พระล้านนาดอทคอม แหล่งรวมพระเครื่องเมืองเหนือ
โชว์พระเกจิอาจารย์ล้านนา

ด้ายสายสิญจน์ของดี ครูบาชัยวงค์


ด้ายสายสิญจน์ของดี ครูบาชัยวงค์


ด้ายสายสิญจน์ของดี ครูบาชัยวงค์

   
 

ด้ายสายสิญจน์ครูบาชัยวงค์

ทุก ครั้งที่มีการทำบุญนิมนต์พระมาสวดเจริญพุทธมนต์ แม้จะเป็นของไสยศาสตร์หรือเรื่ององการทำบุญต่างๆก็ตามสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ด้ายสายสิญจน์ เมื่อมีด้ายสายสิญจน์ก็ต้องมีบาตรน้ำมนต์วางหน้าที่บูชาและมีด้ายสายสิญจน์ ต่อโยงลงมาจากองค์พระพุทธรูปมาพันเข้ากับบาตรน้ำมนต์ตอนปลายของสายสิญจน์ นั้นจะถูกส่งไปที่พระภิกษุสงฆ์ที่กำลังเจริญพระพุทธมนต์อยู่โดยมีพระภิกษุ สงฆ์ถือด้ายสายสิญจน์อีกปลายหนึ่งซึ่งส่งต่อกันไปตลอดแถวมือที่ถือนั้นประนม ในเวลาสวดเจริญพุทธมนต์ไปด้วย

 

มี เรื่องในเตลปัตตชาดกลิตตวรรคเอกนิบาต ขุนทกนิกาย เล่าไว้ว่าสมัยหนึ่งเมื่อมีพระโพธิสัตว์ ได้อุบัติในราชตระกูลของพระเจ้าพรหมทัตในเมืองพาราณสีพระองค์เป็นพระกนิษฐ ภราดรองค์สุดท้อง  วันหนึ่งทรงคิดว่าพระเจ้าพี่ ของเรามีมากมาย ราชสมบัติในพระนครนี้จะตกทอดมาถึงเราเชียวหรือควรจะถามพระปัจเจกพุทธเจ้าดู คงจะรู้ได้ ครั้นวันรุ่งขึ้น เมื่อนำอาหารไปถวายพระพุทธเจ้าขณะรออยู่จนฉันเสร็จจึงถามถึงข้อสงสัยพระ ปัจเจกพระปัจเจกพุทธเจ้าพิจารณาดูก็รู้ว่าพระโพธิสัตว์จะไม่ได้ครองสมบัติใน เมืองนี้แต่จะไปได้ในเมืองตักกสิลาในระหว่างที่พระโพธิสัตว์เสด็จไปเมืองตัก กสิลานั้นมีนางยักษิณีอาศัยอยู่ นางยักษิณีนี้ชอบหลอกลวงจึงขอให้พระโพธิสัตว์อย่าหลงในรูปเสียงกลิ่นสัมผัส ให้มากนัก

 

พระ โพธิสัตว์เมื่อได้ฟังคำเตือนก็รับไว้ด้วยความเคารพและอาราธนาให้พระปัจเจก พุทธเจ้าทั้งหลายสวดพระปริตร และ ปริตนสุตตะ คือ ด้ายปริตร หรือด้ายสายสิญจน์ พระพุทธปัจเจกพุทธเจ้ามอบด้ายสายสิญจน์ ให้ พระโพธิสัตว์แล้วก็นมัสการลากลับ ทูลลาพระมารดาให้ทรงทราบ เมื่อได้รับอนุญาตแล้วก็เสด็จกลับมาบอกบุรุษทั้ง 5 ซึ่งเป็นมหาดเล็กของพระองค์ว่าจะเสด็จไปยัง นครตักกสิลาบุรุษทั้ง 5ก็ยินดีที่จะเสด็จตามไปด้วยแต่พระโพธิสัตว์ได้บอกว่าถ้าจะเสด็จตามไปด้วยกัน ละก็จงอย่ายินดีในรูปรส กลิ่น เสียง สัมผัสเลยทีเดียว ฉะนั้นจะเป็นอันตรายเมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทาง  วันหนึ่งพระโพธิสัตว์ และบุรุษทั้ง 5 เดิน ทางมาถึงดงใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งมีนางยักษิณีอาศัยอยู่ พอนางยักษ์ได้เห็นบุรุษเหล่านั้นก็ชอบใจจำแลงกายเป็นสาวสวยลงมาเพื่อล่อให้ หลง คนไหนชอบรูปงามก็แปลงรูปให้งาม คนไหนชอบเสียงก็ทำเสียงให้ไพเราะถูกใจ หลอกล่อบุรุษทั้ง 5 ไป กินจนหมด เหลือแต่พระโพธิสัตว์เพียงองค์เดียวนางยักษิณีจะหลอกล่อแต่อย่างใดพระ โพธิสัตว์ก็มิได้หวั่นไหวไปตามรูป รส กลิ่นเสียง สัมผัส นั้น นางยักษิณีก็ทำอันตรายพระโพธิสัตว์นั้นไม่ได้ ได้แต่เดินตามไปข้างหลังทั้งนี้พระโพธิสัตว์มีของดีติดตัวมา คือทราย และด้ายสายสิญจน์ทีพระปัจเจกพุทธเจ้ามอบให้

 

เมื่อ พระโพธิสัตว์เสด็จถึงเมืองตักกสิลาก็ได้เข้าพัก ณ ศาลาแห่งหนึ่งได้เอาสายเสกโรยบนศีรษะและเอาได้สายสิญจน์วนรอบศาลาด้วยเดช อำนาจของสายเสกและด้ายสายสิญจน์นางยักษ์ก็ไม่อาจเข้าใกล้ได้อีก จนในที่สุดพระราชาเมืองตักกสิลาได้เสด็จมาพบนางยักษ์แปลงกายอย่างสวยงามเข้า ก็พอพระทัยเอามาเป็นพระสนมในที่สุดก็ถูกนางยักษ์จับกิน เมืองตักกสิลาจึงไม่มีพระราชาครองเมือง ประชาชนครั้นเห็นรูปโฉมพระโพธิสัตว์มีลักษณะดีพอสมควรเป็นราชาได้ก็พา อัญเชิญให้ขึ้นเสวยราชสมบัติเป็นพระราชาเมืองตักกสิลาสืบไป

 

ด้วยเหตุนี้ด้ายสายสิญจน์จึงนิยมถือเป็นประเพณีใช้ล้อมสถานที่ในเวลาประกอบพิธีและใช้ในมงคลอื่นๆเช่นสวมศีรษะ สวมคอ ผูกข้อมือ  โดย ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ป้องกันอันตรายได้เหตุที่ต้องใช้ด้ายสายสิญจน์กระทำ ดังนี้มีความหมายในลัทธิพราหมณ์อยู่ว่าเป็นการถ่ายปราณหรือถ่ายกระแสแห่ง อำนาจพุทธคุณจากองค์พระพุทธรูปและพระธรรมจากที่พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ไปตาม ด้ายสิญจน์ถึงภาชนะใส่น้ำมนต์และวัตถุมงคล

 

                ทุก ครั้งที่มีการทำบุญนิมนต์พระมาสวดเจริญพุทธมนต์ แม้จะเป็นของไสยศาสตร์หรือเรื่องของการทำบุญต่างๆก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ด้ายสายสิญจน์ เมื่อมีด้ายสายสิญจน์ก็ต้องมีบาตรน้ำมนต์วางหน้าที่บูชาและมีด้ายสายสิญจน์ ต่อโยงลงมาจากองค์พระพุทธรูปมาพันเข้ากับบาตรน้ำมนต์ตอนปลายของสายสิญจน์ นั้นจะถูกส่งไปที่พระภิกษุสงฆ์ที่กำลังเจริญพระพุทธมนต์อยู่โดยมีพระภิกษุ สงฆ์ถือด้ายสายสิญจน์อีกปลายหนึ่งซึ่งส่งต่อกันไปตลอดแถวมือที่ถือนั้นประนม ในเวลาสวดเจริญพุทธมนต์ไปด้วย

 

ด้าย สายสิญจน์ถือเป็นของสูงเพราะโยงมาจากพระพุทธรูปเสมือนพระพุทธรูปได้มีส่วน ร่วมในการเจริญพระพุทธมนต์ใครจะเหยียบจะข้ามไม่ได้เป็นอันขาด สายสิญจน์จึงเท่ากับโยงความเคารพต่อมายังผู้ประกอบพิธี ในขณะที่พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ซึ่งมีด้ายสายสิญจน์อยู่ในมือทำให้ท่าน มีสติระมัดระวังมิให้เผลอทำให้ท่านตั้งใจสวดจริงๆ ถือเสมือนหนึ่ง ว่าจิตของท่านพร้อมถึงพระธรรมจะได้ผ่านไปตามเส้นด้ายนั้นเป็นการเพิ่ม สติ สมาธิ ปัญญา อันเป็นรากฐานและที่มาของพลังจิตเข้มขลังอันศักดิ์สิทธิ์

 
     
โดย : ศิวิไล   [Feedback +55 -0] [+36 -1]   Mon 19, Dec 2011 20:30:26
 








 

สายตรงคนนี้  ของเขาแน่นอน จริงๆ  ดอยสายตรง ครูบาชัยวงค์  

 
โดย : samran    [Feedback +121 -1] [+0 -0]   [ 1 ] Mon 19, Dec 2011 20:35:43









 
ข้อมูลประกอบการบรรยายได้รับความรู้จากพระไครปิฎกด้วยครับ
 
โดย : pingpong    [Feedback +39 -0] [+1 -0]   [ 2 ] Mon 19, Dec 2011 21:17:37





 
 
โดย : kanung    [Feedback +44 -0] [+1 -0]   [ 3 ] Mon 19, Dec 2011 23:28:34





 
ไปตันเป๋นปี่หนาน เมื่อไดเนี่ยะ..น้องดอย..
 
โดย : เซียนกิ๊กก๊อก    [Feedback +53 -0] [+0 -0]   [ 4 ] Tue 20, Dec 2011 13:01:29

 
 
โดย : ตี๋แสงจันทร์    [Feedback +42 -1] [+0 -0]   [ 5 ] Tue 20, Dec 2011 13:58:14





 

 
โดย : พระช้างเผือก    [Feedback +37 -0] [+0 -0]   [ 6 ] Tue 20, Dec 2011 18:49:59





 
สาธุ..........
 
โดย : papapa    [Feedback +3 -0] [+0 -0]   [ 7 ] Sat 24, Dec 2011 09:34:23

 
ด้ายสายสิญจน์ของดี ครูบาชัยวงค์ : พระล้านนา.คอม เว็บ พระเครื่อง พระบูชา อันดับหนึ่ง ของภาคเหนือ ออกแบบเว็บไซต์โดย 2WinWeb design บริการรับทำเว็บไซต์
Copyright Pralanna.com All right reserved. © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายโดย บริษัท พระล้านนาดอทคอม จำกัด.