ตำนาน แห่ง สุดยอดวัวธนูโลหะยอดนิยม อันดับ1 ของล้านนา  

วัวธนูครูบาคำแสน  คุณาลังกาโล วัดป่าดอนมูล จ.เชียงใหม่

 วัวธนูของล้านนานั้น สมัยก่อนเป็นเครื่องรางที่พวกพ่อค้า หรือนักเดินทาง นิยมพกพากันมาก เพื่อป้องกันพวกโจรขโมย เสือสมิง สิ่งชั่วร้าย และ กันพวกภูตผีปีศาจต่างๆ มิให้มาหลอกหลอน

การสร้างวัวมีหลายประเภท ทั้งประเภท ดิน ผง ว่าน ไม้ไผ่ หญ้าคาสาน ขี้ผึ้ง และ ประเภทหล่อโลหะ

และถ้ากล่าวถึง วัวธนูล้านนาประเภทเนื้อโลหะนั้น วัวธนูของครูบาคำแสน วัดป่าดอนมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

ถือได้ว่า เป็นวัวธนูโลหะยอดนิยมอันดับ 1 ของล้านนา ที่ได้รับความนิยมสูง และ มีผู้แสวงหากันมากที่สุดจนถึงปัจจุบัน

 มูลเหตุของการสร้างวัวธนูของท่านนั้น  จะว่าเป็นเรื่องบังเอิญ หรือ เป็นเรื่อง อิทธิฤทธิ์ปาฎิหารย์ นั้นก็ขอให้ท่านผู้อ่านโปรดพิจารณาเอา

เมื่อปี พ.ศ.2518 คุณลุงสัมฤทธิ์ ผู้หล่อวัวธนูรุ่นแรก ได้นำวัวธนูที่หล่อมาให้ หลวงปู่ครูบาคำแสนดู แล้ว ถามท่านว่า “หลวงปู่ครับ หลวงปู่เสกวัวธนูเป็นไหม พอดีวัวธนูชุดนี้ มีพระเกจิท่านหนึ่งได้สั่งหล่อไว้ แต่ ไม่ชอบแบบ จึงขอยกเลิก” ทั้งที่คุณลุงสัมฤทธิ์มิได้รู้มาก่อนเลยว่า หลวงปู่ท่านมีตำราปลุกเสกวัว และ ท่านสร้างและปลุกเสกวัวธนูได้

หลวงปู่ครูบาคำแสน ท่านยิ้มและตอบลุงสัมฤทธิ์ไปว่า “ ได้ ท่านเสกได้ ท่านเสกเป็น  ท่านเคยสร้างวัวธนูทำจากหญ้าคา ตั้งแต่สมัยที่ออกเดินธุดงค์แล้ว ” ( ตอนหลังวัวธนูหญ้าคา ซึ่งถือว่า เป็นตัวครูตัวนี้ หลวงปู่ได้มอบให้กับ ศิษย์ใกล้ชิดท่านหนึ่งที่เป็น อดีต ส.ส.เชียงใหม่ท่านหนึ่งไป )

เมื่อได้รับความเมตตาจากหลวงปู่ คุณลุงสัมฤทธิ์ จึงนำวัวธนูที่หล่อจำนวน1,000 ตัว(ยืนยันจำนวนจริงจากผู้สร้าง) ถวายขอหลวงปู่เมตตาปลุกเสกให้

หลวงปู่จึงได้กำหนดฤกษ์การปลุกเสก และ ท่านก็ได้ทำการปลุกเสกวัวธนูตำหรับของท่าน อย่างเข้มขลัง

โดยผู้ที่ร่วมในพิธีต่างยืนยันว่า หลวงปู่ท่านได้ทำการปลุกเสกจนวัวนั้นสามารถเคลื่อนไหวได้ราวกับมีชีวิต

 วัวธนูรุ่นแรกนี้ มีผู้นำไปใช้แล้วเจอประสบการณ์มากมาย บ้างเจอเป็นวัวจริง เป็นวัวตัวเป็นๆ เดินรอบๆบ้าน

บ้างเจอรอยเลือดของโจรขโมย ที่เข้ามาขโมยของ จนเป็นที่ฮือฮากัน และ ทำให้ผู้ที่จะประสบการณ์และผู้ที่ได้ทราบข่าว

ต่างพากันมาบูชาวัวธนูรุ่นแรกของครูบาคำแสนจนหมดลง

จึงเป็นเหตุให้ต้องสร้าง     วัวธนู   รุ่น 2   ปี 2519  และ   รุ่น   3 หรือ รุ่นพิเศษ ปี 2520 ออกมาถึงรุ่นละ 2,000 ตัว แต่กระนั้นก็ยังมิเพียงพอต่อความต้องการของบรรดาสานุศิษย์และญาติโยมผู้ นับถือ

ซึ่งมิได้มีเพียงทางภาคเหนือเท่านั้น ยังโด่งดังไปถึงกรุงเทพ และ ต่างจังหวัด

ครูบาคำแสนท่านเป็นพระผู้มีเมตตาธรรมสูง และท่านเป็นสหธรรมิก กับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  วัดท่าซุง

กล่าวกันว่า เมื่อคราวที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้มรณภาพลง

มีเครื่องรางเพียงอย่างเดียวที่ติดอยู่ที่ถุงย่ามของท่าน  นั่นก็คือ วัวธนูของหลวงปู่ครูบาคำแสน

ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เป็นจึงเป็นเรื่องราวที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ของ วัวธนูหลวงปู่ครูบาคำแสน ได้เป็นอย่างดี

วิธีปฏิบัติต่อวัวธนู ของหลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโล

วัดป่าดอนมูล ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

ให้หาเอาหญ้าและน้ำใส่ภาชนะเป็นอาหาร ๗ วันไหนให้เปลี่ยนทั้งหญ้าและน้ำเสียครั้งหนึ่ง ห้ามเอาวัวธนูไว้ปะปนกับพระพุทธรูปและเครื่องรางของขลังต่าง ๆ และทั้งห้ามเอาไว้สูงกว่าพระพุทธรูป

วัวธนูมีไว้สำหรับป้องกันภัย ภูตผีปีศาจอันจะมารบกวนเราทั้งที่อยู่อาศัย และยังป้องกันพวกมิจฉาชีพเหล่าโจรกรรมทั้งหลายได้อีกด้วย หรือว่าถ้าจะเอาใช้ไปในทางเมตตามหานิยมหรือทางโชคลาภ ในเวลากลางคืนให้หันหน้าวัวธนูออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจและพวกเหล่าโจรกรรมได้อีกด้วย ในเวลากลางวันให้หันหน้าวัวธนูเข้าบ้านให้อธิษฐานเอาในทางโชคลาภ ให้จุดธูป ๓ ดอก ทุกเช้าค่ำ

 คาถาสำหรับปลุกเสกวัวธนู

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า 3หน)

โอม...โคโน มหาโคโน, โอม โคโส มหาโคโส, โอมกูจักมนต์วัวธนู กูสูงได้เก้าพันศอก, ปล๋ายหนอกได้เก้าพันวา, กูโอ้ดังก้องฟ้า อ้าปากร้องผีกลัว, เห็นเสือด่าหนี เห็นผีด่าจม, โอมสวาหะ ขะจัดเถ็กฯ

            โอม...โคโน มหาโคโน, โอมกูจักมนต์วัวธนู, กูบินฆะฆะ ตัวมีราคะมัวมืดเศร้า ปะริเทหะ ชนไอ้ดอกชน สัพพะศัตรู วินาสันตุฯ