ประวัติวัดพระบาทตีนนก (นกยูงทองพระโพธิสัตว์) ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2415 เกี่ยวเนื่องกับประวัติโมรปริตร ในสมัยพุทธการ พระพุทธเจ้าทรงระลึกถึงอดีตชาติ กาลครั้งหนึ่งใด้เกิดเป็นพญานกยูงทองใด้บินมาประทับรอยเท้าใว้บนก้อนศิลาเเลงที่ยังอ่อนตัวอยู่ ตามความเชื่อที่เล่าขานกันมาว่า พญานกยูงทองใด้บินมาอาศัยอยู่ที่ ถําหนองเหล็กซึ่งอยู่บนภูเขาสูงลูกหนึ่ง อย่างสุขสบาย ต่อมาเรียกภูเขาลูกนี้ว่า ดอยพระบาทตีนนก ตามภาษาถ้องถิ่น เเละชอบบินมาหาอาหารที่ หนองเหี้ยง วันหนึ่งพรานป่าพบเข้า จึงมีใจอยากใด้ใว้ครอบครอง เพราะพญานกยูงทองมีลักษณะที่สวยงามเเตกต่างจากนกยูงทั่วไป จึงใด้กลับไปคั่วข้าวตอกในหมู่บ้านปัจจุบันคือ "บ้านทุ้งข้าวตอก" เพื่อนําข้าวตอกมาล่อพญานกยูงโดยนําไปห่วานใว้ใก้ลกับหนองเล็กๆเเห่งหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของภูเขาที่พญานกยูงทองอาศัยอยู่ เเละทําบ่วงหรือก๊องไปดักใว้ สถานที่ว่า
งบ่วงปัจุบันคือ "หนองก๊อง" เเต่ไม่สําเร็จ สุดท้ายด้วยความฉลาดของนายพราน จึงนํานกยูงตัวเมียมาส่งเสียงล่อพญานกยูงทองใด้สําเร็จ เเต่ไม่ใด้ทําอันตรายใดๆ เเละปล่อยพญานกยูงทองไปในที่สุด ต่อมาใด้มีชาวบ้านไปพบรอยเท้าพญานกยูงบนก้อนศิลาเเลงซึ่งเเข็งตัวเป็นหินเเล้ว จึงใด้สร้างพระธาตุเจดีย์ครอบใว้เเละใด้สร้างวัดขึ้นเเละมีพระภิกษุมาอยู่จําพรรษา ลุล่วงมาถึงปี พ.ศ.2473 ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญเเห่งล้านนา ใด้เดินทางมาจาก วัดบ้านหลวง ต.โหล่งขอด อ.พร้าว พร้อมด้วยคณะศิษย์มาพักยัง วัดพระบาทตีนนก ศรัทธาประชาชน จึงใด้นิมนต์ให้ ครูบาเจ้าศรีวิชัย บูรณะวัดพระบาทตีนนกใว้ให้เป็นที่สักการบูชา เเก่ประชาชนทั้งหลาย เเต่เนื่องจากท่านถูกใส่ความ ต้องข้ออธิกรณ์ จึงต้องไปเเก้ข้อกล่าวหา ณ. วัดพระสิงห์วรวิหาร จึงใด้เพียงให้คําทํานายใว้ ณ.วัดพระบาทตีนนกว่า"ในกาลภายหน้าจะมีผู้มีบุญทั้งหลาย ใด้ร่วมกันขึ้นมาบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดพระบาทตีนนกให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป"

จึงใด้เพียงให้คําทํานายใว้ ณ.วัดพระบาทตีนนกว่า"ในกาลภายหน้าจะมีผู้มีบุญทั้งหลาย ใด้ร่วมกันขึ้นมาบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดพระบาทตีนนกให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป"

พระประธานปางราหู หลวงพ่อองค์ดํา พระพุทธรูปศักดิ์สิทธของวัด