ในบรรดาพระเกจิอาจารย์ของภาคเหนือที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฤตยาคมเครื่องรางของขลังนั้น มีพระอาจารย์องค์หนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ทหาร ตำรวจและข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงอันตรายตามพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ
พระอาจารย์รูปนี้คือ หลวงพ่อบุญทา หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า หลวงพ่อวัดดอนตัน อดีตเจ้าอาวาสวัดดอนตัน ต.ตาลชุม อ.ท่าวังผา จ.น่าน
...." หลวงพ่อมีรูปร่างสูงโปร่งผิวขาว อารมณ์ดี เปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา พูดน้อย แต่สำหรับผู้ที่คุ้นเคยแล้ว ท่านจะพูดคุยอย่างมีอารมณ์ขันได้อรรถรส ท่านฉันจังหันมื้อเดียว หลังจากเที่ยงไปแล้วท่านจะไม่ฉันเครื่องดื่มอะไรเลย นอกจากน้ำเปล่าเท่านั้น
หลวงพ่อวัดดอนตัน ชื่อ สุทธวงศ์ ฉายา พุทธวํโส เป็นผู้ฝักใฝ่ใจศึกษาค้นคว้าหาความรู้ทางธรรม โบราณคดีและไสยศาสตร์ ความรู้ทางธรรมเป็นนักธรรมตรีแต่มีความรู้แตกฉานในอักษรภาษาพื้นเมืองล้านนา
ท่านได้เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนวิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์ครูบากัญจนะ เจ้าอาวาสวัดม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน พระเถระที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น(สมัยรัชกาลที่ 6) ซึ่งเป็นที่เชื่อกันในหมู่คนทั่วไปว่า ท่านเป็นภิกษุที่สำเร็จอรหันต์องค์หนึ่งแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
แต่ด้วยใจรักในวิชาไสยศาสตร์ ท่านได้เดินทางศึกษาหาความรู้จากครู อาจารย์ที่เก่งๆในต่างหัวเมืองหลายแห่ง เรียนวิชาปลุกเสกเลกยันต์มหานิยม ปลุกเสกเลกยันต์คงกระพันชาตรี วิชาลงยันต์ใส่ผ้าขาวม้าแดงติดเสาเรือน วิชาปลุกเสกเลกยันต์ใส่ผ้าขาวสำหรับติดประตูเรือน วิชาปลุกเสกเลยันต์ลงใส่เสื้อขาวเพื่อให้ ทหาร ตำรวจ ใส่ไปสู่สนามรบให้ปลอดภัยและมีชัยชนะกลับมา ปลุกเสกเลกยันต์แคล้วคลาดเพื่อชนะศัตรูที่มุ่งจะมาทำร้าย ลงยันต์พระพุทธคุณหลวง ลงยันต์สามแหลม ลงยันต์ตาลยอดด้วน ล้วนแล้วแต่เป็นยันต์ที่คงกระพันชาตรีทั้งนั้น
นอกจากนี้ ท่านยังได้สำเร็จวิชานั่งเทียน วิชาสืบชาตาหรือต่ออายุของบุคคลที่ป่วยไข้ได้พยาธิให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บมีอายุยืนยงคงดีต่อไป รวมไปถึงวิชาประพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นศิริมงคล..เป็นต้น
อริยาบทของหลวงพ่ออันป็นที่คุ้นเคยของผู้ที่แวะไปกราบนมัสการเยี่ยมเยือนหลวงพ่อที่วัดดอนตันและพบเห็นได้เสมอๆ คือ หลวงพ่อจะนั่งตัวตรงมือจับเข่าซ้าย - ขวา พูดคุยด้วยอย่างไม่ถือเนื้อถือตัว ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาทั่วไป คหบดีหรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มักได้รัการต้อนรับจากหลวงพ่ออย่างเสมอเท่าเทียมกัน
สิ่งพบเห็นได้บ่อยๆคือการดั้งด้นไปขอวัตถุมงคล เนื่องจากความเชื่อและศรัทธาในอานุภาพของเครื่องรางที่หลวงพ่อทำไว้ เมื่อไม่มีหรือหมดไป ทุกคนก็ขอให้ท่านทำขึ้นใหม่โดยนำผ้าขาวไปให้ท่านลงเลกยันต์และปลุกเสกเป็นรายบุคคล หลวงพ่อท่านก็เมตตาและทำให้ทุกคน "
ในวันที่ 5 ธันวาคม 2513 หลวงพ่อได้รับพระราชทานสมณศักดิ์และพัดยศ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นตรี ในราชทินนาม "พระครูเนกขัมมาภินันท์"
และในวันที่ 5 ธันวาคม 2521 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นเป็น พระครูสัญญาบัตรวัดราษฎร์ชั้นโท เป็นรูปแรกของคณะสงฆ์ในจังหวัดน่าน ราชนามเดิมที่ "พระครูเนกขัมมาภินันท์"
นับตั้งแต่หลวงพ่อบุญทาได้อุปสมบทถวายชีวิตอยู่ในบวรพระพุทธศาสนา ได้ตั้งมั่นอยู่ในพระธรรมวินัยด้วยสัจจะอันแรงกล้า ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งยั่วยุกิเลสทั้งหลาย
ท่านปกครองวัดดอนตันมาเป็นเวลานานถึง 61 ปี ได้บูรณะและพัฒนาวัดดอนตันจนภิกษุและสามเณรในวัดดอนตันได้รับความสะดวกสบายในการปฏิบัติธรรม และเป็นมิ่งขวัญในดวงใจของคนเมืองน่านมาโดยตลอด จวบจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตเมื่อเวลา 20.25 น. ของวันที่ 17 ธันวาคม 2523 ณ กุฏิวัดดอนตัน สิริรวมอายุได้ 85 ปี 65 พรรษา
|