โชว์พระเกจิอาจารย์ล้านนา
เหรียญหลวงพ่อพุทธวิชิตมาร ปี16
|
|
|
|
|
|
พระพุทธวิชิตมาร" เดิมเรียกว่า "หลวงพ่อเศียรขาด" เป็นพระพุทธรูปประจำโรงเรียนการป่าไม้แพร่ ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของนักศึกษาที่เข้าไปเรียนในโรงเรียนป่าไม้แพร่ หรือโรงเรียนการป่าไม้ ปัจจุบัน ได้ยกเลิกโรงเรียนป่าไม้แพร่ เปลี่ยนสถานะไปเป็นศูนย์อบรมและพัฒนาข้าราชการสังกัดกรมป่าไม้ กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พระพุทธวิชิตมาร ประดิษฐานอยู่ ณ บริเวณโรงเรียนการป่าไม้แพร่ ตั้งอยู่เลขที่ 33 ถนนคุ้มเดิม ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ เป็นพระพุทธรูปที่ได้รับการบันทึกว่าเป็นพระพุทธรูปที่สวยงาม 1 ใน 20 พระพุทธรูปของประเทศไทย นัก นิยมพระยุคก่อนๆยอมรับว่าท่านเป็นพระปฏิมาที่ศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 20แห่งของประเทศ ทุกวันนี้ควันธูปไม่เคยจางหายจากกระถางภายในมณฑปของท่าน พระพุทธวิชิตมาร เป็นพระพุทธรูปสร้างด้วยปูนขาวสมัยโบราณ ประทับอยู่กับพื้น หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ความเป็นมาของพระพุทธวิชิตมาร จากหลักฐานและตำนานที่ได้บันทึกไว้ของโรงเรียนการป่าไม้แพร่ ดังนี้ "หนาน ขัด" แขลา (วงศ์ แขลา) อดีตเคยทำงานในคุ้มเจ้าหลวงนครเมืองแพร่ ได้เล่าว่าสมัยบวชเป็นเณร เมื่ออายุได้ 14 ปี เข้าไปเก็บผลไม้ คือ มะหลอดหรือส้มหลอด หลังป่าทึบของกำแพงเมือง ซึ่งมีเชิงเทินไว้สำหรับรบพุ่งข้าศึกและมีประตูกำแพงลอดออกไปข้างนอกได้ ประตูนี้เรียกว่า "ประตูมาร" ปัจจุบันได้ขุดเป็นถนนจากบ้านพระนอนไปสู่วิทยาลัยเทคนิคแพร่ ได้พบพระพุทธรูปองค์หนึ่งมีลักษณะสง่างามมากมีพระวรกายและพระพักตร์ขาวตลอด มีพระเกศเป็นมวยผมอยู่ด้วย ห่มจีวรสไบเฉียงสีทอง มีสายระย้าห้อยเป็นพู่เรียงกันอยู่ที่ปลายสไบ ฐานเป็นรูปบัวคว่ำบัวหงายสลับกัน บันทึกของหนานขัด ยังได้กล่าวว่า เคยชวนพวกเณรด้วยกันเข้าไปทำวัตรค่ำที่นั่นเสมอ ได้พยายามเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปองค์นี้ไปไว้ในวัดพระนอน แต่กระทำไม่ได้ เนื่องจากมีน้ำหนักมาก ต่อมา ได้สอบถามพ่อเฒ่าคำ ซึ่งขณะนั้นมีอายุประมาณ 80 ปี (พ.ศ.2414) ท่านบอกว่า พระพุทธรูปองค์นี้ เป็นพระประธานของวัดเก่าชื่อ "วัดโปรดสัตว์" เหตุที่ตั้งชื่อดังนี้เนื่องจากสมัยก่อนเมื่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจับกุม ผู้ร้ายได้ก็จะนำตัวไปประหารชีวิตแล้วจะต้องผ่านวัดนี้ พระภิกษุที่ อยู่ในวัดมักจะเข้ามาสอบถามว่ามีโทษหนักร้ายแรงขนาดไหน ถ้าเห็นว่าโทษนั้นไม่ร้ายแรงมากนักพระภิกษุจะขอบิณฑบาตไว้ แต่ถ้าเป็นโทษหนักก็จะปล่อยเลยตามเลย ทำให้ผู้กระทำผิดหลายคนหลุดพ้นจากการประหารชีวิต วัดแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า "วัดโปรดสัตว์" ในกาลต่อมาพระพุทธรูปได้ทรุดโทรมลง เนื่องจากได้มีผู้ไปตัดเศียรพระพุทธรูป เพื่อจะค้นหาข้าวของมีค่าหรือพระเครื่อง ซึ่งเข้าใจว่าบรรจุไว้ในองค์พระ เมื่อไม่พบจึงได้ขุดที่ฐานอีก ทิ้งร่องรอยปรากฏอยู่ ทำให้เศียรพระพุทธรูปหล่นอยู่ที่หน้าพระพุทธรูป ทำให้มีการเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า "หลวงพ่อเศียรขาดเมืองแพร่" จน ถึงปี พ.ศ.2511 โรงเรียนป่าไม้แพร่ โดยนายณรงค์ กฤตานุกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะศิษย์เก่าโรงเรียนป่าไม้แพร่ ได้บูรณะพระพุทธรูปองค์นี้ เป็นการใหญ่มีการระดมทุนจากศิษย์เก่าและงบประมาณจากกรมป่าไม้ พร้อมทั้งได้แต่งตั้งคณะกรรมการ ประกอบด้วย นายรัตน์ พนมขวัญ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนป่าไม้แพร่ เป็นประธาน การบูรณะดังกล่าวได้ กระทำกันถึง 2 ครั้ง รวมทั้งการต่อเศียรพระพุทธรูปองค์นี้เป็นแบบสุโขทัยปางสะดุ้งมาร ส่วนการตั้งชื่อพระพุทธรูปนั้น สมเด็จพระสังฆราชอริยวงศาคตญาณ วัดมกุฏกษัตริยาราม ประทานนามว่า "พระพุทธวิชิตมารประทานสันติสุข สวัสดีชินสีห์ธรรมบพิตร" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และทุก วันที่ 21 มกราคม ของทุกปี ศิษย์เก่าโรงเรียนป่าไม้แพร่ จะจัดงานทำบุญพระพุทธวิชิตมาร มีความเชื่อกันว่า คนที่ประกอบสัมมาชีพแล้ว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ด้วยอาจมีมารผจญคอยขัดขวางความเจริญก้าวหน้าไป ทำให้เล่าสืบต่อกันว่า ให้มากราบไหว้องค์พระพุทธวิชิตมาร ด้วยความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์พระ จะช่วยกำจัดสิ่งชั่วร้ายที่มาแผ้วพานเราให้หมดไปทันที ใครที่มี โอกาสเดินทางไปเที่ยว จ.แพร่ ถ้ามีโอกาสไปที่ศูนย์อบรมและพัฒนาข้าราชการสังกัดกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ ลองเข้าไปกราบนมัสการขอพรพระพุทธวิชิตมาร เพื่อสร้างสิริ มงคลแก่ตนเอง |
|
|
|
|
|
|
|
|
โดย : ศิวิไล [Feedback +55 -0] [+36 -1] |
|
[ 3 ] Thu 11, Aug 2011 20:47:38
|
|
|
|
|
|