จากบันทึกเรื่องเล่าของเจ้าคุณพระอมรสุธีร์ ในหนังสือ อนุสรณ์หลวงพ่อวัดดอนตัน ที่จัดทำขึ้นโดยวัดพระเชตุพน

ท่านกรุณาเล่าถึงประสบการณ์ของเหรียญรุ่นนี้ เผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทาน ดังนี้.-

เรื่องแรก คุณวัลลภ สิงหลชาติ  มาทำบุญกับท่านเจ้าคุณและได้รับแจกเหรียญรุ่นนี้ไป 1 ชุด คุณวัลลภ ได้นำติดตัวไปตลอดในการเดินทางไปไหนมาไหน

จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2518 คุณวัลลภ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทเอสโซ่ ได้ขับรถไปตรวจงานที่จ. ตาก ครั้นไปถึงทางแยก กำแพงเพชร - ตาก ซึ่งเป็นที่เปลี่ยวมีการดักปล้นกันอยู่เสมอๆ รถของคุณวัลลภได้ถูกคนร้ายดักยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง กระสุนปืนถูกหน้ารถแตกเป็นรูพรุนเต็มไปหมดและเจาะทะลุผ่านกระจกเข้าไปถึงเบาะที่นั่งด้านใน

คุณวัลลภ ได้สั่งให้น้องชายเร่งเครื่องขับรถหนีไปจากที่เกิดเหตุ จนถึงด่านตรวจ และได้เข้าแจ้งความ

เมื่อตำรวจได้มาตรวจสภาพรถและเห็นความเสียหายของตัวรถแล้ว จึงถามว่า มีคนตายและเจ็บกี่คน

คุณวัลลภ ตอบว่า ไม่มีใครตายและไม่มีใครได้รับอันตรายอไรเลย...ตำรวจถึกับงงและไม่เชื่อ !!!!!

คุณวัลลภ จึงชี้มือไปที่ที่บังแดดที่มีผ้ายันต์และเหรียญหลวงพ่อวัดดอนตัน รุ่นพญาครุฑแบกงาช้างดำติดไว้ว่า  ผมมีแต่สิ่งนี้ หลวงพ่อช่วยชีวิตผมไว้ ผมจะไม่ลืมบุญคุณหลวงพ่อเลย

อ่านเพลินเลยครับ

 เรื่องที่สอง เกิดขึ้นใต้ฟ้าเมืองน่าน เมื่อปี 2518

ในวันที่ 15 ธันวาคม 2518 พันโทเทอดศักดิ์ มารมณ์ ได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติภารกิจร่วมกับหน่วยราชการในจังหวัดน่าน ณ หมู่บ้านสปัน อ.ปัว (อ.บ่อเกลือ ในปัจจุบัน)

เมื่อเฮลิคอปเตอร์ลงบริเวณลานจอดที่วัดสปัน ไม่ถึงนาที ผ.ก.ค.ที่ซุ่มโจมตีอยู่ก่อนแล้ว ระดมยิงอาวุธหนัก เบาเข้าใส่อย่างห่าฝน โดยเฉพาะจรวดอาร์พีจี ผ.ก.ค. ยิงถล่มใส่กุฏิจนพังยับเยิน

ตัวท่านผู้พันเองรวมไปถึงทหารที่ติดตามและเสมียนตราจ.น่าน พระเณร ชาวบ้านในบริเวณนั้น หนีตายกันจ้าละหวั่น ต่างวิ่งเข้าหาหลุมหลบภัยในบริเวณวัดสปัน 

ช่างบังเอิญกระไรเช่นนั้น มีระเบิดลูกหนึ่ง ถูกขว้างตกลงมาที่ปากหลุมพอดี!!!!!!  เหลือเชื่อ ...ระเบิดลูกนั้นไม่แตก

หลังจากเหตุการณ์สงบเมื่อกำลังทหารเข้ามาเคลียร์พื้นที่ได้  สอบถามกันไปมาในระหว่างผู้ที่อยู่ในหตุการณ์     ปรากฏว่า ในกระเป๋าเสื้อของเสมียนตราที่มาด้วยกับคณะนั้น มีเหรียญและผ้ายันต์หลวงพ่อวัดดอนตัน รุ่นพญาครุฑแบกงาช้างดำ ที่ได้รับแจกมาจากผบ.ทบ (พลเอกกฤษณ์ สีวะรา) เพียงผู้เดียว

อิทธิและบารมีของหลวงพ่อวัดดอนตัน คุ้มครองทุกคนให้แคล้วคลาดปลอดภัยแม้แต่คนที่ไม่มียังได้รับอานิสสงส์ไปด้วย

เรื่องนี้ ท่านพันโทเทอดศักดิ์ มารมณ์ เล่าได้ไม่รู้ลืมไม่ว่าท่านจะย้ายไปปฏิบัติภารกิจณ ที่ใดๆก็ตาม

เรื่องที่สาม เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรงกับทหารท่านหนึ่ง จากคนที่ไม่นิยมพระเครื่อง กลายมาเป็นนักสะสมพระ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นสายหลวงพ่อวัดดอนตันล้วนๆเสียด้วย

เรื่องมีอยู่ว่า....ทหารที่ถูกส่งมาประจำการณ์ที่ชายแดนเมืองน่าน มีภารกิจต้องขึ้นดอยบ่อยๆไม่รู้อนาคตของวันพรุ่งนี้ จึงใช้วัน เวลา ของการหยุดพักอย่างเต็มที่ ซึ่งก็หนีไม่พ้น วิสัยของชายชาตรีที่จะต้องมีเหล้าและผู้หญิง มาปรนเปรอ พูดกันจะจะก็คือ  วันนี้ขอมีความสุขก่อน เรื่องของวันพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก

พอเหล้าเข้าปาก ความคึกคะนองจนลืมตัว ทำให้เกิดการเขม่นกับวัยรุ่นเจ้าถิ่นถึงกับลงไม้ลงมือกัน

เมื่อมีผู้ห้ามปราม ก็เลิกรา แยกย้ายกันไป

นายสิบท่านนี้ อยู่ในกองทหารชายแดน พัน ร. 213 อ.ปัว ด้วยความชะล่าใจ เดินทางกลับค่ายโดยไม่ระมัดระวัง ถูกลอบยิงโดยปืนลูกซองสั้น ในบริเวณขมับ จนล้มคว่ำ เสียดังสนั่นหวั่นไหวในความมืดของยามดึกเพื่อนๆกรูกันออกมาดู คิดในใจว่า ไม่รอดแล้ว เพื่อนกู...แต่ ที่ไหนได้ นายสิบท่านนี้ นั่งกุมขมับด้านที่ถูกยิง บวมปูดออกมา ไม่เข้าครับ ลูกปืนไม่ระคายผิวหนัง มีเพียงแค่รอยลูกปืนและเลือดออกมาซิบๆเท่ายางบอนเท่านั้น ค้นในตัว เจอเหรียญที่ท่านผบ.ทบ. ในขณะนั้น คือ พลเอกกฤษณ์ สีวะรา แจกให้พร้อมกับผ้ายันต์ รุ่นพญาครุฑแบกงาช้างดำ เท่านั้นเอง

หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ท่านพี่ เห็นเหรียญชุดนี้ที่ไหนเป็นเก็บ เพื่อนร่วมรุ่นที่ได้รับแจกมาด้วยกันถ้าไม่ชอบจะขายให้ก็ยินดีรับซื้อ เก็บสะสมได้มากกว่า 30 ชุด เยอะกว่าคนในพื้นที่เสียอีกครับ

ว่างๆอยู่ ล่าต่อครับ

เรื่องที่สี่ เกี่ยวกับราชนิกุล ท่านไม่โกหกเราแน่นอน

มรว.ชนม์สวัสดิ์ ชมพูนุช ท่านสนิทสนมกับท่านเจ้าคุณพระอมรสุธีร์ เมื่อไปทำบุญกับหลวงพ่อที่วัดพระเชตุพน  ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2518 หลวงพ่อได้มอบผ้ายันต์และเหรียญรุ่นพญาครุฑแบกงาช้างดำไว้ให้จำนวนหนึ่ง

รุ่งขึ้น ในวันที่ 1 ิถุนายน 2518 ท่านได้พาสมัครพรรคพวกไปพักผ่อนที่เมืองจันทบุรี ก่อนเดินทาง ไม่รู้มีอะไรดลใจให้ ท่านได้แบ่งเหรียญรุ่นนี้ให้สุภาพสตรีที่ร่วมเดินทางไปด้วย ส่วนผ้ายันต์นั้น ท่านเก็บเอาไว้ที่ช่องเก็บของหน้ารถ

ขณะที่เดินทางไปถึง อ.บ้านใหม่ จันทบุรี รถที่วิ่งด้วยความเร็วได้เสียหลัก วิ่งตกถนนเลยเข้าไปในสวนยางฃ้างทาง รถวิ่งคล่อมต้นยางขาดไปหลายต้น

หลังเหตุการณ์ เมื่อผู้คนมาเห็นสภาพรถที่เสียายทั้งคัน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คนในรถไม่รอดทั้งหมดแน่ๆ   แต่ก็เป็นที่อัศจรรย์ต่อไทยมุงทั้งหลาย ที่ไม่มีใครเป็นอะไรเลย

เมื่อ มรว.ท่านนี้ บอกว่า ท่านเป็นเจ้าของรถและเป็นผู้ขับเอง ส่วนสุภาพสตรีที่ยืนอยู่ข้างๆ 2 - 3 คนนี้ ก็คือ คนที่มาด้วย

มรว.ชนม์สวัสดิ์กล่าวกับทุกๆคนที่อยู่ในที่นั้นว่า   ผมเชื่อว่า.... ที่ผมและเพื่อนๆ รอดตายในครั้งนี้ เพราะ อานุภาพแห่งเหรียญและผ้ายันต์ของหลวงพ่อวัดดอนตัน

จวนจะได้เวลาที่จะต้องไปรับลูกแล้วครับ

ขอเป็นเรื่องสุดท้ายก็แล้วกัน ทุกท่านคงจำได้นะครับว่า จุดประสงค์หนึ่งของการสร้างเหรียญรุ่นนี้ คือ นำรายได้ไปสร้างโบสถ์วัดชะอำ จ. เพชรบุรี

ดังนั้น คนในพื้นที่รอบๆวัดชะอำ ย่อมได้รับเหรียญรุ่นนี้เป็นของสมนาคุณเมื่อบริจาคสมทบทุนสร้างพระอุโบสถ

ประสบการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจากหลายเหตุ / หลายปัจจัย ทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อวัดดอนตัน เมืองน่าน เป็นที่รู้จักในแดนไกล แม้แต่มือปืนเมืองเพชรเองยังขยาดไม่กล้ารับงานเมื่อรู้ว่า เป้าหมายที่รับมานั้นแขวนหลวงพ่อวัดดอนตันงงงง

เรื่องนี้คุยกันเป็นวงกว้างตั้งแต่เด็กๆยันไปถึงชั้นหัวหงอกหัวขาว

วันหนึ่ง ในแผงลอยกลางตลาด มีลูกค้านั่งกินปลาหมึกย่างคุยกันถึงเรื่อง ความแคล้วคลาดจากฟืนไฟของผ้ายันต์หลวงพ่อวัดดอนตันที่ได้มาจากวัดชะอำ

เรื่องมีอยู่ว่า เจ้าของสวนเผลเรอเผาหญ้าในสวนและลามไปที่กระท่อมในสวนซึ่งมีผ้ายันต์หลวงพ่อวัดดอนตันติดไว้ ปรากฏว่า รอบๆบริเวณกระท่อมนั้นถูกไฟไหม้จนดำไปหมด แต่ ที่กระท่อมเองกลับไม่ถูกไฟไหม้เสียหายแต่อย่างใด

เจ้าของร้านขายปลาหมึกย่างได้ยิน มีความคิดพิเรน อยากลองดี ว่า จริงหรือไม่ตามที่เขาร่ำลือกัน จึงเอ่ยปากขอยืมผ้ายันต์ธงชัยจากลูกค้ามาขอขมา แล้ว วางลงไปในเตาย่างปลาหมึก

ทันใดนั้นเอง เกิดเสียงดัง ฝุ๊บ..... แล้วไฟในเตาย่างปลาหมึกก็ดับหมดทั้งเตา!!!!!!!!

ขนลุกกันทั้งตลาดชะอำเลยครับในวันนั้น ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่

ถ้าไม่ดีจริง ท่านเจ้าคุณพระสุธีร์ไม่ข้ามภูเขามาขอเมตตาบารมีหลวงพ่อวัดดอนตันท่านหรอกครับ

สาธุ สาธุ สาธุ