ณ ลานประหาร........ นักศึกษาชายชาวอเมริกัน 3 คน เดินทางไปเที่ยวที่แม็กซิโก ในคืนวันหนึ่งทั้ง 3 คน ดื่มเหล้าในบาร์หนักไปหน่อย พอตอนเช้า ก็พบว่าทั้ง 3 คน ติดอยู่ในคุกและโดนตัดสินประหารชีวิตไปเรียบร้อย แต่ทั้ง 3 คนไม่มีใครจำได้ว่าไปทำอะไรมาบ้างเนื่องจากเมาจัด เลยเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด พอถึงวันประหารหลังจากที่นักศึกษาคนแรกถูกนำเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ไฟฟ้า เขาก็พูดสั่งเสียออกมาว่า "ผมเป็นนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยแถบแกรนด์แคนยอน ผมเชื่อในพลังของพระเจ้าและเชื่อว่าพระเจ้าจะเข้าข้างผู้บริสุทธิ์" พอสิ้นเสียงเจ้าหน้าที่ก็สับสวิทช์เก้าอี้ไฟฟ้า ปรากฎว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่เลยเชื่อว่าพระเจ้าไม่ต้องการให้นักศึกษาคนนี้ตายจึงปล่อยตัวไป เสร็จแล้วนักศึกษาคนที่ 2 ก็ถูกนำมานั่งเก้าอี้ไฟฟ้า แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสับสวิทช์ไฟ นักศึกษาคนที่ 2 ก็กล่าวมาว่า "ผมเป็นนักศึกษากฏหมายอยู่ที่ มหาวิทยาลัยอริโซน่า ผมเชื่อว่ากฏหมายอันศักดิสิทธิ์จะเข้าข้างผู้บริสุทธิ์เสมอ" พูดจบเจ้าหน้าที่ก็สับสวิทช์ทันทีปรากฏว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากฏหมายอันศักดิสิทธิ์ไม่ต้องการให้ชายผู้นี้ตายก็เลยยอมปล่อยตัวไป หลังจากนั้นพอนักศึกษาคนที่ 3 ถูกนำมานั่งเก้าอี้ไฟฟ้าเขาก็กล่าวว่า "ผมเป็นนักศึกษาวิศวะไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัย(ขอสงวนสิทธิ์ไม่เอ่ยนามสถาบัน) และผมจะขอบอกพวกคุณว่าถ้าพวกคุณไม่ต่อสายไฟ 2 เส้นที่ขาดอยู่นั้นเข้าด้วยกัน ไอ้เก้าอี้ไฟฟ้าตัวนี้ก็จะไม่มีวันใช้การได้" หลังจากนั้นอีก 5 นาที วิญญานของนักศึกษาคนที่ 3 ก็ไปสู่สุขคติ
คติสอนใจ: บางครั้งการใช้ความรู้ความสามารถของตนอย่างไม่ถูกกาลเทศะอาจทำให้เกิดหายนะมาสู่ตัวคนพูดได้ ดังนั้นคนเราจึงควรมีไหวพริบและการไตร่ตรองก่อนที่จะพูดหรือทำอะไรออกไป
|