พระครูอนุสุตศาสนจักร

พระครูอนุสุตศาสนจักร  นามเดิมชื่อ      กระจ่าง    นามสกุล  จันทวงศ์  เป็นนายจิ่งต่า  นางหล่า  เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๔  ที่บ้านไม้ฮุง    กิ่งอำเภอปางมะผ้า  จังหวัดแม่ฮ่องสอน  เริ่มบวชเณรเมื่ออายุ  ๙  ขวบ  และลาสิกขาออกมาเป็นฆารวาส  ประมาณ  ๗ วัน  ต่อมาพระอุปัชฌาย์เรียกมาให้บวชอีก  จนอายุครบอุปสมบท  จึงได้บวชเป็นภิกษุ  โดยมีพระครูวัดผาบ่องเหนือเป็นอุปัชฌาย์  และได้พำนักกับอุปัชฌาย์ระยะหนึ่ง  จึงย้ายมาอยู่วัดไม้ฮุง  ตำบลจองคำ  เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและภาษาไทย  ต่อมามีคณะศรัทธาวัดจองคำได้นิมนต์ให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจองคำ  เมื่อ  พ.ศ. ๒๔๘๗  และได้ยกฐานะเป็นเจ้าคณะจังหวัดและได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นตรี - โท -  เอก - พิเศษ  ตามลำดับ  ประมาณ  พ.ศ. ๒๕๐๐  ได้ปฏิบัติวิปัสนากัมฐานตามหลักของศาสนา  จนบรรลุธรรมชั้นสูงเป็น            พระสุปฏิปันโนรูปหนึ่งของชาวแม่ฮ่องสอน

ปฏิปทาและกรณียกิจพิเศษ

พระครูอนุสุตศาสนจักร เป็นผู้บุกเบิกในการสร้างโรงเรียนปริยัติธรรมสามัคคีวิทยาทาน และฟื้นฟูสภาพเสื่อมโทรมของวัดจองคำให้มั่นคงจนได้สถาปนาเป็นพระอารามหลวง พลวงพ่อเป็นผู้ที่เอาใจใส่ต่อการศึกษาของศิษย์ทางโลกและทางธรรมโดยสม่ำเสมอ  และมีความเมตตากรุณาโอบอ้มอารีจะหาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยาก

สมเด็จพระสังฆราช ได้พระราชทานประกาศนียบัตรพัดสำนักเรียนตัวอย่างพระปริยัติธรรมแก่หลวงพ่อ  เมื่อวันที่  ๒๔  เมษายน  พ.ศ. ๒๕๓๐  ถึงแม้หลวงพ่อจะมรณภาพไปแล้วก็ตาม               แต่คุณงามความดีที่ท่านได้ทำไว้มิได้สูญ

ตำแหน่งสุดท้ายของหลวงพ่อคือ  อดีตเจ้าอาวาสวัดจองคำและอดีตเจ้าคณะอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน  หลวงพ่อมรณภาพด้วยโรคลมปัจจุบัน  ในห้องน้ำวัดผาอ่าง  ตำบลปางหมู  อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน  เมื่อวันที่  ๑๒  มกราคม  พ.ศ. ๒๕๒๖  เวลาประมาณ  ๑๗.๐๐  น.  ซึ่งวันนั้นเป็นวันออกปริวาสกรรม  ศิริอายุ  ๗๒  ปี  พระราชทานเพลิงศพ วันที่ ๖  มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ มีศรัทธาญาติโยม ประชาชนไปร่วมงานมากเป็นประวัติการณ์ มีการชักเย่อประสาท ( ลากเหลิม  ภาษาไทยใหญ่ )              กลางเมืองจนเชือกขาด  แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ สิ่งที่น่าอัศจรรย์คือ ในขณะที่เชิญประสาทเข้าสู่เมรุ ดวงอาทิตย์ทรงกลด คล้ายมีร่มคันใหญ่กางกั้นบดบังแสงอาทิตย์ไว้มิให้ร้อนทำให้อากาศร่มรื่นเย็น สบายตลอดจนถึงเวลาตอนเย็น  ปัจจุบันอัฐิของหลวงพ่อบางชิ้นได้กลายเป็นพระธาตุ