นามเดิม สังข์ คะลีล้วน เกิดเมื่อ วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๓ ณ บ้านข่า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม โยมบิดามารดาชื่อ นายเฮ้า และ นางลับ คะลีล้วน เข้าบรรพชาเมื่อ อายุ ๑๘ ปี ณ พัทธสีมา วัดศรีเทพประดิษฐาราม โดยมี พระสารภาณมุนี (จันทร์ เขมิโย) เป็นพระอุปัชฌาย์ (ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพสิทธาจารย์) ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๓ อายุ ๒๐ ปี บริบูรณ์ได้อุปสมบท ณ พัทธสีวัดป่าบ้านสามผง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม โดยมีพระอาจารย์เกิ่ง อธิมุตฺตโก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระทัด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์บุญส่ง โสปโก เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากบรรพชาเสร็จก็กลับมาจำพรรษาที่วัดอรัญญวิเวกบ้านข่า ซึ่งเป็นบ้านเกิด เมื่อครั้งเป็นสามเณร หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ได้มาพำนักที่วัดป่าบ้านหนองผือนาใน ท่านก็ได้มีโอกาส ได้ไปรับฟังพระธรรมเทศนาจากหลวงปู่มั่นโดยตรง แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจเพราะยังเป็นเด็กอยู่ ท่านเป็สามเณรอยู่สามปี สามนักธรรมชั้นตรี - โท ได้จากสนามสอบวัดศรีชมชื่น ซึ่งเป็นวัดบ้าน เพราะยุคนั้นสนามสอบของคณะธรรมยุตยังไม่มี ท่านได้ออกติดตามหาหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติทางยาย คือปู่ของหลวงปู่ตื้อ เป็นพี่ชายของคุณยายของท่านได้ยิน แต่กิตติศัพท์ของหลวงปู่ตื้อมานาน แต่ไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อนเลย จึงอยากจะออกติดตามหาหลวงปู่ตื้อ มีพระและญาติโยมขึ้นมาเชียงใหม่เป็นครั้งแรก โดยมีพี่ชายของหลวงปู่ตื้อ มีพระและญาติโยมตามมาด้วยซึ่งเมื่อถึงจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ก็เข้าพักที่จังหวัดเชียงใหม่ก่อน ได้ยินว่าหลวงปู่ตื้อจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าดาราภิรมย์ จึงตามไปพบท่านที่วัดป่าดาราภิรมย์ เมื่อได้พบหลวงปู่ตื้อแล้ว ก็พักอยู่ที่วัดป่าดาราภิรมย์ระยะหนึ่งจึงเดินทางกลับบ้านเกิด พ.ศ.๒๔๙๓ เมื่ออุปสมบทแล้ว ก็อยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านสามผงกับพระอุปัชฌาย์เป็นเวลา ๕ ปี ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้ที่วัดป่าบ้านสามผงแห่งนี้ แล้วทำหน้าที่เป็นครูสอนนักธรรมช่วยพระอุปัชฌาย์ จากนั้นปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ท่านจึงออกเดินทางขึ้นเหนือเพื่อมาอยู่กับหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ที่วัดป่าดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่ท่านได้เรียนบาลีไวยากรณ์กับพระมหามณี พยอมยงค์ จนจบชั้นหนึ่ง สอบได้แล้วจึงหยุดเรียน เพราะจิตใจใฝ่ในทางธุดงค์มากกว่าท่านจึงได้ออกวิเวกแถบจังหวัดเชียงราย โดยมี พระอาจารย์ไท ฐานุตฺตโม เป็นสหธรรมิก เที่ยววิเวกไปด้วยกัน ได้พบพระอาจารย์มหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต ที่วัดถ้ำผาจรุย อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม สร้างวัดป่าสามัคคีธรรมซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดป่าอาจารย์ตื้อ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ท่านได้กลับจากเที่ยววิเวกมาจำพรรษากลับหลวงปู่ตื้อที่วัดป่าอาจารย์ตื้อ ได้พัฒนาและบูรณะวัดนี้มาตลอด ในปี พ.ศ.๒๕๒๓ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้ออย่างเป็นทางการ ได้สร้างอุโบสถหนึ่งหลัง ในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้รับพระราชสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทฝ่ายวิปัสสนาธุระที่พระครูภาวนาภิรัต ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้มาเป็นเวลากว่า ๔๔ ปีแล้ว ปัจจุบันอายุ ๘๐ ปี พรรษา ๖๐
ท่านเป็นพระอริยะสงฆ์ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐานสายพระอาจารย์รูปหนึ่งที่น่ากราบน่าไหว้ครับ
สำหรับล็อกเก็ตองค์นี้เป็นล็อกเก็ตรุ่นแรกฉากทอง สร้างแค่ ๘๐ องค์ครับ |