพลทหารจากเชียงใหม่คนหนึ่ง ไปจุดไฟเผาขยะเหนือกับระเบิดที่ลาวแดงฝังไว้พอดี จนเกิดระเบิดตูมใหญ่ พลทหารเคราะห์ร้ายคนนั้นถึงกับโดนแรงอัดลอยขึ้นไปในอากาศแล้วตกลงมา ไม่เป็นอะไรเลย ในคอผูกผ้ายันต์ของหลวงพ่อสิม เพียงผืนเดียวเท่านั้น....!!!!""ด้วยเหตุนี้ ธงชัยจึงได้ไปขอหลวงพ่อสิมสร้างเหรียญเมตตาในเวลาต่อมา และก็กลายเป็นเหรียญรุ่นหนึ่งที่ดังมากๆในยุคนั้น ส่วนตัวของผม ก็มีเหรียญทองคำกับเหรียญทองแดง ที่หลวงพ่อสิมท่านจารชื่อไว้ให้เหลืออยู่เพียงอย่างละเหรียญเดียวเท่านั้น..."คุณชินพร กล่าวสรุปและตลอดระยะเวลาที่ผู้เขียนได้วนเวียนไปกราบไหว้ใกล้ชิดกับหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร เป็นหลายโอกาสกว่า 6 ปีนั้น ทำให้ได้ทราบว่า พระเครื่องเพียงรุ่นเดียวที่หลวงปู่สิม พูดถึงอยู่บ่อยครั้งที่สุด และสั่งให้ลูกศิษย์ลูกหาหาบูชาเอาไว้ให้จงดี ก็คือ "เหรียญเมตตา"!!!!"เหรียญเมตตานี้ดีนะ มีไว้แล้วหรือยัง ..??
" และ"ให้หาเหรียญเมตตาเอาไว้ให้ได้นะ...!!!!" หลวงปู่สิมสั่งศิษย์ใกล้ชิดไว้ครั้งหนึ่ง
แม้ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2535 ไม่กี่วัน ท่านก็ยังได้ปรารภถึง"เหรียญเมตตา"ให้ผู้เขียนได้ยินอยู่เลยทีเดียว
ขนาดนั้นจริงๆก็จะเป็นด้วยเรื่องของบารมีหรือจะเป็นของคู่บุญแท้อย่างไรก็ตามแต่ ทั้งๆที่ไม่ได้มีการเชียร์หรือโปรโมทอะไรมากมาย แต่เหรียญเมตตาก็เป็นเหรียญที่มีผู้ศรัทธา ต้องการเช่าหามากที่สุดมาโดยลำดับ ทำให้ราคาค่านิยมค่อยๆขยับปรับตัวขึ้นมาเรื่อยๆแบบ"น้ำนิ่งไหลลึก" จากหลักสิบ ขึ้นมาเป็นหลักร้อย จากหลักร้อยค่อยๆขึ้นมาเป็นหลักหลายๆร้อย.............
และตอนนี้ จากหลักหลายๆร้อย ก็ทะลุเพดานหลักพันขึ้นมาอย่างนิ่งๆแต่แน่นอนไปเรียบร้อยแล้ว(เนื้อทองแดง)ส่วนเหรียญเมตตา เนื้อนวโลหะ ก็อยู่ที่หลักพันกลางๆ เหรียญเมตตา เนื้อเงิน ก็เปิดหลักพันแก่ๆ ใกล้หมื่นอยู่รอมร่อส่วนเหรียญเมตตาทองคำ ราคามาตรฐานก็อยู่ที่หลักหมื่นแก่ๆถึงหลักแสนแล้วและแน่นอนที่สุด เมื่อเหรียญเมตตาหลวงปู่สิม เริ่มเป็นที่นิยมขึ้นมา บรรดาทุจริตชนก็ได้คิดอ่านที่จะทำการหลอกลวงด้วยการทำเหรียญเมตตาปลอมขึ้นมาตบตาผู้ศรัทธาเลื่อมใสอย่างไม่เกรงกลัวต่อบาปต่อกรรมในทันใดในชั้นแรก ที่มีการปลอมเหรียญเมตตานั้น ก็เป็นฝีมือแบบ"ดูง่าย"เพราะงานที่ค่อนข้างหยาบ ไม่เป็นที่น่ากลัวน่ากังวลสักเท่าไร
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีในการปลอมได้พัฒนาไปมากเข้า งานปลอมแปลงเหรียญ ก็พัฒนาความสวยงามและความเหมือนยิ่งๆขึ้นไปกว่าแต่เก่าอย่างไม่อาจจะเปรียญเทียบกันได้และล่าสุด เมื่อไม่กี่วันกี่เดือนมานี้ เหรียญเมตาปลอม แบบชนิด"เซียนสะดุ้ง" ก็ระบาดออกมาสู่วงการอย่างเงียบๆแต่เฉียบขาดเรียบร้อยแล้ว.....
นัยว่า เป็นเหรียญเมตตาปลอม บล็อก"คอมพิวเตอร์" ที่ใกล้เคียงเหรียญจริงถึงกว่า 95-98 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว...!!!!!!แต่ "ของปลอม" ยังไงเสีย ก็ย่อมต้องเป็น"ของปลอม"อยู่วันยังค่ำต่อให้ปลอมด้วยเทคโนโลยีกันก้าวล้ำนำสมัยสักแค่ไหน ก็ยังต้องทิ้งรอยพิรุธให้จับได้ไล่ทันอยู่ดีจากการที่ผู้เขียนได้ตรวจสอบเหรียญเมตตา ทุกเนื้อทุกแบบ ไล่ตั้งแต่เหรียญทองคำ ,เงิน,นวะ,ทองแดง ได้พบข้อเท็จจริงอันหนึ่งที่ว่า
1. เหรียญเมตตา มีเพียงบล็อคเดียวเท่านั้น ไม่มีบล็อคที่ 2,3 ฯลฯ อื่นใดอย่าง"เด็ขาด"
2. เหรียญเมตตา แต่ละเนื้อตอกโค้ดไม่เหมือนกัน โดยเหรียญเนื้อทองคำ ตอกโค้ด"นะ" (ขอม),เหรียญเงินตอกโค้ด"พุท"(ขอม) ,เหรียญเนื้อนวโลหะและรูปหล่อซุ้มกอตอกโค้ด"ธา"(ขอม)ตัวเดียวกันทั้งหมด และเหรียญเนื้อทองแดง ตอกโค้ด"ยะ"(ขอม)ฉะนั้น เมื่อเหรียญเมตตามีเพียงบล็อคเดียว การดูตำหนิพื้นฐานทั่วไป ในทุกๆเนื้อ ก็ย่อมเป็นมาตรฐาน(ไม่รวมโค้ดและตัวเลข)อันเดียวกันทั้งหมด แต่"เมตตาปลอม" เนื้อ"ทองแดง"บล็อก"เซียนตากลับ" ชุดที่ 1 ที่เพิ่งออกมาอาละวาดล่าสุดนั้น มีข้อสังเกตุที่ดูง่ายๆที่สุดก็คือ
1. เส้นขอบเหรียญด้านล่างของเหรียญด้านหน้า ของแท้จะยกสูงเป็นสัน เห็นได้ถนัดตา ส่วนของปลอม
จะมีเลือนลางจนดูเหมือนไม่มีขอบ
2. พื้นเหรียญด้านหน้าใต้องค์หลวงปู่ ไล่ตั้งแต่ไหล่ซ้ายเรื่อยมาตรงคำว่า"เมตตา"ไปจนถึงไหล่ขวานั้น
ของแท้พื้นจะเนียนเรียบ และมีเส้นขนแมวคมๆพาดผ่านกันไปมามามากมาย ที่ในขณะที่เหรียญ
ปลอมบล็อคคอมพิวเตอร์ พื้นเหรียญดูบวมๆเห่อๆ เหมือนผิวคนที่เป็น"ลมพิษ"หรือ"กลากเกลื้อน
"อยู่ "ชอบกล
3. โค้ด"ยะ"ในเหรียญทองแดงของจริงๆนั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องอยู่ที่ตรงไหนของสังฆาฏิแน่นอน เพราะเป็นของตอกด้วยมือภายนอกบล็อค แต่เหรียญเมตตาทองแดงของปลอม บล็อคเซียนร้องจ๊ากนั้น สังเกตได้ว่า โค้ดตัวยะจะอยู่ตรงปลายกลีบสังฆาฏิตรงกลางพอดีทุกๆเหรียญ (เพราะถอดเหรียญจริงมาทั้งเหรียญทั้งโค้ดนั่นเอง)ส่วนเหรียญเมตตา เนื้ออื่นๆนั้น ได้ข่าวแว่วๆมาว่า มี"ของปลอม"ด้วยเช่นกันโดยเฉพาะเหรียญชุด"กรรมการ"ที่ไม่ได้"ลำดับเลข" เพราะตอกแต่เลข"9"และ"โค้ด"เพียงสองตัวเท่านั้น ยิ่งต้องควรให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะการปลอมบล็อคคอมพิวเตอร์ในสมัยนี้ เขาถอดกันทั้งเหรียญทั้งโค้ดในนัดเดียวกันไปเลยด้วยเหตุฉะนี้ เหรียญเมตตาชุดกรรมการ ที่ตอกเพียง"โค้ด(ประจำเนื้อ)และเลข 9" ซึ่งมีราคาแพงกว่าชุดธรรมดาที่ตอกหมายเลขเรียงตามลำดับนั้น จึงเป็นสิ่งที่ปลอมง่าย"และ"หลอกง่าย"กว่าปกติเป็นยิ่งนักควรเร่งระมัดระวังความปลอดภัยให้จงหนักกว่าธรรมดาโดยแท้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหรียญเมตตาเนื้อนวโลหะ ซึ่งเป็นเนื้อโลหะที่แข็ง ทำให้เส้นสายตำหนิต่างๆติดไม่ค่อยชัดเหมือนเหรียญเนื้ออื่นๆนั้น ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังให้ยิ่งๆขึ้นไปอีกเป็นหลายๆเท่าตัวด้วยกันเลยเทียว..!!!!
นี่คือ ตำหนิและพิรุธคร่าวๆที่เร่งนำมา"เตือนภัย"แก่ผู้ศรัทธาในองค์หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร และเหรียญเมตตา ให้เร่งระวังโดยว่องไวที่สุดก่อนที่ใดอื่นในบรรณพิภพแห่งนี้ขอเพียงท่านใช้ความละเอียดและละเมียดให้ดีๆ ก็คงจะพานพบแต่"เมตตาแท้"โดยทั่วกัน ไม่ต้องสงสัย
และความความจริงอีกประการที่อยากจะบอกต่อท่านทั้งหลายก็คือว่า อันเหรียญเมตตาแท้ๆนั้น มี"จุดตาย"(สนิท) ที่ใช้แยกเก๊แท้ได้อีกหลายๆจุดมากๆ.....เป็น"จุดตาย" ชนิด"โคตรคอมพิวเตอร์" ประเทศไหน ก็ยากจะทำได้ด้วยและผู้เขียนก็ได้ทำ"รีเสิร์ช"เก็บรายละเอียดแห่ง"จุดตาย"นี้ไว้ได้เกือบ 80-90 เปอร์เซ็นต์แล้วพร้อมที่จะ"แฉ" เหรียญเมตตาปลอมในทุกซีรี่ส์ที่ออกมาอย่างไม่มีการยกเว้นใดๆทั้งสิ้น แต่ใคร่จะขออุบเอาไว้ก่อน จะเป็นการดีที่สุดหาไม่แล้ว ขึ้นพูดไปมากเกินไปกว่านี้ ก็จะเป็นการ"ชี้โพรงให้กระรอก(นรก)" ปรับปรุงเหรียญ"เมตตาปลอม"เวอร์ชั่น 2 ,3,4..etc.ให้เฉียบขาดต่อไปในอนาคตกาลภายภาคหน้าเปล่าๆปลี้ๆทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อเป็นการรักษาชื่อเสียงเกียรติคุณขององค์หลวงปู่ผู้พุทธาจาโรองค์นั้นให้คงอยู่ในใจของผู้ศรัทธาทุกๆคนสืบไปตราบนานเท่านานนั่นเอง
เข้าชมรายการพระร้านกร สารภี เพิ่มเติมได้..คลิก กร สารภี ด้านล่างครับ
|