วันนี้ไปทำบุญที่วัด เจอลุงวงศ์ นักสะสมพระอาวุโสเมืองน่านที่เคยเมตตาเล่าตำนานต่างๆในอดีตของเกจิยุคเก่าให้ฟังเสมอๆ เมื่อยามว่างและเดินทางไปเยี่ยมเยือนท่านถึงบ้าน
คุณลุงทวงถามถึงเรื่องราวที่ให้้ไปถ่ายทอดเพื่อให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ว่า วิทยาคมนั้นมีจริง
เรื่องแรก เป็นเรื่องครูบาขัติ ก๋างจ้องเข้าฮูปู๋
ครูบาขัติยะวงศ์ ขัติติโยท่านนี้ เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าล้อ วันหนึ่ง ท่านรับนิมนต์ไปทำพิธีและฉันเพลที่วัดพระบรมธาตุแช่แห้ง
ครั้นใกล้ถึงเวลานัดหมาย พระเณรที่วัดพากันมารอแต่ท่านก็ยังไม่เสร็จธุระกับญาติโยมที่มาหา ท่านจึงบอกให้พระเณรเหล่านั้นเดินทางไปวัดพระบรมธาตุแช่แห้งก่อน (การเดินทางจากวัดท่าล้อไปแช่แห้ง ใช้ระยะเวลาเดินเท้าร่วม 30 - 40 นาที)
หลังจากคุยธุระกับญาติโยมเสร็จในครึ่งชั่วโมงต่อมา เมื่อญาติโยมลากลับไปแล้ว มีคนเห็นครูบาขัติฯเดินกางจ้องไปหลังวัดเดินหายเข้าไปในรูปู เพื่อไปโผล่ออกมาที่หลังวัดพระบรมธาตุแช่แห้ง แล้วเดินเข้าวิหารไป....
ส่วนพระเณรที่เดินทางล่วงหน้ามาก่อน พอไปถึงบริเวณพิธี ก็พากันแปลกใจเป็นอย่างมากที่เห็นครูบาขัติฯนั่งสนทนากับพระสงฆ์รูปอื่นๆในบริเวณนั้น ทั้งๆที่ระหว่างการเดินทางมาแช่แห้งไม่ปรากฏว่ามีพาหนะใดๆแล่นแซงกลุ่มตนขึ้นมาเลย
เรื่องนี้ เมื่อเผยแพร่ออกไปในสมัยนั้น ฮือฮามากครับ ชื่อเสียงของครูบาขัติยะวงศ์ วัดท่าล้อจึงก้องกำจายไปทั่วเมืองน่าน
ส่วนเหรียญของท่าน รุ่นแรก สร้างเมื่อปี 2517 หลังจากที่ท่านมรณภาพไปแล้วครับ ถึงแม้จะเป็นเหรียญตาย แต่กได้รับการบรรจุให้เป็น 1 ในเบญจภาคีเหรียญเกจิเมืองน่าน ตั้งแต่มีการจัดโต๊ะพระชุดเมืองน่านขึ้นมา
อนึ่ง เมื่อปี 2532 มีเด็กนักเรียนป.5 โรงเรียนศรีเสริมฯ ปั่นรถจักรยานกลับบ้านถูกรถยนต์เฉี่ยวชนหน้าร้านศรีคำและติดอยู่ใต้ท้องรถถูกลกมาจนถึงหน้าโรงแรมเทวราช ท่ามกลางสายตาคนนับร้อยในบริเวณนั้น ทุกคนเชื่อว่า...เด็กคงไม่รอด
ปรากฏว่า จักรยานพังยับเยิน เด็กคนนั้นมีเพียงแค่รอยถลอกปอกเปิกนิดหน่อย เหลือเชื่อ ในคอมีเพียง เหรียญครูบาขัติยะวงศ์ รุ่นแรก เหรียญเดียว!!!!
|