บทนำ

ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่อยากจะศึกษาวิธีดูพระกรุแยกแยะเก๊แท้ว่าเป็นอย่างไร และก็มีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าจะไปศึกษาจากที่ใหนเพราะไม่มีโรงเรียนหรือหลักสูตรที่เปิดสอน โดยส่วนมากจะศึกษาด้วยตนเอง ส่วนผู้ที่มีความรู้ในการดูพระกรุส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยถ่ายทอดวิชาให้กับใครง่ายๆ ที่ผมตัดสินใจที่จะถ่ายถอดความรู้ในการศึกษาพระกรุให้กับเพื่อนๆผู้รักและนิยมพระกรุทุกท่านเพราะเห็นว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านที่สนใจจะศึกษาการดูพระกรุที่ถูกต้องเป็นอย่างมาก และสืบเนื่องจากเมื่อหลายวันก่อนผมได้มีโอกาศไปเดินหาของที่สนามพระ และได้เจอคนผู้หนึ่งซึ่งมีความตั่งใจอยากที่จะศึกษาวิธีดูพระกรุและอยากได้พระกรุแท้ๆไว้บูชาสักองค์ แต่สิ่งที่ผมได้ยินจากผู้ขายพระที่จะสอนในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพื่อที่หลอกขายพระให้กับคนผู้นั้นได้จุดประกายให้ผมอยาก เขียนหลักสูตรวิธีดูพระกรุขึ้นมาเองเลย ถึงอย่างไรก็ตามแต่ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่ผมจะถ่ายทอดให้กับทุกท่านและคนที่สนใจ จะเป็นประโยชน์สูงสุด กับตัวท่านเอง

 ก่อนที่ท่านจะศึกษาพระกรุในแนวทางและแบบฉบับของผม ท่านจะต้องเข้าใจในสิ่งต่อไปนี้ก่อน

1. อย่าได้หูเบา หมายความว่า อย่าได้หลงเชื่อคำพูดของใครง่ายๆโดยไม่ได้พิจารณาถึงเหตุผลความเป็นจริง เช่น คนขายบอกว่า พระองค์นี้ได้มาจากปู่, พระองค์นี้ได้มาจากคนแก่เขาอยู่ไกล่วัดเลย ให้จำไว้เสมอว่าประโยคบอกเล่าของคนขายพระไม่ได้มีส่วนทำให้พระแท้ ให้คิดว่าพระจะมาจากใหนไม่สนใจดูให้เก่าและแท้ เป็นใช้ได้
2. อย่าใจร้อน หมายความว่า เรายังศึกษาไม่เขาใจดีพอแยกแยะยังไม่ขาด อย่าใจร้อนด่วนเช่าพระมาในขณะที่ยังไม่รู้จริงและอย่าได้จินตนาการเอาเองในการดูพระ เช่น คิดว่าองค์นี้น่าจะเป็นพิมพ์ พิเศษ หายาก ขึ้นจากกรุน้อย ให้เราจำไว้ว่าพระที่ไม่มีในสาระบบเป็นพระเก็ แน่นอน
3. อย่าโลภมาก หมายความว่า เห็นว่าพระมีราคาเป็นแสนเป็นล้าน เกิดความอยากไม่ได้วิเคราะห์ให้ถ่องแท้ ให้เราคิดว่าพระราคานี้เขาจะขายให้เราราคานี้จริงหรือ คนขายก็ไม่ได้โง่ไปกว่าเราเป็นพระก็อย่าเกิดความโลภ

บทที่ 1 ความเป็นมาของพระกรุ

เพื่อที่จะให้เข้าใจถึงความเป็นมาของพระกรุว่ามีความเป็นมาอย่างไรและทำไม อันว่าพระกรุนั้นเป็นพระที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็เข้าพิธีพุทธพิเศก แล้วนำไปบรรจุไว้ในเจดี หรือ กรุ การเวลาผ่านพ้นมาหลายร้อนหลายพันปี จนเจดีที่บรรจุพระเหล่านั้นหักพังลงมาหรือคนไปขุดประเจาะนำพระเหล่านั้นออกมาเราจึงเรียกพระเหล่านั้นว่า พระกรุ ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะสงสัยว่า ทำไม พวกนักเล่นพระถึงรู้ว่าพระกรุโนนกรุนี้พิมพ์โนนพิมพ์นี้ ทั้งที่เกิดไม่ทันตอนสร้างพระแล้วจะรู้ได้ยังไงอันที่จริงแล้วไม่มีใครเกิดทันตอนที่สร้างพระอันนี้เป็นข้อเทจจริง เพียงแต่ว่าตอนที่พระออกจากกรุในครั้งแรกคนที่เขาได้พระมาเขาก็ย่อมรู้อยู่แล้วว่าพระมาจากที่ใหน กรุอะไร และเขาก็บอกต่อๆกันมา อีกทั้งในสมัยก่อนนั้นพระที่ได้มาก็จะให้กันเฉยๆหรือไม่ก็นำมาแลกโนนแลกนี่กัน ไม่ได้มีการซื้อขายเหมือนในปัจจุบันนี้ และเมื่อพระเหล่านั้นมีประสบการณ์อะไรก็แล้วแต่ พระก็เริ่มจะหายาก คนเขาหวงอยากเก็บไว้บูชา จึงจำเป็นที่ต้องมีการซื้อขายให้ราคา เมื่อมีการซื้อขายก็จะมีพวกหัวใสทำพระปลอมขึ้นมาอันนี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่พระปลอมในสมัยก่อนเขาปลอมไม่เก่งเหมือนในปัจจุบันนี้แน่นอน คนที่เขามีพระแท้ๆเขาย่อมรู้ว่าแท้ปลอมมันต่างกัน ทำให้เกิดเป็นบรรทัดฐานในการศึกษาพระในเวลาต่อมา ความรู้ในการดูพระนั้นก็ถูกถ่ายทอดจาก คนรุ่นก่อนมาจนถึงปัจจุบันนี้ และพระเหล่านั้นก็จะถูกจัดว่าเป็นพระสากลนิยม และเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ให้เราเข้าใจว่า พระที่ทำออกมาแล้วไม่มีในสาระบบอย่าได้ให้ความสนใจเล่นหา พระกรุนอกสาระบบเราจะได้ยินบ่อยๆ เช่น พระร่วงกวาดลานวัด,ขุนแผนถือดาบนั่งหัวกระโหลกอุ่มกุมารทอง และพระกรุพิมพ์พิเศษที่ไม่มีในระบบประกรุนั้นๆ พระเหล่านี้ไม่ควรเล่นหา

บทที่ 2 เตรียมตัวก่อนศึกษา

การศึกษาคือการลงทุน ไม่มีอะไรที่ไม่ต้องลงทุน เมื่อเป็นนักเรียนเราก็ต้องมีหนังสือ ปากา ดินสอ สมุด สิ่งเหล่านี้จำเป็นในการศึกษาเราต้องเตรียมให้พร้อม  การศึกษาพระกรุก็เหมือนกัน ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมเตรียมอุปกรณ์ที่ดี  ทำอะไรก็ต้องทำจริงจัง และสิ่งที่จะต้องเตรียมในการศึกษาพระกรุในแบบฉบับของผมก็เหมือนกัน ผู้ที่จะศึกษาต้องมีอุปกรณ์ หากว่าท่านอยากจะดูพระเป็นก็ต้องทำตามขั้นตอนและวิธีการแบบเรียนนี้จะไม่มีประโยชน์เลยหากท่านไม่มีอุปกรณ์และการเตรียมตัว สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนศึกษาคือ

1. กล้องส่องพระ  เปรียบได้กับอาวุทของนายพราน หากไม่มีกล้องก็ไม่ต้องส่องพระ(เพราะไม่มีกล้อง) กล้องส่องพระนั้นควรเลือกกล้องที่ ขยายเห็นได้ชัด ควรเลือก ขนาด 10X ขึ้นไป และควรใช้กล้องที่เหมาะกับสายตาของเราด้วย ราคาก็ไม่แพง เริ่มตั่งแต่ 50 บาทขึ้นไป แต่ผมจะแนะนำอย่างงี้ว่า ใหนๆเราก็ตั่งใจจะสะสมพระกรุอยู่แล้วใช้มันของดีไปเลย เอาที่ขยายแล้วเห็นชัดๆสบายตา ราคาอยู่ที่ประมาณ 500 บาทขึ้นไป มันดีกว่าของถูกอยู่แล้ว ซื้อมาก็ใช้ได้ตลอดชีวิต หรือถ้าท่านชอบ แบบเมดอินเจเปน อันละ 50-60 บาทก็ตามสะดวกก็ถือว่าใช้ได้

            2. หนังสือพระ หนังสือพระก็คือตำราของเราไม่มีตำราเราจะรู้ได้ยังไง หนังสือพระที่ผู้เขียนต้องการให้ผู้ที่จะศึกษาจำเป็นต้องมีในการเรียนรู้แบบฉบับที่ผู้เขียนกำหนดคือ หนังสือพระที่รวมเฉพาะพระที่เราใช้ในการศึกษาเพียงอย่างเดียวเท่านั้นและไม่อนุญาติให้ใช้หนังสือพระที่มีพระหลายองค์รวมกันในเล่มเดียว การเริ่มศึกษาพระกรุให้เป็นจำเป็นต้องมุ่งให้เข้าใจให้ลึกซึ้ง จำเป็นจะต้องมุ่งไปที่เราจะศึกษาเท่านั้น เมื่อเราเป็นแล้วกรุอื่นองค์อื่นก็เป็นง่ายๆสำหรับเรา หนังสือเหล่านี้หาได้ง่ายตามร้านหนังสือพระทั่วไป เช่น รวมพระคง, รวมพระเปิม อะไรก็ว่าไป ราคาอยู่ที่ประมาณ 120 บาทหรือมากกว่านี้ แนะนำ ให้ซื้อแบบดีๆไปเลยถ้ามีเงิน พวกปกหนาๆภาพดูชัดๆ ประมาณ 800 บาท ถึง พันกว่าบาท อะไรพวกนี้ ผมว่าภาพจะชัดกว่ามีเย้อกว่า

1. องค์ครู  อันนี้เป็นหัวใจ จะศึกษาในแบบของผม อันนี้ต้องมีบังคับ องค์ครูหมายถึงพระกรุของแท้ที่จะใช้ในการศึกษา ไม่จำเป็นต้องเป็นพระสวย หักๆก็ได้สึกๆก็ได้  ไม่ได้บังคับ แต่ถ้ามีเงินหน่อยก็ลงทุนเอาพระสวยมาเลยไม่ต้องสวยมากก็ได้ เอาแบบพอดี  ถ้าจะให้ผมแนะนำเริ่มศึกษาพระกรุควรเริ่มจากพระคง เพราะเป็นพระที่ดูแล้วเป็นเร็ว มีธรรมชาติแห่งความเก่าที่เป็นครูเราได้  ราคาพระคงองค์สึกๆ หรือไม่สมบูรณ์ ประมาณ 2000-3000 ก็ยังพอหาได้ ถ้ามีทุนหน่อยยากจะให้ได้ศึกษาแบบสมบูรณ์ทั้งองค์ไปเลย ไม่เกิน 15000 ก็โอเคแล้ว

แล้วจะหามาจากใหนละ ดูยังไม่เป็นเลย ไม่ต้องตกใจ มีหลายวิธีที่จะได้องค์ครูมา

1. เช่าจากเซียนที่ไว้ใจได้ หากเรารู้จักเซียนพระที่ไว้ใจได้มีของแท้ขายให้เรา ก็ลองติดต่อเขาขอเช่าดู วิธีนี้ไม่ค่อยอยากแนะนำ เพราะไม่รู้ว่าจะได้แท้หรือปาวได้เก๊มาก็จบเลย
2. เช่าจากหนังสือพระ อันนี้ดีขึ้นมาหน่อย ได้ของแท้แน่นอนหนังสือพระยังไงเขาก็มีรับประกันและน่าเชื่อถือได้ แต่ข้อเสียคือราคาจะแพงเท่านั้นเอง
3.  เช่าจากในเวป วิธีการก็คือ เอาพระที่เขาประกาศขายมาให้คนในเวปช่วยดูว่าแท้หรือไม่  มือมั่นใจว่าแท้ก็เช่ามาเป็นครู

สรุปการศึกษาพระในแบบของผู้เขียนจำเป็นอย่างมากต้องมีสิ่งหล่านี้ขาดไม่ได้  รวมๆแล้ว การเตรียมอุปกรในการศึกษาพระกรุ

หากมีทุนน้อยก็อยู่ ราวๆ ไม่เกิน 3500 บาท หากมีทุนหน่อยใช้อุปกรณ์อย่างดี ก็ตกอยู่ประมาณ ไม่เกิน 15000 บาท ไม่ว่าจะ สามพันห้า หรือ หมื่นห้า ได้ทั้งนั้น เมื่อเตรียมพร้อมแล้วก็เริ่มศึกษาในบทต่อไป

ปล อาจารย์ อเล็ก พระกรุ จะมาต่อบทที่ 3 ให้ในคลาวหน้า วันนี้จบไว้แค่นี้ก่อน หากมีคำถามไม่เข้าใจเขียนคอมเม้นไว้จะมาตอบให้ ขอให้โชคดี