สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2520 สาเหตุเนื่องจาก คุณหมอสมสุข คงอุไร  ได้เห็นการปลุกเสกรูปเหมือนอนุเสาวรีย์ครูบาเจ้า ชุ่ม โพธิโก ที่วัดวังมุยต้นเดือน กุมภาพันธ์2520ในการปลุกเสกครั้งนั้น ครูบาขันแก้ว ท่านได้ลืมตาปลุกเสกเช่นเดียวกันกับหลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค (คุณหมอสมสุข ท่านเป็นหนึ่งในคณะกรรมการพัฒนาวัดช่องแค) จึงทำให้คุณหมอสมสุข ต้องมากราบนมัสการครูบาขันแก้วที่วัดสันพระเจ้าแดง

                       วัดสันพระเจ้าแดงในขณะนั้น เป็นวัดบ้านนอกชนบทอย่างแท้จริง วัดวาอารามก็เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา คุณหมอสมสุขก็เลยเข้าไปถามครูบาขันแก้ว ว่า “เคยมีการทำบุญทอดผ้าป่า หรือมีการถวายทอดผ้ากฐินประจำปีบ้างไหม? คำ ตอบจากครูบาขันแก้วคือ ไม่เคยมีเลย นับแต่ครูบาขันแก้วเป็นเจ้าอาวาสมา 52 ปี เคยมีคนหลอกว่าจะเอามา แต่สุดท้ายก็ไม่มีเลย และทางชาวบ้าน ก็เป็นชาวไร่ชาวนา ไม่มีทุนพอที่จะบูรณะวัดได้

                        คุณหมอสมสุข จึงบอกกับครูบาขันแก้ว ว่า จะนำผ้าป่ามาถวายวัดสันพระเจ้าแดงเอง คุณหมอสมสุขท่านจึงขออนุญาตครูบาขันแก้ว จัดสร้างเหรียญวัตถุมงคลเพื่อจะได้นำไปให้ผู้ที่มาร่วมทำบุญในครั้งนี้ แล้วคุณหมอก็ปรึกษากับครูบาขันแก้วว่า ท่านได้ออกแบบเหรียญแล้ว เป็นรูปหน้าท่านครูบาขันแก้ว ส่วนข้างหลังจะเอายันต์อะไรดี (ในใจคุณหมอ คือยันต์พระเจ้า 5 พระองค์)  ครูบาขันแก้ว ว่า “เอายันต์พระพุทธคุณนามสิบ เหมือนกับอาจารย์คนแรกของโยมหมอนั่นแหละ” (หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค) ซึ่งสร้างความประหลาดใจแก่คุณหมอสมสุขเป็นอย่างมาก คุณหมอเลยถามต่อไป ว่า ยันต์พุทธคุณนามสิบ มาจากยันต์นวะหรคุณใช่หรือไม่ (อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ) ครูบาขันแก้วตอบว่า “แม่น” เพียงแค่เติมอักขระ “อะ” แล้วลงท้ายด้วยคำว่า โส ภะ คะ วา ใช่ไหม ครูบาขันแก้วตอบว่า “แม่น” ครูบาขันแก้ว ท่านอธิบายเพิ่มเติมภายหลังว่าที่เติมคำว่า “อะ” ลงไปนั้นหมายถึง อนุตฺตโร คือคุณธรรมของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น แล้วท่านยังกล่าวต่อไปอีกว่า นวะหรคุณ ว่าเลิศแล้ว พระพุทธคุณนามสิบ ประเสริฐเลิศยื่งกว่ายันต์อื่นใดในโลก แล้วอยู่ๆ ครูบาขันแก้วท่านก็หยิบแผ่นทองที่เขียนเป็นรูป ยันต์ดาบสหลีกัญชัย ให้คุณหมอสมสุข 2 แผ่น เพื่อนำไปผสมเพื่อทำเหรียญ คุณหมอสมสุข ท่านนำยันต์ดาบนี้ผสมกับทองระฆังของหลวงพ่อพรหมและได้ทำเหรียญรุ่นแรกนี้ ขึ้น

                       เหรียญรุ่นแรกของครูบาขันแก้วมีอยู่ 2 ชนิด คือ

1.เหรียญรุ่นแรกไข่ครึ่งองค์ครูบาขันแก้ว

2.เหรียญนาคปรกนิราศภัย (เป็นเหรียญขนาดเล็ก)

                       เหรียญรุ่นแรก (ไข่ครึ่งองค์) สร้างทั้งหมดจำนวน 13792 เหรียญ แบ่งเป็น

1). เหรียญเงินสร้างจำนวน 170 เหรียญ ตอกโค้ดรูป ดาว ไว้ที่ผ้า สังฆาฏิ ซึ่งอยู่ในชุดกรรมการทั้งหมด

2). เหรียญสำริดผสมทอง ระฆังสร้างจำนวน 3000 เหรียญ แบ่งเป็นชนิด มีห่วง 2500 เหรียญ ชนิดไม่มีห่วง 500 เหรียญ ตอกโค้ดรูป ดาว ตรงล่างเหรียญด้านหน้า

3). เหรียญทองแดงมีทั้งหมด 10600 เหรียญ แบ่งเป็น (1)กะไหล่ทองจำนวน 500 เหรียญ ตอกโค้ดรูปดาว ด้านหลังคำว่า “วัดสันพระเจ้าแดง” (2) แบบไม่มีห่วงจำนวน 500 เหรียญ ตอกโค้ดรูปดาว หน้าคำว่า “วัดสันพระเจ้าแดง”

(3)แบบทองแดงมีห่วงจำนวน 9600 เหรียญ ตอกโค้ดรูป ดาว ด้านหลังข้างบนคำว่า “วัดสันพระเจ้าแดง”

4). พิเศษแบบเนื้อทอง ระฆังหลวงพ่อพรหมล้วนๆ จำนวน 22 เหรียญ ตอกโค้ดรูปดาว เช่นเดียวกันกับเหรียญสำริดผสมทองระฆัง สีของเหรียญจะดูเหลืองสุกกว่าเนื้อสำริดผสมทองระฆังทั่วไป

                        ปรกนิราศภัยครูบาขันแก้ว เป็น พระนาคปรกวงรีรูปไข่ขนาดเล็ก สูงแค่ 1.3 ซม. ชนวนและมวลสารก็เป็นชนิดเดียวกันกับเหรียญรูปไข่รุ่นแรก มีด้วยกันทั้งหมด 3 เนื้อ คือ

1). เนื้อเงินสร้างจำนวน 170 เหรียญ (เท่ากับชุดกรรมการใหญ่) ตอกโค้ดรูปหยดน้ำ ด้านหน้าใต้ฐานพญานาค

2). เนื้อสำริดผสมทองระฆังสร้างจำนวน 8000 เหรียญ ตอกโค้ดรูปหยดน้ำตรงด้านล่างของหลังเหรียญ

3). เนื้อทองแดงสร้างจำนวน 2000 เหรียญ ตอกโค้ดรูปหยดน้ำ ตรงกลางหลังเหรียญ

                       ปรกนิราศภัยเมื่อสร้างเสร็จแล้ว คุณหมอสมสุข ก็ขออนุญาต ครูบาขันแก้ว เพื่อนำไปให้ครูบาพรหมจักร (ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า) ครูบาอินจักรรักษา วัดน้ำบ่อหลวงเจริญ พุทธาภิเษกก่อน เมื่อเสร็จแล้วก็นำมาให้ครูบาขันแก้ว เจริญพุทธาภิเษกแบบลืมตา (เช่นเดียวกับหลวงพ่อพรหม) พร้อมเหรียญรุ่นแรกตั้งแต่ เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2520 เรื่อยมา และในวันสุดท้ายที่มีการทำบุญทอดผ้าป่า ซึ่งตรงกับวันมหามงคลวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2520 ซึ่งในวันนั้นได้มีการทอดผ้าป่า ขึ้นเป็นครั้งแรกของวัดสันพระเจ้าแดง ด้วย ชาวบ้านมีการฟ้อนรำและทานขันโตกต้อนรับคณะผ้าป่าเป็นอย่างดี

                        นิมิตอัศจรรย์ในการปลุกเสกในวันสุดท้าย

                        ในเวลา 1 ทุ่มกว่าๆ ครูบาขันแก้ว ให้คุณหมอสมสุขนำเหรียญรุ่นแรกและปรกนิราศภัยพร้อมทั้งวัตถุมงคลทั้งหมดเข้า ไปในพระวิหาร ตรงหน้าพระเจ้าแดง (พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด) แล้วเรียกพระเณรทุกองค์ที่อยู่ในวัดมาสวดเจริญพุทธมนต์ แล้วครุบาขันแก้วท่านก็ทำการเจริญพุทธาภิเษก วัตถุมงคลตามแบบฉบับของท่านโดยการลืมตาไม่กระพริบเป็นระยะเวลาประมาณ 40 นาทีในระหว่างนั้นขณะที่ครูบาขันแก้วได้ทำการปลุดเสกวัตถุมงคลอยู่ ได้เกิดมีละอองฝนขนาดเล็กโปรยลงมาในบริเวณวัดสันพระเจ้าแดงอย่างน่าอัศจรรย์ ใจ เพราะในวันนั้นไม่มีเมฆฝนอยู่เลยแม้แต่ประการใด

                        ทำให้ผู้คนในบริเวณงานทอดผ้าป่าเกิดความทราบซึ้งปิติในนิมิตอันเป็นมงคลที่ ครูบาขันแก้วปลุกเสกเหรียญรุ่นแรกและปรกนิราศภัยในวันนี้ เมื่อเสกเสร็จคุณหมอสมสุขได้นำวัตถุมงคล ออกให้ประชาชนบูชาและแจกจ่ายแก่คนที่ร่วมทำบุญทั้งหมดและคุณหมอสมสุขยังได้ ถวายปัจจัยในการสร้างเหรียญทั้งหมดให้แก่วัดสันพระเจ้าแดงเพื่อที่ทางวัดจะ ได้บำรุงวัดต่อไป 

พุทธคุณโชคลาภเมตตา มหานิยม ชื้อง่ายขายคล่อง มหาอุต คงกระพัน กันคุณไสยคุณคนครอบจักรวาลครบทุกด้าน เช่นเดียวกันกับหลวงพ่อพรหม วัดช่องแคทุกประการ

ปัจจุบันมีผู้ที่ต้องการเหรียญครูบาขันแก้ว มาก ทั้งการสร้าง และประวัติชัดเจน เซียนพระส่วนภาคกลางบางท่านเริ่มเก็บเข้ารัง เมื่อก่อนตอนปี2548 ราคาเนื้อทองระฆัง 500 ถือว่าแพงมาก เริ่ม ปี2550 ทองระฆัง วิ่งที่ 5000  มาปี2555นี้ เหรียญสวยๆ(ต้องระดับไร้ที่ติ) เกือบ 20000  แต่ส่วนมากที่เห็น7000-10000 ชุดกรรมการ 60000 อัพ แล้วครับตอนนี้ก็อนาคตไม่รู้ว่าจะแรง หรือแพงแค่ไหน เพราะเขาว่าแทนหลวงพ่อพรหม วัดช่องแคได้สบาย ราคาพระไม่ได้ก้าวกะโดดเหมือนพระบางรุ่นแต่อย่างใด เพราะวัตถุมงคลของครูบาขันแก้วไม่มีการปั่นราคา จากเซียนผู้ใด และไม่ได้อยู่มือเซียนคนใดเป็นสต็อค ท่านดังเพราะประสบการณ์จากผู้ที่มีวัตถุมงคลท่านเอง ปัจจุบันเหรียญเก๊ออกมาระบาดแล้ว แต่ฝีมือยังพอดูออก ครับ