อำนาจและอิทธิฤทธิ์ของ พระ ราหู พระ ราหู มีพลังอำนาจเปรียบเสมือนคนที่มีร่างกายใหญ่โต มีความกล้า ทรงฤทธานุภาพมาก ใครเห็นเพียงแว่บแรกก็บังเกิดจิตเกรงกลัว แต่เมื่อคิดจะทำสิ่งใดก็วางแผนแบบคายจนประสบความสำเร็จ ดังนั้น พระราหู มีพลังอำนาจให้เป็นที่ประจักษ์แจ้งดังนี้ 1. ด้วยเหตุที่ พระราหู นั้นเป็นสิ่งที่บดบังพระอาทิตย์ให้อับแสงได้ และเมฆหมอกทั้งปวงนั้นก็คือว่าเป็นบริวารของพระราหู โบราณท่านจึงถือว่า พระราหู เป็นเทพองค์เดียวที่สามารถดับความร้อนของดวงอาทิตย์ให้เย็นลงได้ ก็จะสามารถดับความทุกข์ร้อนของมนุษย์ที่รู้จักกราบไหว้บูชาองค์ พระราหู ได้ เช่นกัน และสามารถระงับโทสะได้จึงถือว่าเป็นข้อดีของ พระราหู แต่ในทางที่กลับกันถ้าทำไม่ถูกต้อง พระราหู ก็สามารถเพิ่มความทุกข์ร้อนได้ ยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวได้เช่นกัน 2. พระราหู เป็นเทพอสูรจึงกล่าวได้ว่าเป็นหัวหน้าของพวกภูตผีปีศาล พวกอสูรมารร้ายทั้งปวงทั้งหลายต้องเกรงกลัวตะบะอำนาจของ พระราหูด้ วยกันทั้ง สิ้น 3. ด้วยเหตุที่ พระราหู สามารถบดบังแสงอาทิตย์และแสงจันทร์ทำให้มืดมิดปิดแสงได้ โบราณเชื่อว่าอำนาจ พระราหู นั้นย่อมสามารถเป็นที่กำบังกายล่องหนหายตัวได้ เช่นกัน 4. พระราหู เป็นผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ โบราณเชื่อว่า อำนาจ พระราหู ดีเด่นทางคงกะพันชาตรีได้ด้วยเช่นกัน 5. พระราหู เป็นอำนาจของความลุ่มหลงมัวเมา คิดจะทำอะไรต้องทำให้ได้ เข้าทำนองที่ว่าตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก ดังนั้นโบราณจึงถือว่า พระราหู มีอำนาจทางเสน่ห์เมตตามหานิยมเป็นอย่างยิ่ง 6. พระราหู เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความเมตตาช่วยเหลือ เพราะโบราณเชื่อว่าในขณะที่เกิดคราสไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน มนุษย์บนโลกได้ใช้กะลาเคาะส่งเสียงหรือยิงปืนจุดประทัดเพื่อส่งเสียงให้ พระราหู คลายจากการกลืนดวงจันทร์หรืออาทิตย์ แล้วการช่วยเหลือมนุษย์ผู้ที่เคาะกะลาหรือส่งเสียงขอความช่วยเหลือ แม้แต่ชาวสวนชาวไร่ก็ต้องเคาะต้นไม้เพื่อให้พระราหูมาช่วยให้เกิดความอุดม สมบูรณ์ บางคนสตาทร์เครื่องรถยนต์หรือกดแตรรถยนต์ เพื่อขอพระราหูให้มาคุ้มครองรถหรือครอบครัวของตนเองให้เกิดความสมบูรณ์ยิ่งๆ ขึ้นไป สำหรับ ผู้ที่เคารพกราบไหว้ พระ ราหู ต้องรู้ว่าเครื่องรางของขลังที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยที่มนุษย์ไม่สามารถ สร้างขึ้นมาเองได้นั้น ได้มีเกิดขึ้นมามากมายในโลกนี้ทั้งที่เป็นพืช โลหะ อโลหะแต่ทั้งนี้ต้องอาศัยการเข้าสมาธิ ญาณ ระดับโลกียะ จึงอาจล่วงรู้ความลับความจริงถึงคุณประโยชน์ของสิ่งเหล่านี้ได้ ผู้ฝึกจิตเข้าถึงสมาธิ ญาณ ขั้นสูงเท่านั้น ที่พึงจะรู้ได้ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าสร้าง ให้มาตามธรรมชาติ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้นำมาประกอบพิธีกรรมปลุกเสกให้เป็นเครื่องรางของขลังก็ตาม เพราะว่าวัตถุมงคลธรรมชาติเหล่านี้มีเทพรักษาอยู่ ตามศาสตร์โยคะของพราหมณ์อินดู ซึ่งเป็นต้นลัทธิการนับถือเครื่องรางของขลังนั้นมีการระบุไว้ว่าวัตถุธาตุ ต่างๆ ในธรรมชาติที่มีเทพรักษาอันทรงพลานุภาพอันน่าอัศจรรย์ โดยวัตถุธาตุเหล่านั้นแต่ละอย่างจะมีความสัมพันธ์กับดาวนพเคราะห์ ในจักรวาลอย่างลี้ลับอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง
อำนาจอานุภาพ สรรพคุณพุทธคุณของกะลาตาเดียวที่นำมาแกะป็นราหูและก็ผ่านพิธีกรรมที่สมบูรณ์ ที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ 1.เป็นอำนาจทางคงกะ พันชาตรี เป็นมหาอุดอย่างเอกอุยอดเยี่ยมที่สุด 2.มีอำนาจในทางป้องกันภูตผีปีศาล ทำลายอำนาจมนต์ดำลบล้างอำนาจคุณไสย กันผีกันคุณไสย เสนียดจัญไรต่างๆ ลมพัดลมเพได้ดีที่สุด 3.เป็น โชคลาภ เป็นสื่อนำทรัพย์สินเงินทอง ข้าวปลาอาหารสิ่งดีๆต่างๆมาสู่ผู้บูชา คำว่าอดอยากเป็นไม่มีคือสามารถหาเงินทองมาได้ตลอดไม่ขัดสนแต่เหลือหรือไม่ เหลือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง 4.มีความเจริญใน การทำมาหากิน เรือกสวนไร่นา รับราชการ มียศถาบรรดาศักดิ์ ค้าขายร่ำรวยทุกอาชีพหากินไม่ขัดข้องตามอาชีพ 5.เป็น เมตตามหานิยมสำหรับผู้พบเห็นเข้าหาเจ้านายหรือ เพศตรง ข้าม 6.ใช้รักษา โรค ถึงในตอนี้ต้องขอสรุปกะลาตาศักดิ์สิทธิ์ 1.เป็นของที่ใช้หาทรัพย์ ได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้นไป 2.ไม่มีคำว่าอดอยากหรือขาดแคลน 3.เป็นเมตตา มหานิยมของคนทั่วไป 4.คงกระพันชาตรีเป็นมหาอุดหยุดกระสุนปืนได้ 5.ป้องกัน คุณไสยต่างๆได้เป็นอย่างดี 6.ประกอบอาชีพต่างๆ หรือรับราชการมีผลดี 7.ใช้ รักษาโรค 8.เป็นโชคลาภ