7 สิ่งก่อสร้างสุดสันโดษที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริง
7 สิ่งก่อสร้างสุดสันโดษที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก oddee.com
บางครั้งเราอาจจะเคยอ่านนิยายหรือดูภาพยนตร์ที่มีบ้านเดี่ยวสุดสยองตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลหรือป่าลึกตามลำพัง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะมันเป็นเพียงแค่เรื่องสมมุติเท่านั้น แต่ใครจะคิดล่ะว่า ชีวิตจริงจะมีคนรักความเงียบสงบมากพอจะไปใช้ชีวิตสันโดษในที่ห่างไกลผู้คนและความเจริญอย่างบ้าน 7 หลังที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งจะมีบ้านแบบไหนบ้างนั้น ลองไปดูกันเลย
1. บ้านเดี่ยวบนเกาะ Elliðaey
เกาะ Elliðaey นั้นเป็นหนึ่งในเกาะของหมู่เกาะ Vestmannaeyjar ประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งไม่มีใครอยู่และมีบ้านเพียงหลังเดียวเท่านั้น ซึ่งบ้านนี้สร้างขึ้นเพียงเพื่อใช้เป็นที่เก็บของหลังล่าสัตว์ของผู้ปกครองเมืองท้องถิ่นเท่านั้น ไม่มีใครอาศัยอยู่ ทั้งนี้ ในอดีตนายกรัฐมนตรีของไอซ์แลนด์เคยจะมอบเกาะแห่งนี้ให้เป็นรางวัลแก่ Björk นักร้องสาวที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศด้วย แต่สุดท้ายโครงการนี้ก็ต้องล้มเลิกไปเพราะเสียงคัดค้านของประชาชน
2. กระท่อมบนภูเขาแมตเตอร์ฮอร์น
หลาย ๆ คนอาจอยากมีบ้านบนภูเขาที่เงียบสงบไว้ให้ตัวเองได้พักผ่อนใกล้ชิดกับธรรมชาติบ้าง แต่คงมีน้อยคนที่ฝันอยากได้บ้านแบบนี้แน่ โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคกลัวความสูง เพราะบ้านซึ่งสมาคมเทือกเขาเอลป์สร้างขึ้นหลังนี้ อยู่บนภูเขาแมตเตอร์ฮอร์นซึ่งเป็นภูเขามีชื่ออยู่ในเทือกเขาเอลป์ที่หนาวจนแทบขาดใจ แถมตัวบ้านยังอยู่สูงถึง 4,003 เมตร บนหินชันน่าหวาดเสียวที่ต้องอาศัยทักษะการปีนเขาดี ๆ อีกต่างหาก (กว่าจะปีนกลับบ้านได้คงเหนื่อยน่าดู)
3. บ้านกลางแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์
ดูท่าเจ้าของบ้านหลังนี้จะรักความสงบและธรรมชาติมากจริง ๆ จึงได้เลือกสร้างบ้านไว้กลางแม่น้ำแบบนี้ เพื่อจะได้ผ่อนคลายเต็มที่โดยปราศจากเสียงรบกวน และชมวิวสวย ๆ ได้ทุกวัน ซึ่งเขาก็ได้ตั้งชื่อบ้านว่า "Just Room Enough" หรือที่หมายความว่าขนาดพอเหมาะนั่นเอง ที่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อของบ้านก็สมกับขนาดกะทัดรัดอย่างที่เราเห็นจริง ๆ นั่นแหละ
4. อาศรม San Colombano
โดยอาศรมที่ตั้งอยู่ในแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี แห่งนี้ มีอายุเก่าแก่เกือบ 700 ปี และอยู่บนหุบเขาเลโนที่ความสูง 120 เมตร โดยตั้งชื่อตามชื่อของนักบวชชาวไอริช ซึ่งมีตำนานเล่าขานว่าแต่เดิมที่ตรงนี้เป็นหุบเขาที่มังกรอาศัยอยู่และจับเด็ก ๆ ไปกินจนชาวบ้านเดือดร้อนกันไปทั่ว ซึ่งภายหลังนักบวชก็ได้ฆ่ามังกรตัวนี้เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน ประชาชนจึงได้สร้างอาศรมแห่งนี้ตามชื่อของเขาขึ้นแทนที่ถ้ำมังกรเพื่อเป็นการขอบคุณ ซึ่งถ้าใครสนใจอยากจะไปเยียมชมอาศรมแห่งนี้สักหน่อย ก็สามารถเข้าไปได้จากการเดินขึ้นบันไดหินที่สลักเอาไว้
5. อารามศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 ของประเทศกรีซ
อารามศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 นี้ เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างของ Meteora อารามศักดิ์สิทธิ์ดั้งเดิมของประเทศกรีซ โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1476 บนภูเขาสูงถึง 400 เมตร ซึ่งในอดีตเคยใช้วิธีเดินทางด้วยการใช้บันไดตาข่ายปีนข้ามไป แต่ในปัจจุบันได้มีการสลักบันไดหินให้นักท่องเที่ยวใช้กันแล้ว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันที่นี่ไม่อาจเรียกว่าสมบูรณ์เหมือนสมัยก่อนได้ เพราะมีทรัพย์สินมากมายหายไป หลังถูกขโมยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
6. บ้านกลางเกาะเมืองสวีเดน
ถ้าคุณเป็นคนรักสงบที่อยากได้บ้านพักตากอากาศริมทะเลสวย ๆ สักที่ คุณคงต้องอิจฉาเจ้าของบ้านหลังนี้แน่นอน เพราะเขาเป็นเจ้าของบ้านซึ่งมีอยู่หลังเดียวบนเกาะใกล้เมืองสต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ซึ่งบ้านหลังนี้มีทุกอย่างครบพร้อมสำหรับการพักผ่อน ทั้งวิวสวย ๆ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนั่งแขก ห้องเซาว์น่า และอีกมากมาย ในพื้นที่ 137 ตารางเมตร เรียกได้ว่า สมบูรณ์แบบจริง ๆ
7. Katskhi Pillar โบสถ์แห่งแรกในรัฐจอร์เจีย
หลังจากที่รัฐจอร์เจีย ได้ประกาศให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำรัฐในศตวรรษที่ 4 ก็ได้ดำเนินการสร้างโบสถ์แห่งแรกเป็นลำดับต่อมาในศตวรรษที่ 7 ซึ่งนั่นก็คือ โบสถ์ Katskhi Pillar แห่งนี้นั่นเอง โดยโบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนเขารูปร่างคล้ายตะบองของยักษ์ซึ่งมีความสูงถึง 40 เมตร ซึ่งถ้าสาว ๆ คนไหนอยากลองไปเที่ยวสักครั้งก็คงต้องเสียใจด้วย เพราะที่นี่ไม่อนุญาติให้ผู้หญิงขึ้นมาบนเขาจ้ะ
พออ่านดูแล้วก็รู้สึกว่าการสร้างบ้านแบบที่ห่างไกลผู้คนก็ดีไปอีกแบบ เพราะช่วยให้ความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบดี แต่ก็ต้องทนกับการเดินทางที่แสนลำบากด้วยเหมือนกัน ดังนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนแล้วล่ะว่าชอบบ้านในเมือง หรือบ้านแบบสันโดษมากกว่ากัน
เครดิต http://travel.kapook.com/view42294.html