วัดศรีดอนชัย วัดแรกของอำเภอปาย ฉลองสมโภชวิหารลายคำอย่างยิ่งใหญ่ 7วัน 7 คืน แจกฟรี! เหรียญพระสิงห์ปาย รุ่นแรก แก่ผู้ที่ร่วมงานทุกท่าน
เนื่องด้วยทางวัดศรีดอนชัย ตำบลเวียงเหนือ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นวัดแรกของอำเภอปายเมื่อครั้งตั้งเมืองปาย โดยโบราณชื่อวัดอีกชื่อคือ “วัดหลวง สะหรี๋บัวบาน” เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ (พระสิงห์ปาย) พระพุทธรูปเก่าแก่ศิลปะเชียงแสนสิงห์หนึ่ง เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองประจำอำเภอปาย และปัจจุบันทางวัดได้สร้างวิหารลายคำศิลปะล้านนาที่งดงามยิ่ง และกำลังเตรียมการจะฉลองสมโภชในช่วงระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ถึง วันที่ 6 มกราคม 2556 นี้ 7 วัน 7 คืนด้วยกัน โดยประวัติความเป็นมาของวัดศรีดอนชัย กล่าวคือ สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 1855 โดยพะก่าหม่องซอได้นำทัพพม่ามาตั้งที่บ้านดอนแห่งนี้ พะกาหม่องซอจึงได้สร้างวัดนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก ชื่อว่า วัดบ้านดอนจองใหม่ (หรือวัดใหญ่) โดยการสร้างครั้งแรกนั้นได้สร้างกุฎิ(หรือจองแบบไทยใหญ่) ให้เป็นที่บำเพ็ญกุศลของเหล่าทัพและประชาชนสมัยนั้น ต่อมาปีพุทธศักราช 2020 สมัยที่พระเจ้าติโลกราช เจ้ากษัตริย์ผู้ครองนครพิงค์เชียงใหม่ ได้มีพระบัญชาให้เจ้ามหาชีวิตศรีใจยา หรือเจ้าศรีใจย์ ซึ่งเป็นหลานของพระองค์ ได้นำช้างพลายเผือก 2 เชือก ชื่อช้างพลายเผือกเฒ่ามงคล และช้างพลายแก้วมงคล และเหล่าเสนาทหารยกทัพจากนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ เพื่อมาตีเมืองแห่งนี้จากพะก่ากั่นนะและพะกาส่างกง ซื่งเป็นผู้ปกครองในสมัยนั้น โดยได้รับชัยชนะศึกในครั้งนั้นด้วย การศึกในครั้งนั้นทำให้ช้างเผือก 2 เชือกของเจ้าศรีใจยา ได้หลุดหนีเข้าป่าไป โดยเสนาอำมาตย์ได้ไปติดตามได้ที่ลำห้วยขุนแม่น้ำปายปัจจุบัน (สมัยครั้งนั้นยังไม่มีการตั้งชื่อแม่น้ำ ) และเมื่อเสนาอำมาตย์ได้มากราบทูล เจ้ามหาชีวิตศรีใจยาก็ปรารภว่าแม่น้ำนี้สมควรชื่อแม่น้ำ ปาย เหตุคือเรียกตามที่ได้พบช้างพลาย 2 เชือกคืนในลำห้วยขุนน้ำนั้น (ภาษาเมืองเหนือ ช้างพลาย เรียกว่าจ๊างปาย) และเมืองๆนี้จึงได้ชื่อว่าเมืองปาย ตามชื่อแม่น้ำปายจนบัดนี้ โดยการมีชัยชนะสงครามในครั้งนั้นพระเจ้าติโลกราช ก็ได้สถาปนาพระนามใหม่ให้เจ้าศรีใจยาว่าเจ้าชัยสงคราม ให้ดูแลปกครองเมืองปายสืบต่อไป และได้ทำการสร้างวัดโดยการสร้างขึ้นใหม่ เมื่อปีพุทธศักราช 2021 โดยได้ทำการก่อสร้างวิหาร กำแพง กุฎิ และเสนาสนะอื่นๆตามศิลปะล้านนาเชียงใหม่ และทำการขุดสร้างกำแพงเมือง ประตูเมือง
ปีพุทธศักราช 2023 อัญเชิญ อาราธนาพระพุทธสิหิงค์ (พระสิงห์ปาย) จากเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่มาประดิษฐานเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง อยู่ประจำที่วัดแห่งนี้ และได้เฉลิมฉลองวัดและเวียงไปพร้อมกัน เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน และได้อาราธนาพระวชิรปัญญามหาเถร วัดมหาโพธาราม (เจ็ดยอด) เชียงใหม่ และพระภิกษุมหาเถระจากเมืองพะเยา เชียงราย มาจำพรรษาอบรมศีลธรรมให้กับชาวบ้าน โดยได้ตั้งชื่อวัดใหม่ว่าวัดศรีดอนชัย ในปีนั่นเอง คำว่าศรีชัย เป็นชื่อของเจ้าศรีใจย์ คำว่าดอน เป็นชื่อของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่เนินสูงกว่าแม่น้ำ เอาชื่อเจ้า + ชื่อลักษณะของหมู่บ้าน มาเป็นชื่อวัดว่าวัดศรีดอนชัย (ในพระธรรมเทศนาชาดก วรรณกรรมของลานนาเรื่อง “แสงเมืองหลงถ้ำ” ว่า “วัดสะหลีดอนไจย์แก้วกว้าง เป๋นวัดเจ้าจ๊างอยู่เมืองสูง” และอีกชื่อหนึ่งคือ วัดหลวงศรีบัวบาน (วัดหลวงสะหรี๋บัวบาน) หนอีสาณ แจ่งเมืองปาย กาลต่อมาปีพุทธศักราช 2143 หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จกลับจากศึกเมืองตองอูแล้ว พระองค์ทรงตั้งสัตยาธิฐานว่าจะยังมิกลับกรุงศรีอยุธยา โดยทรงมีรับสั่งให้พักทัพไว้ที่ตำบลศรีประจันต์ เหนือเมืองสุพรรณ และทรงตั้งพระทัยที่จะเสด็จไปประภาสเมืองแสนหวี โดยขบวนเสด็จทางชลมารคออกจากเมืองสุพรรณเมื่อวันอังคาร ขึ้น 9 ค่ำ เดือนยี่ ปลายปีชวดโทศก ตรงกับวันที่ 26 ธันวาคม 2143 พระองค์ได้ผ่านมาทางเมืองเชียงใหม่ ผ่านแม่แตงบ้านเมืองกึ๊ด แล้วเข้ามาเมืองปายโดยเสด็จมากับกองทะลวงฟันล้อมวังรักษาพระองค์และช่างฝีมือ รวมจำนวนพลแล้วเพียงหนึ่งพันเศษเท่านั้น และพระองค์ได้เสด็จมาพักประทับแรมณ ที่คุ้มเจ้าหลวงเมืองปาย โดยได้ทอดพระเนตรการฝึกทหารที่เมืองปาย และเสด็จเข้านมัสการพระพุทธสิหิงค์(พระสิงห์ปาย) และประทับแรมที่ปราสาทหอคำเจ้าฟ้าคุ้มเจ้าหลวงเมืองปายแห่งนี้ (คุ้มเจ้าหลวงเมืองปายปราสาทหอคำเจ้าฟ้า) เป็นเวลาเดือนเศษๆ โดยพระองค์ได้นำพระอัฐิและผอบเกศาของสมเด็จพระพี่นางพระสุพรรณกัลยาที่นางกำนัลในพระองค์มอบถวายให้มา ทรงสร้างสถูป ณ ที่วัดน้ำฮู โดยทรงมีพระบัญชามอบหมายให้เจ้าพระยาสุรสีห์พิษณุวาธิราชเป็นผู้คุมการก่อสร้างสถูปอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สมพระเกียรติสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา องค์วีรสตรีที่ทรงสละสุขส่วนพระองค์เพื่อชาติบ้านเมือง โดยมิหวั่นเกรงต่อภยันตราย สมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยาทรงเป็นผู้ปิดทองหลังพระ ทรงเป็นเบื้องหลังแห่งความสำเร็จของอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาศรีรามเทพมาโดยตลอด เมื่อบรรจุพระอัฐิสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยาไว้ในพระสถูปแล้วเสร็จนั้น สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีพระราชดำรัสให้เคลื่อนขบวนสู่เมืองแสนหวีทันที ขบวนเสด็จเคลื่อนออกจากเมืองปาย เมื่อวันอังคารแรม 6 ค่ำ เดือน 3 ปลายปีชวด (ตรงกับวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2144)
เนื่องจากทางวัดได้มีปูชนียวัตถุสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นกราบไว้สักการบูชาสถิตประดิษฐานอยู่คู่วัดศรีดอนชัยมาเป็นเวลาช้านานก็คือ องค์พระพุทธสิหิงค์ (พระสิงห์ปาย)อันเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองปาย พุทธศิลปะปางมารวิชัยเชียงแสนสิงห์ยุคแรก เนื้อทองสำริด สร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 อายุราวประมาณ 800 – 900 ปี โดยแต่ละปีทางวัดก็จะมีประเพณีการสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์(พระสิงห์ปาย) ในวันสงกรานต์ คือวันที่ 13 เมษายน เป็นประจำทุกปีมาโดยตลอดตั้งแต่โบราณกาล สำหรับวิหารลายคำของวัดศรีดอนชัยหลังนี้ ทางวัดได้กราบนิมนต์ท่านพระอาจารย์สิทธิพงษ์ เจ้าอาวาสวัดร้องขุ้ม อำเภอสันป่าตอง จ.เชียงใหม่มาเป็นประธานในการสร้างวิหารในครั้งนี้ โดยได้รับเมตตาบารมีธรรมความอุปถัมภ์จากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร อธิบดีสงฆ์วัดป่าหมู่ใหม่ อำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ ที่ได้อนุญาตให้ทางวัดได้สร้างพระกริ่งรุ่นแรกขององค์หลวงพ่อ เพื่อมอบแก่ผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างวิหารมาแต่เริ่มแรกจนถึงความสำเร็จเสร็จสมบูรณ์พร้อมที่จะฉลองสมโภช จึงขอเชิญชวนศรัทธาสาธุชน ที่ได้เคยทำบุญบูชาพระกริ่งรุ่นแรกขององค์หลวงพ่อประสิทธิ์ และที่ได้เคยมากราบสักการะองค์พระพุทธสิหิงค์ (พระสิงห์ปาย) และเคยได้ร่วมทำบุญสร้างวิหารลายคำ กับทางวัดครั้งเมื่อมาเที่ยวอำเภอปาย และศรัทธาสาธุชนผู้ใจบุญทั้งหลายมาร่วมทำบุญฉลองสมโภชวิหารลายคำของทางวัดดังกล่าวในระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2555 – วันที่ 6 มกราคม2556 นี้ โดยในงานมีการแสดงซึ่งนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมล้านนา และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ล้านนา และจัดพิธีมหาพุทธาภิเษกองค์พระสิงห์ปาย จำลอง 9 นิ้วครึ่ง และเหรียญพระสิงห์ปายรุ่นแรกที่จะนำแจกฟรี! ให้กับสาธุชนที่ไปร่วมงานทุกท่านที่ไปร่วมงานในครั้งนี้ โดยพิธีมหาพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ตลอดทั้งวันและทั้งคืน จนถึงรุ่งแจ้งเช้าของวันที่ 1 มกราคม2556 ท่านใดมีความประสงค์ใคร่ถวายสังฆทานพระสงฆ์ที่ได้กราบนิมนต์มาในงาน และเป็นเจ้าภาพตั้งโรงทาน อาหาร เครื่องดื่ม แจ้งเป็นเจ้าภาพทำบุญได้ที่ หลวงพ่อพระครูอนุสารปัญญากร เจ้าอาวาสวัดศรีดอนชัย โทร.086-9228631, 053-698190 ได้ทุกวันครับ
|